รู้ตัวไหมว่าเราชอบคิดว่าตัวเองเป็นคนมีเหตุผล แต่จริงๆ แล้วอารมณ์นี่แหละที่มักจะเป็นตัวขับเคลื่อนการกระทำของเรา โรเบิร์ต กรีน เขียนเรื่องนี้ไว้ในหนังสือ “The Laws of Human Nature” บทแรกเลย เขาบอกว่าถ้าเราเข้าใจและจัดการกับอารมณ์ได้ดี ชีวิตเราจะควบคุมได้ง่ายขึ้นเยอะ และเราจะมีเหตุผลอย่างจริง ๆ มากขึ้น แทนที่จะเอาอารมณ์นั้นมาเป็นเหตุผลซะเอง
📘 ทำไมเราถึงไร้เหตุผล?
กรีนบอกว่า การไร้เหตุผลเป็นส่วนหนึ่งของมนุษย์เราแหละ อารมณ์มันชอบเข้ามาแทรกความคิด บางทีก็บิดเบือนความจริงเพื่อปกป้องอีโก้ของเรา ที่เป็นแบบนี้เพราะสมองเราวิวัฒนาการมาแบบนี้ อารมณ์เกิดก่อนเหตุผลซะอีก
🧠 อารมณ์มาจากไหน?
ลองนึกถึงบรรพบุรุษเราสิ ความกลัว ความโกรธ มันช่วยให้เขารอดตายมาได้ ตอบสนองภัยอันตรายได้ไว แต่ทุกวันนี้ ถ้าไม่รู้จักจัดการ อารมณ์พวกนี้กลับทำให้เราทำอะไรโง่ ๆ ได้ง่าย ๆ
🛠 สามขั้นตอนสู่ความมีเหตุผล
1. รู้ทันอคติ ยอมรับซะว่าเรามีอคติทางอารมณ์ เช่น ชอบหาข้อมูลที่เข้าข้างความเชื่อเดิม ๆ ของตัวเอง ลองดูตัวอย่างนี้ว่าคล้าย ๆ กับชีวิตเราหรือไม่
ลองนึกภาพดูนะ คุณกำลังเถียงกับเพื่อนว่าร้านข้าวมันไก่ไหนอร่อยที่สุดในกรุงเทพฯ คุณยืนยันว่าร้าน “ไก่บ้าน ๆ” เจ๋งสุด ๆ แล้ว คุณก็จะเริ่มหาข้อมูลทุกอย่างมาสนับสนุนความคิดนี้ เช่น
“เห็นไหม! คนเข้าคิวยาวเป็นหางว่าว”
“ดูสิ! รีวิวในแอพสั่งอาหารคะแนนสูงลิ่ว”
“นี่ไง! เพจดังยังมารีวิวเลย”
แต่เดี๋ยวก่อน! คุณลืมไปแล้วเหรอว่าเมื่อเดือนก่อนคุณเคยบ่นว่าข้าวมันแห้งไปหน่อย? แถมยังมีบางเพจรีวิวว่าไม่อร่อยเท่าไหร่ หรือว่าคุณแค่มองข้ามมันไปเพราะมันไม่เข้ากับความเชื่อที่คุณมีตอนนี้กันแน่?
นี่แหละครับ คือตัวอย่างง่าย ๆ ของอคติที่เรียกว่า “อคติยืนยันความเชื่อเดิม” หรือ Confirmation Bias
2. ระวังตัวกระตุ้น สังเกตว่าอะไรทำให้เราอารมณ์พุ่ง เช่น ความเครียด การเปลี่ยนแปลงกะทันหัน ตัวอย่างเช่น
ลองนึกภาพว่า คุณกำลังขับรถกลับบ้านหลังเลิกงาน เหนื่อยแทบขาดใจ แถมรถติดหนักมาก ทีนี้มีคันหนึ่งแซงปาดหน้าคุณแบบกระชั้นชิด บอกเลยว่าอารมณ์พุ่งปรี๊ดแน่นอน!
