6 สัญญาณเตือน “วัฒนธรรมที่ทำให้พนักงานหมดไฟ” ที่อาจทำลายชีวิตการทำงานของคุณ

เคยไหม? รู้สึกเหนื่อยล้า เครียด และไม่มีแรงจะสู้ต่อ แม้ว่าจะพยายามทำงานหนักแค่ไหนก็ตาม? ถ้าใช่ คุณอาจกำลังเผชิญกับ “วัฒนธรรมหมดไฟ” โดยไม่รู้ตัว! มาดูกันว่ามีอะไรบ้างที่เป็นตัวการสำคัญ และเราจะจัดการกับมันได้อย่างไร

1. วัฒนธรรม “ฮัสเซิล” (Hustle Culture) การทำงานหนักจนกลายเป็นเรื่องปกติ

ลองนึกภาพว่าคุณต้องทำงานตลอดเวลา นอนน้อย หรือแม้กระทั่ง “ภูมิใจ” ที่ไม่ได้พักผ่อน เพราะคิดว่า “ยิ่งเหนื่อย ยิ่งเก่ง” แต่ในความเป็นจริงแล้ว การกดดันตัวเองแบบนี้ทำให้คุณเสียสุขภาพ ความสัมพันธ์ และเวลาส่วนตัวไปอย่างน่าเสียดาย เช่น ในบริษัทสตาร์ทอัพที่บอกว่า “การนอนคือเรื่องสำหรับคนอ่อนแอ” หรือ “ตื่นแล้วสู้!” ฟังดูเท่ แต่สุดท้ายคุณอาจหมดไฟและหมดพลังโดยไม่รู้ตัว!

2. ขาดขอบเขตในชีวิตการทำงาน เมื่อ “งาน” เข้ามาแทนที่ “ชีวิต”

เคยได้รับอีเมลตอนตีสองหรือโดนโทรตามในวันหยุดสุดสัปดาห์ไหม? หากคำตอบคือ “ใช่” แสดงว่าคุณกำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่ไม่มีการแยกแยะระหว่างงานกับชีวิตส่วนตัว พนักงานหลายคนถูกคาดหวังให้พร้อมตอบสนองตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งนำไปสู่ความเครียดและความเหนื่อยล้าสะสม จนในที่สุดคุณอาจรู้สึกเหมือนตัวเองไม่มีเวลาเป็นของตัวเองเลย!

3. ความสมบูรณ์แบบและการคาดหวังที่เกินจริง ทำไม่ดีแค่ไหนก็ไม่พอ

บางองค์กรตั้งมาตรฐานไว้สูงจนแทบเอื้อมไม่ถึง พนักงานต้องทำงานภายใต้ความกดดันว่า “ต้องสมบูรณ์แบบ” เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเป้าหมายที่ยากเกินไป หรือการไม่ยอมรับความผิดพลาดใด ๆ สิ่งนี้ทำให้พนักงานรู้สึกกังวล กลัวการล้มเหลว และคิดว่าตนเอง “ไม่ดีพอ” แม้ว่าจะพยายามขนาดไหนก็ตาม

4. ความคิดเชิงบวกที่เป็นพิษ เมื่อความรู้สึกของเราถูกมองข้าม

เคยเจอผู้จัดการพูดว่า “แค่มองโลกในแง่ดีไว้!” ขณะที่คุณกำลังระบายความเครียดหรือขอความช่วยเหลือไหม? นี่คือตัวอย่างของ “ความคิดเชิงบวกที่เป็นพิษ” ที่ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา แต่กลับทำให้พนักงานรู้สึกว่าความรู้สึกของตัวเองไม่สำคัญ ขาดการสนับสนุน และโดดเดี่ยวในที่ทำงาน

5. ขาดแคลนพนักงานและการทำงานหนักเกินกำลัง หนึ่งคนทำงานแทนสามคน

ลองนึกภาพว่าคุณต้องทำงานหลายบทบาทในเวลาเดียวกัน โดยไม่มีใครช่วยแบ่งเบาภาระ เช่น ในร้านค้าปลีกหรือธุรกิจบริการที่พนักงานเพียงคนเดียวต้องรับผิดชอบงานแทนสามคน สิ่งนี้ไม่เพียงทำให้คุณรู้สึกเหนื่อยล้า แต่ยังลดคุณภาพของงานลง และสร้างความไม่พอใจต่อองค์กรในระยะยาว

6. ขาดการยอมรับและชื่นชม ทำงานหนักแค่ไหนก็ไม่มีใครเห็น

สุดท้าย แต่ไม่ท้ายสุด การขาดการยอมรับและชื่นชมเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำลายขวัญกำลังใจของพนักงานได้ง่ายที่สุด แม้ว่าคุณจะทำงานหนักและทุ่มเทมากแค่ไหน แต่หากหัวหน้าหรือองค์กรไม่เคยแสดงความขอบคุณหรือให้เครดิตกับความพยายามของคุณ คุณอาจรู้สึกว่าตัวเองทำงานไปเปล่า ๆ และขาดแรงจูงใจในการทำงานต่อไป

จะแก้ไข “วัฒนธรรมที่ทำให้หมดไฟ” ได้อย่างไร?

1. กำหนดขอบเขต แยกแยะชีวิตการทำงานกับชีวิตส่วนตัวให้ชัดเจน 

2. สื่อสารอย่างเปิดเผย สร้างสภาพแวดล้อมที่พนักงานสามารถพูดคุยปัญหาได้อย่างปลอดภัย 

3. ให้การยอมรับและชื่นชม ชมเชยความพยายามของพนักงาน เพื่อสร้างขวัญกำลังใจ

4. จัดการทรัพยากรให้เหมาะสม เพิ่มจำนวนพนักงานหรือลดภาระงานที่มากเกินไป

5. ส่งเสริมสุขภาพจิต จัดโปรแกรมหรือกิจกรรมที่ช่วยลดความเครียด 

สรุป วัฒนธรรมหมดไฟไม่ใช่เรื่องไกลตัว มันอาจเกิดขึ้นรอบตัวเราโดยไม่รู้ตัว แต่ถ้าเราใส่ใจและปรับเปลี่ยนวิธีการทำงาน ก็จะช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้น ทั้งสำหรับตัวเราเองและคนรอบข้าง จำไว้ว่า การทำงานหนักควรนำมาซึ่งความสำเร็จ ไม่ใช่ความเหนื่อยล้าจนหมดไฟ!

ใส่ความเห็น

บลอกที่ WordPress.com .

ขึ้น ↑