Engagement คืออะไร ทำไมฮิตกันจัง

ผมไปพบลูกค้าไม่ว่าจะบริษัทใหญ่บริษัทเล็ก ต่างก็พูดถึงคำว่า Engagement กันทั้งนั้น ก็มีทั้งเข้าใจถูกและเข้าใจไม่ครบถ้วนบ้าง แต่ผู้บริหารแทบทุกคนต่างก็อยากให้พนักงานของตนเองนั้นเกิด Engagement กันทั้งนั้น

คำว่า Engagement นั้น ถ้าจะแปลความแบบง่ายๆ ก็คือ การทำให้พนักงานในองค์กรรู้สึกผูกพันกับองค์กร คำว่าผูกพัน (Engage) นั้น กินความหมายลึกซึ้งมากนะครับ มันไม่ใช่แค่เพียงอยากอยู่กับองค์กรเท่านั้น มันยังหมายความรวมถึงการสร้างมูลค่าเพิ่มทางด้านผลงานให้เกิดขึ้นกับองค์กรด้วย

ดังนั้นถ้าพนักงานคนใดมีความรู้สึกผูกพันกับองค์กรตามความหมายของ Engagement นั้น จะต้องเป็นพนักงานที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจ เพื่อสร้างผลงานที่ดีเยี่ยมให้กับองค์กรด้วย คือ ไม่ใช่อยู่ไปวันๆ แล้วบอกว่ารักองค์กร รู้สึกดีกับองค์กร ก็เลยไม่อยากไปไหน แต่ก็ไม่สร้างผลงานใดๆ ที่ดีขึ้นด้วย อย่างหลังนี่ไม่ใช่ Engagement นะครับ

ดังนั้นผู้บริหารหลายคนก็เข้าใจว่า Engagement นั้น ถ้าพนักงานรู้สึกพอใจ และอยากอยู่กับองค์กรก็ถือว่าพนักงานมีความรู้สึกผูกพันแล้ว มีหน่วยงานบางแห่งจ้างที่ปรึกษาไปช่วยศึกษาเรื่องความผูกพันของพนักงานในองค์กร ที่ปรึกษาเองก็พบว่า คะแนนความผูกพันที่ออกมานั้น ต่ำกว่ามาตรฐาน พอไปรายงานให้กับผู้บริหาร ผู้บริหารก็ไม่เชื่อ เพราะเขารู้สึกว่า ที่เขาสัมผัสกับพนักงานนั้น พนักงานเองก็ไม่ค่อยลาออก และก็อยู่กับบริษัทกันมายาวนานมาก ดังนั้นเขาเองก็ไม่เชื่อว่าคะแนนจะต่ำกว่ามาตรฐาน

แต่จริงๆ แล้วที่ปรึกษาไม่ได้ศึกษาเรื่องอัตราการลาออกนะครับ เขาศึกษาลึกกันลงไปอีกว่า พนักงานรู้สึกอย่างไร พนักงานยินดีที่จะทุ่มเทสร้างผลงานจริงหรือไม่ ผลที่ออกมาก็คือ พนักงานยังอยากอยู่ทำงานต่อไป เพราะองค์กรมีความมั่นคง ไม่มีทางเจ๊งได้เลย เงินเดือนอาจจะไม่ได้มากมาย แต่สวัสดิการดีมาก แต่สิ่งที่พนักงานกว่า 70% ตอบเหมือนกันก็คือ อยากอยู่ไปเรื่อยๆ แบบนี้ ทำงานตามที่ได้รับมอบหมาย แต่ไม่อยากทุ่มเทมากมาย เพราะทำไปก็ไม่ค่อยได้อะไรขึ้นมา ถามว่าอยากลาออกมั้ย กว่า 75% ก็ตอบว่าอยากไปนะ แต่กลัวว่าที่อื่นจะไม่ดีเท่านี้ และกลัวจะต้องเหนื่อยกับการทำงานใหม่ ดังนั้นอยู่ที่นี่ก็ไม่มีอะไรต้องเหนื่อยแล้ว

