ความกล้าทางความคิดสร้างสรรค์ กุญแจของผู้นำสู่การสร้างอนาคตขององค์กร

นอกจากความกล้าทางปัญญาแล้ว ผู้นำยังต้องมี ความกล้าทางความคิดสร้างสรรค์ (Creative Courage) ซึ่งหมายถึงความพร้อมที่จะจินตนาการสิ่งใหม่ กล้าแชร์ไอเดียที่อาจจะทำให้ตนเองถูกมองแปลก ๆ รวมทั้งส่งเสริม และสนับสนุนให้ลูกทีมให้มีความกล้าที่จะคิดสิ่งใหม่ ๆ เช่นกัน แม้รู้ว่าบางความพยายามอาจจะล้มเหลว แต่ก็เลือกที่จะลอง เพราะเชื่อว่าความคิดสร้างสรรค์คือหัวใจของการเติบโตและการอยู่รอดขององค์กร

งานวิจัยชี้ว่า ไอเดียใหม่ ๆ สามารถมาจากทุกที่ แต่บทบาทสำคัญอยู่ที่ผู้นำว่าจะกล้าส่งเสริมและผลักดันให้มันเกิดขึ้นหรือไม่ ในทางกลับกัน หากความคิดสร้างสรรค์ถูกกดทับ องค์กรก็เสี่ยงที่จะหยุดนิ่งและตามโลกไม่ทัน

ตัวอย่างสถานการณ์ของการขาดความกล้าทางความคิดสร้างสรรค์

  • ผู้นำที่เลือกทางปลอดภัยเสมอ เช่น เลือกเสนอเพียงการปรับปรุงเล็กน้อยแทนที่จะคิดค้นสิ่งใหม่ เพราะกลัวไอเดียถูกปฏิเสธหรือถูกมองว่าเพ้อฝัน ตัวอย่างเช่น ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ผู้บริหารบางรายเลือกที่จะอัปเดตฟีเจอร์เล็กน้อยของผลิตภัณฑ์เดิม แทนที่จะพัฒนาแพลตฟอร์มใหม่ที่อาจตอบโจทย์ตลาดได้ดีกว่า สุดท้ายองค์กรจึงสูญเสียความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้เล่นรายใหม่ที่กล้าเสี่ยง
  • ผู้บริหารที่ไม่เปิดโอกาสให้ทีมเสนอความคิดแปลกใหม่ มองว่าความคิดเหล่านี้เสียเวลาและไม่คุ้มค่าต่อการลงทุน เช่น ในธุรกิจสื่อสารดิจิทัล ผู้บริหารบางคนปฏิเสธข้อเสนอของทีมในการพัฒนาแพลตฟอร์มใหม่ ๆ เพราะเห็นว่าเสี่ยงและใช้ทรัพยากรมากเกินไป สุดท้ายทำให้บริษัทพลาดโอกาสสร้างบริการที่แตกต่างและถูกคู่แข่งรายอื่นแย่งตลาด
  • องค์กรที่กดดันให้ “ต้องสำเร็จทุกครั้ง” จนพนักงานไม่กล้าลองอะไรใหม่ ๆ เช่น บริษัทในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่บังคับให้ทุกโครงการต้องปลอดภัยจากความล้มเหลว 100% ส่งผลให้ทีมวิจัยไม่กล้าพัฒนารถต้นแบบพลังงานใหม่ ผลลัพธ์คือ ขาดนวัตกรรมและถูกคู่แข่งที่กล้าทดลองมากกว่าแซงหน้า

ตัวอย่างของผู้นำที่มีความกล้าทางความคิดสร้างสรรค์ เช่น ผู้บริหารอาวุโสด้านผลิตภัณฑ์ของบริษัทสินค้าอุปโภคบริโภคแห่งหนึ่ง เตรียมนำเสนอในงานประชุมผู้นำของบริษัทกว่า 30 คน ตัวเลือกที่ปลอดภัยสำหรับเขา คือการเสนอเพียงการปรับปรุงสินค้าเล็กน้อยซึ่งได้รับการสนับสนุนแน่นอน แต่เขากลับเลือกนำเสนอแนวคิดใหม่แบบก้าวกระโดดเป็น โมเดลบรรจุภัณฑ์แบบ Zero-Waste ที่จะพลิกอุตสาหกรรมเกือบทั้งหมด ซึ่งอาจจะทำให้คู่ค้าบางรายอาจไม่พอใจ รวมถึงมีความยากที่จะผลักดันให้ผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม เธอรู้ว่ามีโอกาสสูงที่ไอเดียนี้จะถูกปฏิเสธ แต่ก็เลือกจะนำเสนอ เพราะเชื่อว่านี่คือก้าวสำคัญสู่อนาคตที่ยั่งยืนและแข่งขันได้

วิธีพัฒนาความกล้าทางความคิดสร้างสรรค์

  1. สร้างพื้นที่สำหรับการเสี่ยง
    ชี้ให้ทีมเข้าใจว่าความคิดสร้างสรรค์ไม่ใช่พรสวรรค์หายาก แต่เป็นทักษะที่ทุกคนพัฒนาได้ กระตุ้นด้วยกิจกรรม เช่น “10 นาทีสำหรับไอเดียแย่ ๆ” หรือ “10 นาทีสำหรับไอเดียที่เป็นไปไม่ได้” เพื่อดึงมุมมองใหม่ ๆ ออกมา
  2. ลดความเสี่ยงด้วยการทดลองเล็ก ๆ
    แทนที่จะปฏิเสธไอเดียเพราะดูเสี่ยง ลองทดสอบด้วยวิธีเล็ก ๆ เช่น ทดลองตลาดย่อย สร้างต้นแบบแบบเร็ว หรือทำสปรินท์ 30 วัน เพื่อลองผิดลองถูกโดยไม่ต้องลงทุนสูง
  3. ยกย่องการเรียนรู้จากความล้มเหลว
    ปิดการประชุมทีมด้วยคำถามง่าย ๆ เช่น “สัปดาห์นี้คุณล้มเหลวกับอะไร และได้เรียนรู้อะไร?” เพื่อสร้างวัฒนธรรมที่มองความผิดพลาดเป็นบทเรียน ไม่ใช่จุดจบ

ผลลัพธ์ของการเป็นผู้นำที่มีความกล้าทางความคิดสร้างสรรค์

  • ทีมกล้าที่จะเสนอไอเดียใหม่ ๆ โดยไม่กลัวถูกตำหนิ
  • องค์กรมีนวัตกรรมต่อเนื่อง ตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงของตลาดได้ทันเวลา
  • ผู้นำและทีมได้รับความเชื่อมั่นจากทั้งภายในและภายนอกว่าเป็นผู้ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง

ความกล้าทางความคิดสร้างสรรค์คือพลังที่ทำให้ผู้นำไม่เพียงแค่บริหารสิ่งที่มีอยู่ แต่ยังสามารถพาองค์กรก้าวไปสู่อนาคตใหม่ ๆ ได้อย่างมั่นใจ

ใส่ความเห็น

บลอกที่ WordPress.com .

ขึ้น ↑