หรืออีกเหตุการณ์ คุณเพิ่งได้ยินว่าบริษัทจะปรับโครงสร้างใหญ่ ไม่รู้ว่าตำแหน่งตัวเองจะเป็นยังไง ความไม่แน่นอนนี่แหละ ทำให้เราเครียดและหงุดหงิดง่ายขึ้นเยอะ
หรือแม้แต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างเช่น คุณตื่นสาย พลาดมื้อเช้า แถมลืมเอาโทรศัพท์มาด้วย วันนั้นคุณอาจจะอารมณ์เสียง่ายกว่าปกติโดยไม่รู้ตัว
สิ่งสำคัญคือ การรู้ตัวว่าสถานการณ์แบบไหนที่มักจะกระตุ้นอารมณ์เรา พอรู้แล้ว เราจะได้เตรียมใจ และรับมือได้ดีขึ้น
3. ฝึกคิดอย่างมีเหตุผล ลองใช้เทคนิค เช่น นับหนึ่งถึงสิบก่อนตอบโต้ คิดทบทวนว่าอะไรทำให้อารมณ์เรามาเหนือเหตุผลได้ เช่นจากตัวอย่างในข้อ 2 รถปาดหน้าเรา แทนที่จะกดแตรยาวๆ หรือตะโกนด่า แล้วก็ลงไปมีเรื่องกัน ลองทำแบบนี้ดูนะครับ
- หายใจลึกๆ สูดลมหายใจเข้าช้าๆ นับ 1-2-3-4 กลั้นไว้สักพัก แล้วค่อยๆ ผ่อนออกนับ 1-2-3-4 ทำแบบนี้สัก 2-3 รอบ
- นับถอยหลังจาก 10 นับในใจ “10, 9, 8, 7…” ไปเรื่อยๆ จนถึง 1 ช่วงเวลาสั้นๆ นี้จะทำให้สมองของคุณสงบลงได้
- ถามตัวเอง “ถ้าเกิดเหตุการณ์นี้กับเพื่อนสนิท เราจะรู้สึกยังไง? จะแนะนำเพื่อนว่าไง?” บ่อยครั้งที่เราให้คำแนะนำดีๆ กับคนอื่นได้ แต่ลืมเอามาใช้กับตัวเอง
- มองภาพใหญ่ คิดดูว่าอีก 1 ชั่วโมง 1 วัน หรือ 1 สัปดาห์ข้างหน้า เรื่องนี้จะสำคัญแค่ไหน? บางทีมันอาจจะไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย
- เปลี่ยนมุมมอง ลองคิดดูว่า “คนขับคันนั้นอาจจะกำลังรีบไปส่งคนป่วยที่โรงพยาบาลก็ได้” การคิดในแง่บวกแบบนี้จะช่วยลดความโกรธลงได้เยอะ
จำไว้นะ ทุกครั้งที่รู้สึกว่าอารมณ์กำลังจะพุ่ง ให้นึกถึง 5 ขั้นตอนนี้ ฝึกบ่อยๆ แล้วคุณจะกลายเป็นคนที่ใจเย็นขึ้นแบบไม่รู้ตัวเลยล่ะ!
🌐 อิทธิพลกลุ่มก็สำคัญนะ
เวลาอยู่ในกลุ่ม เรามักจะคล้อยตามคนอื่นง่าย หรือ ถูกอารมณ์กลุ่มครอบงำได้ง่ายกว่า ระวังไว้ อย่าลืมรักษาความมีเหตุผลของตัวเองไว้ ก่อนที่จะตัดสินใจทำอะไรลงไป
กรีนบอกว่า ตั้งแต่สมัยโบราณมา ความไร้เหตุผลมันก็มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมมนุษย์มาตลอด ถึงโลกจะพัฒนาไปแค่ไหน ธรรมชาติทางอารมณ์ของเราก็ยังอยู่ อย่าคิดว่าสังคมสมัยใหม่จะพ้นจากความไร้เหตุผลนะ มันแค่เปลี่ยนรูปแบบไปเท่านั้นเอง
บทแรกนี้ชวนให้เราตระหนักว่า อารมณ์มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของเรามากแค่ไหน ถ้าเข้าใจและจัดการมันได้ เราจะควบคุมชีวิตได้ดีขึ้น ตัดสินใจได้แม่นยำขึ้น กรีนไม่ได้บอกให้เราละทิ้งอารมณ์นะ แต่ให้เรียนรู้ที่จะอยู่กับมันอย่างฉลาด ไม่ให้มันพาเราไปทำอะไรบ้าๆ
ใส่ความเห็น