เป็นไงครับ กรณีข้างบน อัตราการลาออกของพนักงานน้อยมาก เรียกว่าบางปีถ้าไม่นับคนเกษียณแล้ว ก็แทบจะไม่มีพนักงานลาออกเลย ผู้บริหารก็รู้สึกดี เพราะเห็นตัวเลขอัตราการลาออกน้อยมาก ทำให้เขารู้สึกว่า นี่แหละคือการ Engage ของพนักงาน แต่เขาคิดผิดมากๆ นะครับ เพราะพนักงานส่วนใหญ่อยากอยู่ แต่ไม่อยากสร้างผลงานให้กับองค์กรเลย อยากอยู่เพราะสบายมากกว่า

ดังนั้น การที่องค์กรอยากให้พนักงานรู้สึกผูกพันกับองค์กรนั้น องค์กรจะต้องทำให้พนักงานอยากสร้างผลงาน อยากเพิ่มมูลค่าในผลงานของตนเอง และทำให้องค์กรเจริญขึ้นเรื่อยๆ พูดง่ายๆ ว่าพนักงานที่มีความรู้สึกผูกพันกับองค์กรจะต้องมีลักษณะดังนี้ครับ

  • พนักงานต้องพูดถึงองค์กรในแง่ดีเวลามีคนถามถึงทั้งต่อหน้าและลับหลัง ไม่นินทาองค์กร และผู้บริหารของตนเองในทางเสียหาย
  • พนักงานมีความรู้สึกอยากอยู่ทำงานกับองค์กร และพร้อมที่จะแนะนำคนอื่นที่มีฝีมือเข้ามาร่วมงานกับองค์กรด้วย
  • พนักงานอยากสร้างผลงานให้กับองค์กร โดยไม่สนใจว่ามันจะทำให้เขาต้องมีภาระความรับผิดชอบที่มากขึ้น ต้องเหนื่อยมากขึ้น ขอเพียงแค่ว่า สิ่งที่เขาทำนั้นสามารถทำให้องค์กรดีขึ้น เขาก็รู้สึกภูมิใจแล้ว

ดังนั้น ความพึงพอใจของพนักงานที่สูงนั้น ไม่ได้แปลว่า พนักงานรู้สึกผูกพันกับองค์กรนะครับ มันต้องศึกษาลงไปลึกกว่านั้นครับ

สิ่งที่ตามมาก็คือ แล้วจะทำอย่างไรให้พนักงานรู้สึกผูกพันกับองค์กรล่ะ เพราะมันมีบทพิสูจน์มาเยอะแล้วว่า ถ้าพนักงานรู้สึกผูกพันแล้วผลกำไร และผลงานขององค์กรจะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ผู้บริหารทุกคนก็อยากให้พนักงานเกิดความผูกพันกับองค์กรอยู่แล้ว

แต่จากประสบการณ์ของผมในฐานะที่ปรึกษา ผมบอกได้เลยว่า การที่พนักงานไม่รู้สึกผูกพันนั้น ต้นเหตุแรกเลยก็คือ ผู้บริหารระดับสูงนั่นเองครับ ผมได้รวบรวมสาเหตุมาดังนี้ครับ

  • ผู้บริหารระดับสูงขาดวิสัยทัศน์ในการนำพาองค์กร
  • ผู้บริหารระดับสูงไม่ Action
  • ผู้บริหารระดับสูงให้สัญญา แต่ไม่ทำตามสัญญาที่ให้ไว้
  • ผู้บริหารระดับสูงเน้นแต่ผลกำไร ไม่เคยเน้นเรื่องความเป็นอยู่ของพนักงาน
  • ผู้บริหารระดับสูงเข้าถึงยาก และไม่เคยเหลียวแลพนักงาน
  • ฯลฯ

