ในปัจจุบันนี้มีการพูดถึงเรื่องของ Burnout กันมาก ก็คือ ภาวะที่คนเรารู้สึกเหนื่อยล้า รู้สึกหมดพลัง หมดไฟ หมดแรงในการทำงาน และไม่อยากทำงานอีกต่อไป จนบางคนรู้สึกว่าตนเองเป็นโรคซึมเศร้าไปเลยก็มี แต่จริงๆ แล้วก็คือ รู้สึกเหนื่อยล้าในการทำงานมากกว่า
ภาวการณ์แข่งขัน สภาพเศรษฐกิจ รวมถึงเทคโนโยลีอันทันสมัย ทำให้คนเราปัจจุบันไม่สามารถที่จะแบ่งเวลาในการทำงาน กับเวลาในการใช้ชีวิตส่วนตัวได้อย่างชัดเจน บางคนทำงานทั้งวัน ยกเว้นเวลานอนก็มีให้เห็นแล้ว เนื่องจากอยู่ที่ไหนก็ทำงานได้ และติดต่อกันได้ตลอดเวลาไม่ว่าจะอยู่ส่วนใดของโลกก็ตาม ก็เลยยิ่งทำให้คนเราพบกับภาวะการเหนื่อยล้าจากการทำงานมากขึ้นเรื่อยๆ
บางคนก็บอกว่า เดี๋ยวนี้ดึกๆ ดื่นๆ ก็มักจะได้รับคำสั่งจากนายอยู่ประจำเลย แถมยังบอกว่า จะต้องส่งให้นายพรุ่งนี้เช้าด้วย เวลาสั่งงานก็ประมาณตีหนึ่ง แต่จะให้ส่งงานแปดโมงเช้าวันรุ่งขึ้น เป็นต้น บางคนก็บอกว่าเดี๋ยวนี้วันหยุดสุดสัปดาห์เสาร์อาทิตย์ ก็เหมือนกับวันทำงานปกติเลย เพียงแต่ไม่ต้องเข้าบริษัทแค่นั้นเอง นายก็สั่งงานเหมือนกับวันทำงานปกติ เลยทำให้เวลาที่ให้กับตนเอง กับครอบครัวแทบจะไม่มี พอสะสมนานวันเข้า ก็เกิดความเครียดในการทำงาน เครียดมากๆ เข้า และไม่มีทางออก ก็เริ่มเหนื่อย เริ่มล้า และเริ่มหมดไฟในการทำงานมากขึ้น
ผมเอาผลการสำรวจที่เกี่ยวกับความเหนื่อยล้าจากการทำงาน ซึ่งจัดทำโดย Kronos Inc. and Future Workplace study, 2016 ที่ลงอยู่ในนิตยสาร HR Magazine .เดือนสิงหาคม 2017 ที่เขาทำสำรวจกับพนักงานในประเทศสหรัฐอเมริกาถึงเรื่องของสาเหตุของการเหนื่อยล้าในการทำงานว่าเกิดจากอะไรบ้าง ซึ่งเป็นข้อมูลที่น่าสนใจมาก สาเหตุมีดังต่อไปนี้
- สาเหตุประการที่หนึ่งคือ มาจากเรื่องของการบริหารค่าจ้างเงินเดือนของบริษัทที่ไม่มีความเป็นธรรม ทำงานหนักแต่ผลตอบแทนเมื่อเทียบพนักงานที่ทำงานเบากว่า กลับได้น้อยกว่า หรือประเด็นของการตอบแทนที่ไม่เป็นไปตามผลงานของพนักงาน ความไม่เป็นธรรมเหล่านี้ ทำให้พนักงานรู้สึกขาดแรงจูงใจ และส่งผลต่อพลังในการทำงาน
- สาเหตุประการที่สอง มาจากภาระและปริมาณงานที่มากขึ้นอย่างไม่มีเหตุผล พนักงานรู้สึกว่า ยิ่งมีเวลามากขึ้นอันเนื่องมาจากเทคโนโลยีที่ทำให้เราทำงานได้เร็วขึ้น แต่เรากลับไม่รู้สึกว่างานมันน้อยลงไปเลย กลับมีงานเข้ามาให้ทำได้อย่างต่อเนื่องไม่หยุดเลย ซึ่งปริมาณงานที่มากเกินกว่าที่ร่างกายจะรับได้นั้นก็จะส่งผลให้เกิดความเหนื่อยล้าในการทำงานตามมาได้
- สาเหตุประการที่สาม มาจากการทำงานล่วงเวลาที่มากเกินไป บางองค์กรต้องการผลผลิตต่อเนื่องโดยที่ไม่ต้องการเพิ่มกำลังคน ก็เลยต้องเพิ่มเวลาทำงานให้กับพนักงานที่มีอยู่ ช่วงแรกๆ พนักงานเองก็รู้สึกดี ที่ได้รับค่าจ้างมากขึ้น แม้ว่าจะต้องทำงานโดยใช้ชั่วโมงการทำงานที่มากขึ้นก็ตาม แต่พอทำงานล่วงเวลาเข้านานๆ ก็เริ่มเหนื่อย และเริ่มที่จะไม่ไหว ความเหนื่อยล้าก็เกิดขึ้น
- สาเหตุประการที่สี่ คือ เกิดจากการบริหารจัดการที่ไม่ดีพอ ซึ่งส่งผลให้การทำงานเกิดความซ้ำซ้อนกัน ทำแล้วทำอีก บางแห่งทำงานเดียวกันแต่หลายรอบ และหลายหน่วยงานก็ทำงานซ้ำซ้อนกันไปหมด ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็ทำให้พนักงานต้องเหนื่อยล้าโดยไม่จำเป็น
- สาเหตุประการที่ห้า คือ จากสภาพการทำงานที่ไม่เหมาะสม ซึ่งสภาพการทำงานนี้ก็มีทั้งแบบกายภาพ เช่น ร้อนเกินไป หนาวเกินไป ขาดเรื่องความปลอดภัยในการทำงาน ซึ่งทำให้พนักงานรู้สึกถึงความไม่มั่นคงในการทำงาน รวมทั้งสภาพการทำงานในเชิงของจิตใจ เช่น นายกดดัน นายไม่สร้างแรงจูงใจ ไม่มีการสื่อสารกัน ฯลฯ
พรุ่งนี้จะมาต่อในเรื่องของอาการของที่เริ่ม Burnout ว่าจะมีอาการอย่างไรบ้าง เผื่อว่า ท่านผู้อ่านจะพิจารณาตัวเองได้ว่า ตอนนี้เรากำลังเหนื่อยล้า และหมดไฟในการทำงานหรือเปล่า

ใส่ความเห็น