การสร้างความปลอดภัยทางจิตใจในที่ทำงาน เริ่มจากการสื่อสารอย่างเปิดใจ

บทความตอนที่แล้วได้เขียนถึงประโยชน์ของ Psychological Safety ในการทำงาน วันนี้จะมาต่อในเรื่องของวิธีการสร้าง ว่าถ้าเราจะสร้างความรู้สึกปลอดภัยทางจิตใจให้เกิดขึ้นจริง ๆ กับทีมงานของเรา เราจะต้องทำอย่างไรบ้าง โดยเริ่มต้นจากการสร้างบรรยากาศ และวิธีการสื่อสารอย่างเปิดใจก่อนเลย

การสื่อสารอย่างเปิดใจ (Courageous Communication)

บางที่ก็แปลว่า การสื่อสารด้วยความกล้าหาญ ถือเป็นทักษะสำคัญอย่างแรกเลย สำหรับผู้นำที่ต้องการสร้างที่ทำงานที่ปลอดภัยทางจิตวิทยา เป็นการส่งเสริมการสนทนาแบบเปิดใจ ยอมรับกัน ไม่ตำหนิกัน ไม่บูลี่กัน เมื่อทำเช่นนี้ ผู้นำจะตั้งมาตรฐานให้ผู้อื่นได้แสดงความคิดเห็นโดยไม่ต้องกลัวการถูกตัดสินหรือลงโทษ การสื่อสารรูปแบบนี้ช่วยให้ความคิดต่าง ๆ ได้รับการแลกเปลี่ยนกันอย่างดี ความขัดแย้งได้รับการแก้ไข และในที่สุด ทีมก็จะแข็งแกร่งและมีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น

กลยุทธ์สำคัญในการสื่อสารด้วยความกล้าหาญ

เพื่อปลูกฝังความปลอดภัยทางจิตวิทยาผ่านการสื่อสารด้วยความกล้าหาญ ผู้นำสามารถนำกลยุทธ์ต่อไปนี้มาใช้:

1. กล้าเปิดรับมุมมองอื่น ๆ

สิ่งที่ทรงพลังที่สุดอย่างหนึ่งที่ผู้นำสามารถทำได้คือการถามคำถามอย่างสม่ำเสมอว่า “ฉันพลาดอะไรไปบ้าง?” คำถามที่เรียบง่ายแต่ทรงพลังนี้แสดงถึงการเปิดใจรับมุมมองและแนวคิดที่แตกต่าง เมื่อผู้นำยอมรับว่าตนเองไม่ได้มีคำตอบทั้งหมด พวกเขาก็จะสร้างบรรยากาศที่พนักงานรู้สึกปลอดภัยในการนำเสนอความคิดของตนเอง

2. กล้าสนับสนุนความคิดเห็นที่แตกต่าง

ผู้นำควรสนับสนุนให้เกิดความคิดเห็นที่ขัดแย้งได้อย่างเปิดเผย การเห็นพ้องต้องกันอย่างเดียวเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งเป็นสิ่งที่ง่าย แต่ทีมจะได้รับประโยชน์เมื่อมีการนำเสนอแนวคิดที่ขัดแย้งกัน การส่งเสริมให้เกิดการอภิปรายอย่างมีสุขภาพดีจะทำให้ทีมพิจารณาทุกแง่มุม และนำไปสู่การตัดสินใจที่ดียิ่งขึ้น

3. กล้าเปิดเผยอารมณ์ของตัวเอง

ต่างจากแนวคิดการเป็นผู้นำแบบเก่าที่เน้นการแสดงออกด้วยความเข้มแข็ง การเปิดเผยอารมณ์อย่างจริงใจจากผู้นำจะช่วยสร้างความไว้วางใจและการเชื่อมต่อในทีมได้ การแบ่งปันอารมณ์เป็นการแสดงถึงความเปราะบาง ซึ่งช่วยให้ผู้อื่นรู้สึกสบายใจที่จะทำเช่นเดียวกัน ตัวอย่างเช่น การยอมรับว่าคำติชมทำให้รู้สึกกระทบใจหรือการแสดงความไม่แน่ใจจะแสดงให้เห็นว่าผู้นำเป็นมนุษย์ ซึ่งจะส่งเสริมความปลอดภัยทางจิตวิทยา

4. กล้ายอมรับความไม่สมบูรณ์แบบ

ผู้นำที่ยอมรับว่าตนเองไม่ได้มีคำตอบทั้งหมดจะสร้างวัฒนธรรมของการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง การพูดว่า “ฉันยังไม่รู้” ทำให้ผู้นำแสดงถึงความถ่อมตัวและการมีทัศนคติการเติบโต การปฏิบัตินี้ไม่เพียงแต่ช่วยลดแรงกดดันที่จะต้องเป็นคนสมบูรณ์แบบ แต่ยังส่งเสริมให้สมาชิกในทีมเผชิญกับความท้าทายด้วยความอยากรู้และเต็มใจที่จะเรียนรู้จากความผิดพลาด

5. กล้าใช้ความขบขันในการคลายความตึงเครียด

ความรู้สึกขบขันเป็นทักษะที่ผู้นำหลายคนมองข้าม การหัวเราะกับตัวเองและส่งเสริมให้เกิดความขบขันในที่ทำงานสามารถช่วยลดอุปสรรคและสร้างบรรยากาศที่เป็นมิตรได้มากขึ้น ความขบขันช่วยคลายความตึงเครียดและทำให้การสนทนายาก ๆ เป็นไปได้ง่ายขึ้น ซึ่งสุดท้ายแล้วจะส่งเสริมความปลอดภัยทางจิตวิทยาในที่ทำงาน

ความปลอดภัยทางจิตวิทยาเป็นพื้นฐานของทีมที่ประสบความสำเร็จและมีนวัตกรรม การสื่อสารด้วยความกล้าหาญจะช่วยให้ผู้นำสร้างสภาพแวดล้อมที่พนักงานรู้สึกปลอดภัยที่จะพูด แสดงความคิดเห็น และเสี่ยงภัย ซึ่งไม่เพียงแต่นำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นสำหรับทีม แต่ยังช่วยให้บุคคลเติบโตและเจริญรุ่งเรืองอีกด้วย ในที่สุดแล้ว การสร้างวัฒนธรรมแห่งความปลอดภัยทางจิตวิทยาไม่ใช่แค่เรื่องดีสำหรับธุรกิจเท่านั้น แต่ยังเป็นสิ่งจำเป็นในการสร้างสถานที่ทำงานที่ทุกคนสามารถแสดงศักยภาพได้อย่างเต็มที่