ที่ยกมาเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้นนะครับ แต่ก็เป็นส่วนใหญ่ที่พนักงานพูดถึงเกินกว่า 60% และนอกจากผู้บริหารระดับสูงแล้ว ก็ยังมีปัจจัยอื่นๆ อีกเยอะนะครับที่ช่วยทำให้เกิด Engagement ของพนักงาน ไม่ว่าจะเป็นผู้บริหารระดับกลาง หัวหน้างาน นโยบายในด้านต่างๆ ขององค์กร ฯลฯ

สรุปก็คือ ถ้าจะสร้างความผูกพันของพนักงานให้เกิดขึ้นได้นั้น จะต้องเริ่มจากผู้บริหารระดับสูงขององค์กรเลย เขาจะต้องโดดเข้ามามีส่วนร่วมอย่างจริงจัง ไม่ใช่แค่สั่งให้ HR ทำไป แต่เขาก็ยังทำตัวเหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนแปลงใดๆ แบบนี้การสร้างความผูกพันของพนักงานก็แทบจะไม่มีทางเกิดขึ้นได้เลยครับ

หัวไม่ไป แล้วหางจะขยับหรอครับ

36 thoughts on “Engagement คืออะไร ทำไมฮิตกันจัง

Add yours

  1. ขออนุญาตนำบางประโยคไปเผยแพร่ให้เพื่อนๆ ได้รับทราบของสาเหตุความล้มเหลวในการผลักดัน Employee Engagement หน่อยนะค่ะ

      1. อยากสอบถามเรื่องการประเมินความผูกพันองค์กรค่ะ คำว่าต่ำกว่ามาตรฐาน ต้องมีเกณฑ์ถูกไหม?ค่ะ แล้วอยากทราบว่า การประเมินความผูกพันองค์กรนี่ ควรประเมินอย่างไร ดูอะไรบ้าง แล้วเกณฑ์มาตรฐาน เป็นอย่างไร? ใครกำหนดค่ะ ….ขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ พอดีเพิ่งศึกษา แล้วต้องทำงานเรื่องนี้ ค่ะ

      2. เรื่องของการประเมินความผูกพันนั้น ต้องมีค่ามาตรฐานครับ โดยทั่วไป บริษัทที่ปรึกษาที่ทำเรื่องนี้มาสักพัก จะมีข้อมูล ฺBenchmark ของตลาด หรือของธุรกิจนั้นๆ ว่า ค่ามาตรฐานคือเท่าไหร แล้วก็เอาของบริษัทเราเข้าไปเทียบกับค่ามาตรฐานนั้นครับ ทั้งนี้ถ้าเราต้องการเทียบกับตลาดนะครับ แต่บางแห่งต้องการที่จะพัฒนาภายในบริษัทเท่านั้น ก็เลยไม่ต้องไปเทียบกับค่ามาตรฐานครับ แค่ให้เห็นว่าประเด็นไหนที่ต้องพัฒนา และเป็นประเด็นที่พนักงานรุ้สึกมากๆ ก็เอาเรื่องนั้นมาพัฒนาต่อ เพื่อสร้างความผูกพันให้เกิดขึ้นได้ครับ

  2. ผู้บริหารควรจะมีการบริหารงานที่ดีและต้องทำให้ได้ตามสัญญาที่พูดพนักงานจึงจะเชื่อมั่นในการบริหารงานและต้องสร้างสัมพันธ์ว่าการที่ผู้บริหารกับพนักงานสามารถเข้าถึงกันได้ง่ายจึงจะมีความผูกผันและสร้างสวัสดิการที่ดีและทำให้พนักงานกระตือรือร้นเพื่อให้พนักงานสามารถสร้างผลงานที่ดีให้กับตนเองและทำงานในองค์ในเกิดการเจริญเติบโตขึ้นเรื่อยๆ

  3. ต้องเป็นพนักงานที่ดีทุ่มเทผลงานที่ตัวเองสร้างขึ้น เป็นมิตรกับทุกคน พูดจาไพเราะ เต็มใจรับฟังทุกคำปรึกษาเกี่ยวกับงาน

