เมื่อพนักงานในระดับหัวหน้าทีม (Leading Others) มีศักยภาพสูงและมีความพร้อมในด้านผลงาน พฤติกรรม และทัศนคติ องค์กรควรเตรียมความพร้อมให้เขาเติบโตขึ้นสู่ระดับ “ผู้นำของผู้จัดการ” หรือ Leading Managers ซึ่งเป็นระดับที่ต้องบริหารหัวหน้าทีมคนอื่น ๆ ซึ่งแต่ละทีม ก็จะมีลูกน้องและทีมงานของตนเองอีกที ซึ่งถือว่าเป็นการเพิ่มความยากในการบริหารจัดการไปอีกหนึ่งระดับ
เป้าหมายของบทบาท Leading Managers
- แปลกลยุทธ์องค์กรสู่แผนปฏิบัติ
- พัฒนาและเสริมศักยภาพของหัวหน้าทีม (leaders-of-others)
- รับผิดชอบ และเป็นตัวแทนด้านผลงาน ต่อผู้นำในระดับเหนือขึ้นไป
- คัดเลือกและสร้างผู้นำใหม่
- ส่งเสริมความหลากหลายและการมีส่วนร่วม
- เชื่อมโยงการทำงานระหว่างสายงานและนำเชิงยุทธศาสตร์
หัวข้อพัฒนาหลักที่ควรเน้น (KSA-Based)
1. Knowledge – ความรู้ที่จำเป็น
- กลยุทธ์องค์กรและการ cascade ลงสู่หน่วยงาน
- หลักการบริหารคนแบบผ่านหัวหน้าทีม (Managing Managers)
- หลักการ Talent Review และ Succession Planning
- ความรู้ด้าน Diversity, Equity & Inclusion (DEI)
2. Skills – ทักษะที่ต้องเสริม
- Strategic Planning & Execution
- Coaching for Leaders (โค้ชหัวหน้า ไม่ใช่พนักงาน)
- Performance Calibration และการให้ feedback เชิงระบบ
- Collaboration & Influencing Across Functions
- การคัดเลือกผู้นำ (Talent Selection & Assessment)
3. Attitude – ทัศนคติที่ต้องปรับ
- จากการควบคุม → การเสริมพลัง
- จากการแก้ปัญหาเอง → การสร้างระบบให้ผู้อื่นแก้ไขได้
- เห็นความสำเร็จขององค์กร มากกว่าความสำเร็จของทีมตนเอง
แนวทางการพัฒนา (Development Framework)
| ประเภท | วิธีการพัฒนา |
| 70% Learning by Doing | Acting Functional Head, นำ Talent Review, นำโครงการข้ามสายงาน |
| 20% Learning from Others | โค้ชโดย Director, Shadow ผู้บริหารระดับสูง, Peer Feedback |
| 10% Formal Learning | หลักสูตร Strategic Thinking, Coaching for Leaders, DEI Workshops |
ตัวอย่างเป้าหมาย และแผนพัฒนา (Development Goal)
| ลำดับ | เป้าหมายการพัฒนา | KSA | วิธีการพัฒนา | ระยะเวลา | ตัวชี้วัดความสำเร็จ |
| 1 | แปลกลยุทธ์องค์กรลงสู่แผนหน่วยงานได้ | Knowledge + Skill | – เรียนรู้จากหัวหน้าในการประชุมกลยุทธ์ – นำเสนอแผน cascade ต่อทีม | 1 เดือน | – มีแผนปฏิบัติที่เชื่อมโยงกับกลยุทธ์ระดับบน – Feedback จากหัวหน้า |
| 2 | พัฒนาและโค้ชหัวหน้าทีมในสายงาน | Skill + Attitude | – Coaching รุ่นน้องอย่างน้อย 2 คน – รับ feedback กลับจากหัวหน้าทีม | 2 เดือน | – หัวหน้าทีมเติบโตและรับผิดชอบได้เพิ่มขึ้น – คะแนน feedback เชิงบวก |
| 3 | สร้างผู้นำใหม่ในทีม (Successor Ready) | Knowledge + Skill | – มีส่วนร่วมในการประเมินศักยภาพลูกทีม – วางแผน Succession 1 ตำแหน่ง | 1 เดือน | – เสนอแผน successor และได้รับอนุมัติ – Successor เริ่มทดลองงานใหม่ |
| 4 | สื่อสารและเชื่อมงานข้ามสายอย่างมีอิทธิพล | Skill | – นำประชุม cross-functional project – รายงานความคืบหน้าต่อผู้อื่น | 1 เดือน | – ได้รับการยอมรับจากผู้นำฝ่ายอื่น – โปรเจกต์มีผลสำเร็จร่วมกัน |
| 5 | ปรับมุมมองจาก “ทำเอง” → “เสริมพลังผู้อื่น” | Attitude | – Coaching โดยหัวหน้า – Reflection log รายเดือน | ต่อเนื่อง 6 เดือน | – ทัศนคติและการสื่อสารเปลี่ยนไปในทางสนับสนุน – แบบประเมิน 360 ระดับกลางดีขึ้น |
การเปลี่ยนผ่านจาก Leading Others สู่ Leading Managers เป็นก้าวกระโดดที่สำคัญ ไม่ใช่เพียงเรื่องของขนาดทีม แต่คือการเปลี่ยนบทบาทจาก “การลงมือ” ไปสู่ “การสร้างผู้นำที่ลงมือแทน” ดังนั้นการพัฒนาอย่างมีโครงสร้าง และการให้ประสบการณ์จริงในสภาพแวดล้อมที่มีการสนับสนุน จึงเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้การเติบโตนี้ยั่งยืนและสร้างคุณค่าให้กับองค์กรในระยะยาว
ใส่ความเห็น