ทุกวันศุกร์ ผมก็จะทำนิทานสอนใจดีๆ มาให้อ่านกัน วันนี้ก็เป็นนิทานที่ให้ข้อคิดที่ดีอีกเรื่องหนึ่งครับ อาจจะไม่ยาวนัก แต่ได้ข้อคิดที่ดีครับ ลองอ่านดูนะครับ
มีคุณพ่อท่านหนึ่งเป็นคนรวยมาก เขาอยากจะให้ลูกชายของเขารู้ว่า การได้เกิดมาในครอบครัวที่ร่ำรวยนั้นมีความสุขมากแค่ไหน ดังนั้นเขาจึงพาลูกไปดูคนยากจนว่าเขาใช้ชีวิตกันอย่างไร
ผู้เป็นพ่อพาลูกไปถึงชนบทอันห่างไกล เพื่อที่จะให้ลูกชายได้เห็นด้วยตาตนเองว่าคนยากจนนั้นน่าสงสารแค่ไหน เขาตั้งใจหาบ้านที่จนที่สุดในละแวกนั้น และใช้เวลาตลอดทั้งวันที่นั่น
จนเมื่อกลับถึงเมือง ผู้เป็นพ่อรอไม่ได้ที่จะสอบถามลูกชายว่า
“ไปชนบทครั้งนี้ ลูกรู้สึกอย่างไรบ้าง”
“ดีมากเลยครับพ่อ” ลูกชายตอบ
“ชีวิตของคนยากจนนั้น เป็นอย่างไร ตอนนี้ลูกรู้แล้วใช่ไหม” พ่อถามอย่างกระตือรือร้น
“ใช่ครับพ่อ”
“ไหนลูกลองพูดมาซิ ว่าได้เห็นอะไรบ้าง?” พ่อถามต่อ
“ผู้คนที่อาศัยอยู่ที่นั่น เขามีลำธารกว้างใหญ่จนมองไม่เห็นปลายอีกด้านหนึ่ง แต่บ้านเรามีแค่เพียงสระว่ายน้ำเล็กๆ อยู่กลางสวนดอกไม้ กลางคืนของพวกเขานั้นมีท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว แต่ที่บ้านของเรากลับมีเพียงโคมไฟประดิษฐ์ในสวน และถึงแม้ว่าเราจะมีสวนที่ใหญ่ แต่สวนของพวกเขากลับขยายไปได้อย่างไม่มีขอบเขตใดๆ”
เมื่อผู้เป็นพ่อได้ยินเช่นกัน ก็นิ่งเงียบไม่พูดอะไร ลูกชายก็พูดต่อไปว่า
“พ่อครับ ขอบคุณนะครับ พ่อทำให้ผมรู้ว่าพวกเรายากจนแค่ไหน!”
อ่านจบแล้วคิดอย่างไรครับ ความรวย หรือความยากจนนั้น อะไรเป็นตัวตัดสิน ใช่เงินทองอย่างเดียวหรือเปล่า หรือเป็นอย่างอื่น คนเราอาจจะไม่มีอย่างหนึ่ง แต่มีอีกอย่างหนึ่ง อาจจะจนเงินทอง แต่ไม่จนเพื่อน อาจจะจนที่อยู่อาศัย แต่ไม่จนใจ
จริงมั้ยครับ