  4. ผู้นำควรเป็นตัวอย่างให้ลูกน้อง ให้ลูกน้องรู้สึกว่าผูกพันธ์กับงานและรักในองค์กร ทุ่มเทให้กับงาน ทุกสิ่งทุกอย่างเริ่มต้นจากผู้นำเพื่อให้ผู้ตามนั้นได้กล่าวตาม แนะนำสิ่งดีๆ ควรตักเตือนหากลูกน้องทำผิด ให้ลูกน้องรู้สึกผิดชอบชั่วดีและไม่ทำอีก ให้ลูกน้องรู้สึกมีกำลังใจที่จะทำงานต่อไป

  5. ผู้นำ หมายถึง บุคคลผู้ซึ่งสามารถชี้นำพนักงานไปในทางที่ต้องการ เป็นบุคคลที่มีส่วนร่วมและเกี่ยวข้องโดยตรงต่อการแสดงบทบาทหรือพฤติกรรมความเป็นผู้นำ มีหน้าที่ควบคุมพนักงานทำให้พนักงานเข้าใจในงาน

  6. ผู้นำควรเป็นตัวอย่างให้ลูกน้อง ให้ลูกน้องรู้สึกว่าผูกพันธ์กับงานและรักในองค์กร ทุ่มเทให้กับงาน ทุกสิ่งทุกอย่างเริ่มต้นจากผู้ให้ผู้ตามนั้นกล่าวตาม แนะนำสิ่งดีๆ

  7. ผู้นำต้องทำเป็นตัวอย่าง ทุ่มเท รักงาน มนุษยสัมพันธ์ดี ทำให้พนักงานมีความเชื่อมั่นในตัวผู้นำ รับคำปรึกษาด้วยความ เต็มใจนำพาลูกน้องและองค์กรให้เจริญเติบโตได้

  8. การที่จะทำให้พนักงานรู้สึกผูกพันธ์ต่อองค์กรอันดับแรกฉันคิดว่าน่าจะเริ่มต้นจากผู้บริหารระดับสูง เพราะผู้บริหารจะเข้าถึงยากแล้วก็คำนึงถึงผลกำไรตัวเองเป็นหลักโดยไม่สนใจความเป็นอยู่ของพนักงาน ทำให้พนักงานบางคนคิดว่าทำงานแทบตายแต่เค้าก็ไม่ได้สนใจเลยทำแค่ให้ผ่านไปวันๆและอาจจะชินกับการทำงานแบบเก่า บางคนก็ไม่ได้ผูกพันธ์แต่อยากอยู่เฉยๆเพราะกลัวการเริ่มใหม่หรือที่นี่อาจจะสบายอยู่แล้ว

  9. คือการทำให้พนักงานในองค์กรรู้สึกผูกพันกับองค์กร ทำงานดีได้ผลงานอย่างมีคุณภาพ มีแรงกายในการทำงานอย่างดียิ่งขึ้น

  10. สิ่งแรกที่ผู้นำควรมีคือมนุษยสัมพันธ์ เพราะการมีมนุษยสัมพันธ์ต่อลูกน้องนั้นจะทำให้การทำงานในทุกๆวันไม่น่าเบื่อและควรจะเป็นต้นแบบที่ดีให้แก่ลูกน้องเพื่อให้ลูกน้องได้มีความเชื่อใจและมีความไว้ใจในตัวของผู้นำ

  11. ถ้าอยากให้ลูกน้องมีEngagementหัวหน้างานหรือผู้นำควรวางตัวให้ลูกน้องอยากที่จะใกล้ชิดสนิทก่อน ลูกน้องอาจจะมีความรู้สึกไว้วางใจอยากที่จะทำงานด้วย หัวหน้าก็เพิ่มความเป็นกันเองเหมือนครอบครัวลงไปแล้วลูกน้องจะเต็มที่กับงานเอง

