ทักษะสำคัญของผู้จัดการ ที่จะทำให้การทำงานแบบ Hybrid ได้ผลดี

เมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้ลงบทความเกี่ยวกับการทำงานแบบ Hybrid ไป ในมุมของสิ่งที่ผู้จัดการและผู้บริหารต้องตระหนักถึง เพื่อที่จะทำให้การทำงานแบบ Hybrid เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และเกิดความเป็นธรรมกับพนักงานทุกคน เพราะถ้าเราทำงานกันแบบ Hybrid จริงๆ เราจะเห็นพนักงานแต่ละคนทำงานแตกต่างกันไปตามสถานที่และเวลาในการทำงาน บางคนอาจจะไม่ได้เจอหน้าเจอตากันเลยก็อาจจะเป็นไปได้

วันนี้นำเอาแนวทางในการบริหารจัดการ และทักษะที่สำคัญของคนที่เป็นผู้จัดการ ที่จะต้องมี และต้องทำ ถ้าองค์กรของเราต้องทำงานแบบ Hybrid จริงๆ ว่า ผู้จัดการจะต้องมีทักษะอะไรบ้าง

  • Communication ทักษะสำคัญทักษะแรกที่จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมี และต้องมีอย่างดีด้วยก็คือ ทักษะในการสื่อสาร เนื่องจากพนักงานทำงานกันคนละที่ รวมทั้งตัวผู้จัดการเองก็เช่นกัน อาจจะทำงานจากที่บ้าน หรือเข้าออฟฟิศ ซึ่งอาจจะไม่ได้พบหน้าพบตากับพนักงานตนเอง ดังนั้น ทักษะในการสื่อสาร เพื่อพูดคุยและติดตามงานจึงมีความสำคัญมาก จากเดิมที่ผู้จัดการเห็นพนักงานทำงานตลอดเวลาทำงาน แต่การทำงานแบบ Hybrid ผู้จัดการจะไม่มีโอกาสเห็นพนักงานนั่งทำงาน และไม่เห็นพฤติกรรมในการทำงานระหว่างวัน ดังนั้น การหมั่นติดตาม และสื่อสารกันจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เลย ผู้จัดการจะต้องรู้จักสไตล์การทำงานของพนักงานตนเอง และรู้จักที่จะหาวิธีการในการสื่อสารกับพนักงานแต่ละคนอย่างได้ผล
  • Design new working Process จะต้องมีความสามารถในการออกแบบปรับปรุง ระบบการทำงานใหม่ๆ ให้สอดคล้องกับความยืดหยุ่นของงานที่เปลี่ยนแปลงไป เพราะการทำงานแบบ Hybrid อาจจะทำให้การทำงานไม่เหมือนเดิมในแต่ละวัน ต้องเปลี่ยนแปลงไปตามลักษณะงาน และลักษณะของการทำงานของพนักงานแต่ละคน สัปดาห์นี้คนนี้เข้า คนนี้อยู่บ้าน คนนี้ขอ Flex time คนนั้นหยุด ฯลฯ ดังนั้นการทำงานให้ได้ผลตามแผนงานจึงต้องมีการปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา ถ้าทำงานแบบเดิม ก็อาจจะทำให้ประสิทธิภาพของงาน และผลลัพธ์ของงานไม่ได้ตามเป้าหมายที่เรากำหนดไว้ก็ได้ ดังนั้นผู้จัดการที่ดี ในการทำงานแบบ Hybrid จะต้องคิด และปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานได้ตลอดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
  • Open mind จะต้องเปิดใจให้กว้างขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากการทำงานแบบยืดหยุ่นนั้น หลาย ๆ ครั้ง อาจจะทำให้ผู้จัดการเกิดความลำเอียงได้ เนื่องจากเราเห็นพฤติกรรมในการทำงานของพนักงานที่อยูกับเรา แต่เราจะไม่เห็นพฤติกรรมการทำงานของพนักงานที่ทำงานจากที่บ้าน ดังนั้น เมื่อไหร่ที่มีการพูดคุยติดตามงาน หรือประเมินผลงาน ผู้จัดการจะต้องมองถึงผลลัพธ์ของงานมากกว่า หรือพิจารณาจากพฤติกรรมที่เราเห็นในแต่ละช่วงเวลาที่พนักงานมาทำงานให้เราเห็น อีกทั้งยังต้องเป็นผู้จัดการที่สื่อสารกับพนักงานได้ตรงไปตรงมาว่า ถ้าพนักงานรู้สึกว่า เกิดความไม่เป็นธรรมในการทำงานอันเกิดจากการทำงานแบบ Hybrid ก็ให้คุยกันได้ตรง ๆ เลย ไม่ต้องกลัว หรือกังวล ผู้จัดการจะต้องสร้างบรรยากาศในการทำงานแบบปลอดภัย (Psychology Safety) ให้เกิดขึ้นกับทีมงานให้ได้
  • Monitor จะต้องหมั่นตรวจสอบการทำงานของพนักงานเป็นระยะ ๆ เดิม เราเห็นพนักงานทำงาน ก็เหมือนกันได้ตรวจสอบการทำงานอยู่ตลอด แต่การทำงานแบบ Hybrid เราไม่เห็นพนักงานทำงานในเวลาทำงาน เห็นไม่ครบทุกคน ดังนั้นทักษะสำคัญอีกประการหนึ่งที่ผู้จัดการจะต้องมีก็คือ การตรวจสอบการทำงานของพนักงาน การติดตามการทำงาน โดยที่ไม่ทำให้พนักงานรู้สึกถูกจับผิด ต้องมีการกำหนดระยะเวลาในการติดตาม ตรวจสอบให้เป็นระบบ มีการ Check-in กันโดยกำหนดเวลาล่วงหน้าให้พนักงานทุกคนได้ทราบ รวมถึงจะต้องมีการ Feedback พนักงานอย่างจริงจัง และสม่ำเสมอ เพื่อให้พนักงานสามารถทำงานได้ตามแผนงาน และเป้าหมายที่กำหนดไว้

นอกนั้น ก็จะเป็นทักษะปกติที่ผู้จัดการทุกคนต้องมีอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการสร้างแรงจูงใจ การสร้างทีมงาน การสอนงาน การมอบหมายงาน การวางแผนติดตามและควบคุมงาน การคิดเชิงกลยุทธ์ รวมถึงทักษะด้านผู้นำอื่น ๆ ที่จำเป็น

อย่างน้อยก็ไม่ทำให้การทำงานแบบ Hybrid กลายเป็นการให้พนักงานพักผ่อน สบาย ๆ แล้วงานไม่เสร็จตามแผนงาน หรือกลายเป็นข้ออ้างของพนักงานได้ว่า “วันนี้ทำงานที่บ้าน ก็เลยทำงานไม่ได้” อย่างที่เคยๆ เป็นกัน

ใส่ความเห็น

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Connecting to %s

บลอกที่ WordPress.com .

Up ↑

%d bloggers like this: