ในสังคมของการทำงานยุคปัจจุบัน ความสัมพันธ์ระหว่างหัวหน้ากับลูกน้องถือเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ส่งผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพขององค์กรและสุขภาวะทางจิตใจของพนักงาน หลายคนอาจเคยตกอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องทำงานร่วมกับหัวหน้าที่ไม่ได้เป็นที่รัก ไม่ใช่เพราะขาดความสามารถหรือจิตใจไม่ดี แต่เป็นเพราะบุคลิก ทัศนคติ หรือพฤติกรรมที่ขัดแย้งกับเราในระดับที่ยากจะมองข้าม
คำถามคือ เราจะอยู่ร่วมกับหัวหน้าที่เรา “ไม่ถูกชะตา” อย่างไร? จะมีทางใดบ้างที่ทำให้ความสัมพันธ์เช่นนี้ไม่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาอาชีพของเรา?
ความเข้าใจคือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง
ในเชิงจิตวิทยา การที่เราไม่ชอบใครบางคนมักเกิดจากการรับรู้ที่ถูกกระตุ้นโดยประสบการณ์ในอดีต หรือที่เรียกว่า “transference” กล่าวคือ เราอาจไม่รู้ตัวว่าได้โยนภาพของครู พ่อแม่ หรือเจ้านายเก่าที่เคยสร้างความเจ็บปวดไว้กับหัวหน้าคนปัจจุบัน
แต่ในขณะเดียวกัน เราไม่ควรรีบด่วนตัดสินเจ้านายว่าเป็น “ตัวปัญหา” เพียงฝ่ายเดียว เพราะจากงานวิจัยมากมายแสดงให้เห็นว่า หัวหน้าส่วนใหญ่มักต้องเผชิญแรงกดดันจากเบื้องบน และความเครียดนั้นอาจสะท้อนออกมาเป็นพฤติกรรมที่ดูเย็นชา ก้าวร้าว หรือควบคุมจุกจิก
การฝึกความเห็นอกเห็นใจจึงเป็นหนทางหนึ่งที่ช่วยให้เราเข้าใจหัวหน้ามากขึ้น และอาจเปลี่ยนมุมมองของเราได้อย่างสิ้นเชิง
สำรวจตนเองก่อนแก้ไขภายนอก
ก่อนจะโทษใคร เราต้องถามตัวเองก่อนว่า มีพฤติกรรมใดของเราที่อาจกระตุ้นความไม่พอใจของหัวหน้า? เราแสดงออกไม่ชัดเจนหรือสื่อสารไม่ตรงจุดหรือไม่? การรับฟังคำติชมอย่างเปิดใจและการตั้งใจพัฒนาตัวเองถือเป็นการลงทุนทางความสัมพันธ์ที่สำคัญ
ในบางกรณี การพูดคุยกับเพื่อนร่วมงานที่มีความสัมพันธ์ดีกับหัวหน้าอาจช่วยให้เราเข้าใจธรรมชาติของหัวหน้าคนนั้นได้ดีขึ้น พร้อมรับเคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ ที่จะช่วยให้อยู่ร่วมกันได้ง่ายขึ้น
สนทนาด้วยความเคารพ และแสวงหาจุดร่วม
หากทุกทางที่กล่าวมายังไม่ช่วยคลี่คลายความตึงเครียด การเปิดอกพูดคุยกับหัวหน้าโดยตรงก็อาจเป็นทางออก แต่ต้องทำด้วยความระมัดระวัง ไม่ใช่ในเชิงกล่าวโทษหรือบ่นว่า แต่เป็นการ “ขอคำแนะนำ” และ “แสดงความตั้งใจ” ที่จะทำงานให้ดีขึ้น เช่น การถามว่า “ผม/ฉันสามารถสนับสนุนเป้าหมายของคุณได้ดีขึ้นอย่างไร?” คำถามลักษณะนี้แสดงถึงความเป็นมืออาชีพและความตั้งใจที่แท้จริง
ทางออกสุดท้าย การถอยอย่างมีศักดิ์ศรี
หากทุกความพยายามล้มเหลว และหัวหน้าไม่เพียงแต่ไม่เปลี่ยนแปลง ยังส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตหรือชื่อเสียงในสายงาน การย้ายงานอาจเป็นทางออกที่เหมาะสมที่สุด แต่การลาออกไม่ควรทำด้วยความโกรธ แต่ควรเป็นการวางแผนที่ดี เตรียมตัวให้พร้อม และออกจากองค์กรอย่างสง่างาม
ในโลกแห่งการทำงาน ความสัมพันธ์กับหัวหน้าไม่ใช่สิ่งที่เราเลือกได้เสมอไป แต่เราสามารถเลือกวิธีรับมือและบริหารความสัมพันธ์นั้นอย่างมีสติและศักดิ์ศรี ไม่ว่าความรู้สึกส่วนตัวจะเป็นเช่นไร ถ้าเรามีเป้าหมาย มีท่าทีที่ถูกต้อง และมีความอดทนเพียงพอ บางครั้ง “หัวหน้าที่เราไม่ชอบ” ก็อาจกลายเป็น “หัวหน้าที่เราสามารถทำงานด้วยได้” อย่างมืออาชีพที่สุด
ใส่ความเห็น