  12. การที่องค์กรให้พนักงานรู้สึกผูกพันกับองค์กรและหัวหน้างาน และผู้บริหารงานต้องทำงานให้ดีและมีความรับผิดชอบมากเป็นตัวอย่างแก่ลูกน้องและสร้างสวัสดิการให้แก่ลูกน้องตามสัญญาเพื่อผลของงานของตนและลูกน้องออกมาดีและยังเพิ่มความสัมพันธ์อันไหมตรีแก่ลูกกน้องอีกมากขึ้นด้วย

  13. ผู้บริหารต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่พนักงาน และเป็นตัวอย่างที่ดีขององค์กร พยายามเข้าหาพนักงาน สอบถาม แนะนำ เกี่ยวกับงานในองค์กร เป็นมิตรแก่พนักงาน เต็มใจรับฟังทุกคำปรึกษาของพนักงาน มีความกระตือรือร้น ทุ่มเทและผูกพันธ์กับงาน ทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับพนักงาน ตรงต่อเวลา สร้างผลงานให้องค์กรอยู่บ่อย ๆ อาจทำให้องค์กรมีการเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ให้พนักงานรู้สึกผูกพันธ์กับองค์กรนั้น แล้วจะประสบผลสำเร็จ

  14. ผู้นำควรเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูกน้องและองค์กร ทำให้ลูกน้องรู้สึกผูกพันธ์และเคารพนับถือ ทุ่มเทให้กับหน้าที่การงานต้องมีส่วนร่วมในงานอย่างจริงจังแนะนำแต่สิ่งดีๆไม่เอาเปรียบลูกน้องทุกสิ่งทุกอย่างก็จะเป็นไปได้ด้วยดี งานจะดีได้ต้องมีผู้นำที่ดีด้วยค่ะ

  15. ผู้นำนั้นควรเป็นคนที่เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูกน้องในองค์กร รวมไปถึงเป็นที่ปรึกษาที่ดีให้กับลูกน้อง และเข้าใจและเอาใจใส่ลูกน้องให้เหมือนเป็นบุคคลในครอบครัว ซึ่งจะทำให้พนักงานทุกคนในองค์กรรู้สึกมีคุณค่า และ ทำงานได้เต็มที่ เพื่อตอบแทนหัวหน้า และ องค์กร ซึ่่งถือว่าจะเป็นส่วนที่ทำให้องค์กรเกิดการเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว

  16. ผู้นำควรเป็นตัวอย่างให้ลูกน้อง ให้ลูกน้องรู้สึกว่าผูกพันธ์กับงานและรักในองค์กร ทุ่มเทให้กับงาน ทุกสิ่งทุกอย่างเริ่มต้นจากผู้ให้ผู้ตามนั้นกล่าวตาม แนะนำสิ่งดีๆ มีความกระตือรือร้น ทุ่มเทและผูกพันธ์กับงาน ทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับพนักงาน ตรงต่อเวลา สร้างผลงานให้องค์กรอยู่บ่อย ๆ อาจทำให้องค์กรมีการเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ให้พนักงานรู้สึกผูกพันธ์กับองค์กรนั้น แล้วจะประสบผลสำเร็จ

  17. ผู้นำควรเป็นตัวอย่างให้ลูกน้อง ให้ลูกน้องรู้สึกว่าผูกพันธ์กับงานและรักในองค์กร ทุ่มเทให้กับงาน ทุกสิ่งทุกอย่างเริ่มต้นจากผู้ให้ผู้ตามนั้นกล่าวตาม แนะนำสิ่งดีๆ มีความกระตือรือร้น ทุ่มเทและผูกพันธ์กับงาน ทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับพนักงาน ตรงต่อเวลา สร้างผลงานให้องค์กรอยู่บ่อย ๆ อาจทำให้องค์กรมีการเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ให้พนักงานรู้สึกผูกพันธ์กับองค์กรนั้น แล้วจะประสบผลสำเร็จ MM99-1

  18. ผู้นำเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้พนักงานทุกคนที่อยู่ในองค์กรมีความผูกพันกัน ช่วนเหลือกันและรักในการทำงานขององค์กร ผู้นำต้องให้คำปรึกษากับพนักงานได้ เหมือนทำงานแบบเพื่อนกัน ไม่ถือตัวว่าเป็นผู้นำ ให้ความสำคัญกับพนักงานทุกคน

