ปัจจุบันแทบจะทุกองค์กรต่างก็ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์มากขึ้น แต่ในโลกแห่งการทำงานในยุคปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญจากการพัฒนาเทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ และการเปลี่ยนแปลงทางสังคม การนำเทคโนโลยีมาใช้ในที่ทำงาน เช่น การใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการทำงานจากระยะไกล แม้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้ แต่ก็ต้องการทักษะในการทำงานใหม่ ๆ จากพนักงาน การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจโลก การเชื่อมโยงติดต่อถึงกันแบบไร้พรมแดน ทำให้ตลาดแรงงานเป็นสากล พนักงานจำเป็นต้องมีทักษะในการทำงานร่วมกับผู้อื่นในระดับสากลมากขึ้น ต้องเข้าใจวัฒนธรรมในการทำงานที่แตกต่างกัน องค์กรเองก็ต้องปรับตัวได้เร็ว
ส่วนการเปลี่ยนแปลงทางสังคมทำให้แรงงานรุ่นใหม่มีค่านิยมที่แตกต่าง องค์กรต้องปรับวัฒนธรรมให้สอดคล้อง การสร้างสมดุลระหว่างงานและชีวิตส่วนตัว และการส่งเสริมความหลากหลายกลายเป็นหัวใจสำคัญในการจัดการทรัพยากรมนุษย์ องค์กรที่สามารถปรับตัวและพัฒนาบุคลากรได้อย่างมีประสิทธิภาพจะมีความได้เปรียบในยุคที่โลกการทำงานเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ ทำให้การพัฒนาคนจะใช้วิธีการและแนวทางแบบเดิม ๆ อย่างในอดีตไม่ได้อีกต่อไป
ในปัจจุบัน HRD มีบทบาทสำคัญยิ่งขึ้น เนื่องจากโลกการทำงานเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ เช่น
- การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี
ยุคแห่ง AI และ Automation เทคโนโลยีอย่างปัญญาประดิษฐ์ (AI) และระบบอัตโนมัติ (Automation) เข้ามาเปลี่ยนวิธีการทำงานเดิม ส่งผลให้หลายตำแหน่งงานถูกแทนที่ ขณะเดียวกันก็เกิดตำแหน่งงานใหม่ที่ต้องการทักษะเฉพาะด้าน เช่น การวิเคราะห์ข้อมูล การเขียนโปรแกรม และการจัดการเทคโนโลยี
ความต้องการทักษะดิจิทัล การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่เน้นการ reskill และ upskill จึงจำเป็น เพื่อให้พนักงานสามารถทำงานร่วมกับเทคโนโลยีได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ตัวอย่างองค์กรอย่าง Amazon มีโปรแกรม “Career Choice” ที่สนับสนุนพนักงานให้เรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ สำหรับงานในอนาคต ซึ่ง โปรแกรม “Career Choice” ของ Amazon ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้พนักงานมีโอกาสในการพัฒนาทักษะใหม่ ๆ และเตรียมความพร้อมสำหรับการทำงานในอนาคต โปรแกรมนี้สนับสนุนค่าเรียนและค่าธรรมเนียมการศึกษาให้กับพนักงานที่ต้องการเรียนรู้ทักษะเฉพาะทาง เช่น การศึกษาทางวิชาการ การฝึกอบรมวิชาชีพ และการเรียนรู้ทางออนไลน์ นอกจากนี้ยังมีการสนับสนุนด้านการแนะนำและคำปรึกษาเพื่อให้พนักงานสามารถตัดสินใจเลือกเส้นทางการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับตัวเอง ด้วยการลงทุนในอนาคตของพนักงาน Amazon หวังว่าพนักงานของบริษัทจะมีโอกาสเติบโตและพัฒนาทักษะที่จำเป็นต่อการเปลี่ยนแปลงในตลาดแรงงานที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วทั้งในปัจจุบันและอนาคต เพื่อสุดท้ายก็คือ สามารถที่จะนำพาองค์กรไปสู่ความสำเร็จด้วยความยั่งยืน
- ความหลากหลายทางวัฒนธรรม (Cultural Diversity)
โลกไร้พรมแดน ทำให้การทำงานในยุคปัจจุบันไม่ได้จำกัดอยู่ในประเทศเดียว องค์กรส่วนใหญ่มีการจ้างงานจากหลากหลายเชื้อชาติและวัฒนธรรม การพัฒนาทักษะด้าน ความเข้าใจในวัฒนธรรม (Cultural Intelligence) และ การทำงานร่วมกัน (Collaboration) กลายเป็นสิ่งจำเป็น ซึ่งการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์อย่างเป็นระบบ ยังช่วยสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เคารพในความแตกต่าง และสร้างพื้นที่ให้ทุกคนสามารถแสดงศักยภาพได้อย่างเต็มที่
ตัวอย่าง Google มีโปรแกรม Diversity Training เพื่อพัฒนาความเข้าใจและลดอคติในที่ทำงาน โดยโปรแกรม Diversity Training นี้ มีความสำคัญอย่างยิ่งเนื่องจากการทำงานในยุคปัจจุบันต้องการความหลากหลายทางวัฒนธรรมและการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ ความหลากหลายเป็นปัจจัยที่ช่วยสร้างสรรค์นวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ อีกทั้งยังเป็นการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่เคารพและยอมรับในความแตกต่างของพนักงาน
