อ้างอิงบทความและงานวิจัยเรื่อง New Hires’ Psychological Safety Erodes Quickly โดย Derrick P. Bransby, Michaela J. Kerrissey และ Amy C. Edmondson ได้วิเคราะห์ถึงการลดลงอย่างรวดเร็วของความรู้สึกปลอดภัยทางจิตใจที่พนักงานใหม่มักประสบหลังจากเริ่มงาน
ความปลอดภัยทางจิตวิทยานั้นคือความรู้สึกที่ว่าเราสามารถแสดงความคิดเห็น ตั้งคำถาม หรือยอมรับความผิดพลาดได้ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะถูกตำหนิหรือถูกล้อเลียน สิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญในการเรียนรู้ การร่วมมือ และการทำงานในองค์กร บทความนี้สรุปว่าความปลอดภัยทางจิตวิทยาของพนักงานใหม่มักลดลงอย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งเสนอวิธีการที่ผู้นำสามารถนำไปใช้เพื่อช่วยเหลือและสนับสนุนพนักงานใหม่ในองค์กร
ความเข้าใจเรื่อง “ความปลอดภัยทางจิตวิทยา” ในสถานที่ทำงาน
ความปลอดภัยทางจิตวิทยานั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งในสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีและมีประสิทธิภาพ มันช่วยส่งเสริมพฤติกรรมการเรียนรู้ เช่น การตั้งคำถาม การยอมรับความไม่รู้ หรือการขอความช่วยเหลือ ซึ่งเป็นทักษะสำคัญสำหรับพนักงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพนักงานใหม่ ที่ต้องเผชิญกับงานและสถานการณ์ที่ไม่คุ้นเคย เมื่อพนักงานรู้สึกปลอดภัยทางจิตวิทยา พวกเขาจะสามารถปรับตัวให้เข้ากับบทบาทใหม่ได้ง่ายขึ้น พร้อมกับเปิดรับมุมมองใหม่ ๆ และค้นหาความช่วยเหลือที่จำเป็นต่อการเติบโต
การลดลงของความปลอดภัยทางจิตวิทยาในพนักงานใหม่
จากการวิจัยที่ครอบคลุมพนักงานกว่า 10,000 คนในหลายอุตสาหกรรม ผู้วิจัยพบว่าพนักงานใหม่มักจะสูญเสียความรู้สึกปลอดภัยทางจิตวิทยาอย่างรวดเร็วหลังจากเริ่มทำงาน แม้ว่าในช่วงแรกพวกเขาจะเริ่มต้นด้วยความมั่นใจที่สูงกว่าพนักงานที่มีประสบการณ์ แต่ความมั่นใจนี้ก็มักจะลดลงอย่างรวดเร็ว และอาจต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะกลับมามีความมั่นใจในระดับเดิมอีกครั้ง
เหตุใดความปลอดภัยทางจิตวิทยาจึงลดลง
มีหลายปัจจัยสำคัญที่ทำให้ความปลอดภัยทางจิตวิทยาของพนักงานใหม่ลดลงอย่างรวดเร็ว:
1. ช็อกกับความเป็นจริง (Reality Shocks)
ความคาดหวังที่ไม่ตรงกับความเป็นจริงอาจสร้างความกดดันและความไม่สบายใจให้กับพนักงานใหม่ เมื่อพวกเขาเผชิญกับสถานการณ์การทำงานจริง ๆ ซึ่งแตกต่างจากที่พวกเขาคาดไว้ระหว่างการสัมภาษณ์หรือตอนที่สมัครงาน สิ่งนี้นำไปสู่การลดทอนความมั่นใจในการแสดงออกและการทำงานร่วมกับผู้อื่น
2. พบกับประสบการณ์ที่แย่มากกว่าดี (Good-Bad Asymmetry)
ประสบการณ์ที่ไม่ดีครั้งเดียว เช่น การตอบสนองที่ดูถูกหรือไม่ให้คุณค่า สามารถทำลายความปลอดภัยทางจิตวิทยาได้ในทันที ความไม่สมดุลนี้หมายความว่าประสบการณ์แย่เพียงครั้งเดียวสามารถส่งผลกระทบได้มากกว่าหลายประสบการณ์ที่ดี และทำให้พนักงานลังเลที่จะมีปฏิสัมพันธ์เชิงสร้างสรรค์อีกในอนาคต
กลยุทธ์ของผู้นำในการปกป้องความปลอดภัยทางจิตวิทยา
เพื่อให้องค์กรประสบความสำเร็จ ผู้นำต้องดำเนินการเชิงรุกในการรักษาและส่งเสริมความปลอดภัยทางจิตวิทยา โดยเฉพาะสำหรับพนักงานใหม่ บทความนี้เสนอสามกลยุทธ์หลักที่ช่วยให้ผู้นำสามารถสร้างสภาพแวดล้อมที่พนักงานใหม่รู้สึกมั่นใจในการแสดงออกและมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่:
1. การฝึกทักษะการสื่อสารระหว่างบุคคล (Interpersonal Skills Training)
งานวิจัยชี้ให้เห็นว่าในแผนกที่มีความปลอดภัยทางจิตวิทยาสูง การลดลงของความรู้สึกปลอดภัยในพนักงานใหม่จะน้อยกว่าอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้นผู้นำจึงควรลงทุนในการฝึกอบรมทักษะการสื่อสารระหว่างบุคคลให้กับผู้จัดการและหัวหน้าทีม เพื่อสร้างวัฒนธรรมที่ส่งเสริมการสื่อสารแบบเปิดกว้าง และลดความเสี่ยงในการสูญเสียความปลอดภัยทางจิตวิทยา
2. การกำหนดกรอบการทำงานที่เหมาะสม (Framing the Work)
การกำหนดกรอบของงานในลักษณะที่ถูกต้องสามารถช่วยรักษาความปลอดภัยทางจิตวิทยาได้ การนำเสนอว่างานมีความซับซ้อนและไม่แน่นอนสามารถสร้างวัฒนธรรมที่การทำผิดพลาดหรือการตั้งคำถามถือเป็นสิ่งที่ปกติ สิ่งนี้จะช่วยสร้างความคาดหวังร่วมกันที่พนักงานรู้สึกปลอดภัยในการแสดงความคิดเห็นและถามคำถาม
3. การตอบสนองด้วยความชื่นชม (Responding Appreciatively)
เมื่อผู้นำหรือเพื่อนร่วมงานตอบสนองต่อคำถามหรือความผิดพลาดของพนักงานใหม่ด้วยความสนใจและการสนับสนุน พวกเขาจะช่วยป้องกันการสูญเสียความปลอดภัยทางจิตวิทยา การตอบสนองเชิงบวกไม่ได้หมายถึงการยอมรับความล้มเหลวซ้ำๆ แต่คือการสร้างวัฒนธรรมที่สนับสนุนการเรียนรู้และการเติบโต
งานวิจัยแสดงให้เห็นว่าการสูญเสียความปลอดภัยทางจิตวิทยาไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นชั่วคราว แต่สามารถใช้เวลานานถึง 20 ปีกว่าที่พนักงานจะกลับมามีความมั่นใจในระดับเดิม ดังนั้นหากผู้นำไม่ให้การสนับสนุนที่เพียงพอ พนักงานใหม่อาจเลือกที่จะเงียบ ไม่แสดงความคิดเห็น ซึ่งอาจทำให้องค์กรสูญเสียความคิดเห็นที่มีคุณค่าและเกิดความผิดพลาดที่สามารถป้องกันได้
ใส่ความเห็น