  19. ผู้นำเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้พนักงานทุกคนที่อยู่ในองค์กรมีความผูกพันกัน ช่วนเหลือกันและรักในการทำงานขององค์กร ผู้นำต้องให้คำปรึกษากับพนักงานได้ เหมือนทำงานแบบเพื่อนกัน ไม่ถือตัวว่าเป็นผู้นำ

  20. ผู้นำควรมีการบริหารงานที่ดี มีความเชื่อมั่นให้แก่ลูกน้องที่สำคัญต้องสร้างความผูกพันธ์และใส่ใจลูกน้องในองค์กรด้วยยิ่งจะทำให้ลูกน้องรักและรู้สึกเป็นกันเองอยากจะทำงาน พอลูกน้องอยากทำงานก็จะมาทำงานตรงต่อเวลา มีผลงานที่ดีให้ องค์กรก็อาจจะประสบความสำเร็จได้

  21. Engagement คือ การทำให้พนักงานในองค์กรรู้สึกผูกพันกับองค์กร ไม่ใช่แค่เพียงอยากอยู่กับองค์กรเท่านั้นยังหมายความรวมถึงการสร้างมูลค่าเพิ่มทางด้านผลงานให้เกิดขึ้นกับองค์กรด้วยไม่ใช่อยู่ไปวันๆแต่ก็ไม่สร้างผลงานใดๆ ที่ดีขึ้นด้วย

    พนักงานที่มีความรู้สึกผูกพันกับองค์กรจะต้องมีลักษณะดังนี้
    – อยากอยู่ทำงานกับองค์การและอยากแนะนำผู้อื่นมาร่วมงานในองค์การ
    – พูดถึงองค์การและผู้บริหารในทางที่ดีทั้งต่อหน้าและลับหลัง
    – ภูมิใจในการสร้างผลงานให้กับองค์การ โดยไม่คิดว่าเป็นภาระที่เพิ่มขึ้น

    ดังนั้น ถ้าจะสร้างความผูกพันของพนักงานให้เกิดขึ้นในองค์การได้นั้นจะต้องเริ่มจากผู้บริหารระดับสูงขององค์กรจะต้องเข้ามามีส่วนร่วมอย่างจริงจังไม่ใช่แค่สั่งให้ฝ่ายบุคคลทำเท่านั้น

  22. ความผูกพันของพนักงานไม่ได้ขึ้นอยู่ที่อยู่กับองค์การมานาน แต่อยู่ที่ผู้นำว่าจะทำให้พนักงานเกิดความผูกพันหรือไม่

  23. ขอโทษครับ ผมเป้นนักศึกษา ป.โท สนใจทำงานวิจัย เรื่อง ปัจจัยที่ส่งผลต่อ Engagement ขอลบกวนถามว่า Engagement มีเจ้าของทฤษฎี ไหมครับ ใช้อะไรเป็นดัชนีวัด

    1. ไม่มีใครเป็นเจ้าของอย่างชัดเจนนะครับ
      ส่วนใหญ่ก็เป็นบริษัทที่ปรึกษาใหญ่ๆ ที่คิด เช่น Gallop หรือ AON Hewitt ครับผม

    1. คนละความหมายนะครับ Engagement จะกินความหมายที่ลึกกว่าครับผม ก็คือ พูดถึงบริษัทในทางที่ดี อยู่ทำงานกับบริษัทโดยไม่ไปไหน และพยายามสร้างผลงานที่ดีอย่างต่อเนื่องให้กับบริษัทครับ คำนี้จะเน้นไปในทางจิตใจมากกว่า ส่วน commitment จะเน้นไปในทางเรื่องของการรักษาคำพูด รักษาสัญญามากกว่าครับผม

ใส่ความเห็น

บลอกที่ WordPress.com .

Up ↑