โปรแกรม Diversity Training ของ Google จึงมุ่งเน้นไปที่การให้ความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมที่แตกต่าง ลดอคติที่อาจมีภายในที่ทำงาน และส่งเสริมให้พนักงานทุกคนรู้สึกมีคุณค่าและมีส่วนร่วมในองค์กร การฝึกอบรมประกอบด้วยการให้ความรู้เกี่ยวกับอคติที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว (unconscious bias) การเรียนรู้วิธีการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพกับเพื่อนร่วมงานที่มีพื้นฐานและวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน และการสร้างพื้นที่ที่ทุกคนสามารถแสดงความคิดเห็นและแสดงศักยภาพได้อย่างเต็มที่
ผลของโปรแกรม Diversity Training นั้นมีความชัดเจน Google พบว่าการฝึกอบรมนี้ช่วยลดอคติในที่ทำงานได้อย่างมีนัยสำคัญ พนักงานรู้สึกมีความเป็นหนึ่งเดียวและมีความมั่นใจในการทำงานร่วมกับผู้อื่นมากขึ้น นอกจากนี้ การสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่เคารพในความหลากหลายยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานรวมถึงการรักษาพนักงานที่มีความสามารถให้อยู่กับองค์กรในระยะยาว
การลงทุนในโปรแกรม Diversity Training ของ Google ไม่เพียงแต่สร้างประโยชน์ให้แก่องค์กรในระยะสั้น แต่ยังเป็นการสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการเติบโตและความสำเร็จในอนาคตอีกด้วย
- แนวโน้มการทำงานแบบไฮบริด (Hybrid Work)
การทำงานที่บ้าน (Work From Home) และการทำงานแบบผสมผสาน ที่สามารถทำงานได้ทั้งที่บ้าน และที่ออฟฟิศ (Hybrid Working) กลายเป็นรูปแบบมาตรฐานใหม่ของการทำงานในยุคนี้ การพัฒนาทักษะที่ช่วยให้พนักงานสามารถบริหารเวลา การสื่อสาร และการทำงานร่วมกันจากระยะไกลจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก
เราจะเห็นได้จากองค์กรหลายแห่งที่ไม่ได้เตรียมความพร้อมพัฒนาคน ให้เข้าใจแนวทางในการทำงานแบบใหม่นี้ ผลก็คือ พนักงานอาจขาดทักษะในการบริหารเวลา ขาดการสื่อสารกัน และไม่เข้าใจการทำงานร่วมกันจากระยะไกล ไม่สามารถควบคุมตนเองได้ ไม่มีวินัยในตนเอง ฯลฯ ซึ่งจะส่งผลให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง ความร่วมมือระหว่างทีมงานถดถอย และไม่สามารถตอบสนองต่อความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ องค์กรอาจเผชิญกับปัญหาในการรักษาพนักงานที่มีความสามารถ และสูญเสียความสามารถในการแข่งขันในตลาดแรงงาน การลงทุนในการพัฒนาทักษะเหล่านี้จึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้พนักงานสามารถปรับตัวและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในยุคดิจิทัล
ตัวอย่างเช่น Spotify Platform ฟังเพลงที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ครั้งหนึ่งได้มีการเปิดตัววิธีการทำงาน แบบ “Work from Anywhere” ซึ่งให้พนักงานเลือกทำงานได้จากที่บ้าน ออฟฟิศ หรือสถานที่อื่น ๆ ได้ตามความเหมาะสม แต่ก่อนที่จะเปิดตัวโครงการนี้ ทางบริษัทได้ลงทุนใน การอบรมผู้นำ เพื่อให้สามารถบริหารทีมแบบ Remote ได้อย่างมีประสิทธิภาพก่อนที่จะเปิดตัวโครงการ เพื่อให้ผู้นำทีมทุกคนเกิดความเข้าใจวิธีการทำงาน และวางแนวทางในการป้องกันปัญหาของพนักงานที่อาจจะเกิดขึ้นจากวิธีการทำงานแบบใหม่นี้
มีการสร้าง Digital-first Culture ที่ส่งเสริมการสื่อสารแบบดิจิทัล เช่น การจัดประชุมสั้น ๆ แบบ Stand-up Meeting ทุกเช้าเพื่ออัปเดตสถานการณ์ในการทำงานแต่ละวันก่อนเริ่มงาน กระตุ้นส่งเสริมให้ผู้นำทีม สร้างบรรยากาศในการทำงานที่ดีร่วมกัน แม้ว่าจะต้องทำงานต่างสถานที่กันก็ตาม โดยพัฒนาความเข้าใจในวัฒนธรรมทีมผ่านกิจกรรมออนไลน์ เช่น Team Building Virtual Events และ Workshops ต่าง ๆ
จะเห็นได้ว่า การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์จำเป็นต้องมีการเตรียมความพร้อมล่วงหน้าอย่างรอบคอบ การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นโดยไม่มีการเตรียมคนให้พร้อมก่อนอาจทำให้เกิดปัญหา และความไม่เข้าใจในวิธีการทำงานใหม่ ไม่เข้าใจสภาพแวดล้อม และวัฒนธรรมใหม่ของการทำงาน เช่นเดียวกับการเปลี่ยนผ่านไปสู่การทำงานแบบดิจิทัลที่ต้องอาศัยการฝึกอบรมและการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง องค์กรควรให้ความสำคัญกับการวางแผนพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เพื่อให้ทุกคนมีความเข้าใจและทักษะที่เพียงพอในการปรับตัว การเตรียมการอย่างรอบคอบนี้จะช่วยให้การเปลี่ยนแปลงเป็นไปอย่างราบรื่นและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของทีม และองค์กรได้ในระยะยาว
ใส่ความเห็น