แนวโน้มสวัสดิการและการเปลี่ยนแปลงการให้สวัสดิการพนักงานในปี 2024

อ้างอิงผลการสำรวจสวัสดิการประจำปี 2567 ของทาง Think People Consulting และ ของผลการสำรวจใน website SHRM ที่สำรวจในแบบทั่วโลก ให้ภาพรวมที่น่าสนใจเกี่ยวกับแนวโน้มสวัสดิการพนักงาน ซึ่งสามารถสรุปหมวดหมู่หลักของสวัสดิการ 6 ประเภท ดังต่อไปนี้

1. สวัสดิการด้านการดูแลสุขภาพ

• 88% ของนายจ้างจัดอันดับให้สวัสดิการที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพมีความสำคัญสูงสุด
• ส่วนใหญ่เสนอแผนประกันสุขภาพแบบเต็มรูปแบบ (70%) และประมาณ 27% มีแผนประกันตนเอง
• แผนสวัสดิการด้านสุขภาพ แบบ PPO หรือ Preferred Provider Organization ซึ่งเป็นแผนประกันสุขภาพที่เน้นความยืดหยุ่นและทางเลือกสำหรับผู้เอาประกัน แลกกับค่าใช้จ่ายที่อาจสูงขึ้น ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมการเลือกผู้ให้บริการทางการแพทย์ของตนเอง มีแนวโน้มความต้องการแผนประกันแบบนี้สูงขึ้น

2. การออมและวางแผนเพื่อเกษียณ

• 81% ของนายจ้างมองว่าสวัสดิการด้านการออม และการเกษียณอายุนี้ มีความสำคัญมาก โดยแผน 401(k) ซึ่งก็คล้าย ๆ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพในเมืองไทย เป็นแผนการออกที่เป็นที่นิยมมากที่สุด
• และทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ต่างก็ให้ความสำคัญกับแผนการออมเพื่อการเกษียณอายุมากขึ้นเรื่อย ๆ โดย 73% ของนายจ้างมีการเสนอแผนนี้ให้กับพนักงานในปีนี้
• มีการให้ความรู้เรื่องของการบริหารเงิน เพื่อลดภาระการสร้างหนี้ของพนักงาน ทำให้พนักงานตระหนักในเรื่องของความสำคัญของการออม และการวางแผนการเงินเพื่ออนาคต

3. สวัสดิการการลา

• นายจ้างส่วนใหญ่ให้วันหยุดพักผ่อนประจำปี วันหยุดนักขัตฤกษ์ และวันลาป่วยแบบได้รับค่าจ้าง เริ่มมีนายจ้างที่ให้พนักงานมีความยืดหยุ่นในการลาของตนเองมากขึ้น ทั้งนี้ก็เพื่อวัตถุประสงค์ของการบริหารชีวิต และสุขภาพของตนเองและครอบครัวเป็นหลัก
• การลาเพื่อเลี้ยงดูบุตร ในฐานะบิดา มารดาแบบได้รับค่าจ้างกำลังเป็นที่แพร่หลายมากขึ้น สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงในการสนับสนุนพ่อแม่ที่ทำงานให้สามารถมีเวลาในการดูแลบุตรในช่วงวัยเด็กมากขึ้น

4. การจัดการทำงานแบบยืดหยุ่น

• 70% ของนายจ้างมีการจัดนโยบายการทำงานแบบยืดหยุ่นมากขึ้น มีการพิจารณาตัวเลือกการทำงานแบบยืดหยุ่นให้กับพนักงาน อาทิ ยืดหยุ่นในสถานที่ทำงาน ยืดหยุ่นเรื่องเวลาทำงาน และวิธีการทำงาน มากขึ้น
• มีแนวโน้มที่ชัดเจนในการใช้รูปแบบการทำงานแบบไฮบริด แม้จะมีการลดลงของการทำงานจากที่บ้านแบบ 100% และลดเงินอุดหนุนอุปกรณ์ทำงานที่บ้าน แต่ก็จะเพิ่มในเรื่องของความยืดหยุ่นของเวลาในการทำงานที่ต้องเข้าทำงานในบริษัท

5. การพัฒนาวิชาชีพและอาชีพ

• สวัสดิการในหมวดหมู่นี้รวมถึงการยกระดับทักษะและการเพิ่มทักษะใหม่ ซึ่งมีความสำคัญในตลาดแรงงานที่ได้รับอิทธิพลจากเทคโนโลยีและปัญญาประดิษฐ์มากขึ้น องค์กรเพิ่มการเรียนรู้ให้พนักงานในเรื่องของ AI
• นายจ้างหลายแห่งที่ยังคงรับผิดชอบค่าใช้จ่ายสำหรับใบอนุญาตและการรับรองทางวิชาชีพให้กับพนักงาน โดยแลกกับการที่พนักงานจะต้องอยู่ทำงานกับบริษัทเป็นระยะเวลาหนึ่ง แต่ทั้งนี้ก็เป็นการส่งเสริมให้พนักงานเติบโตในสายอาชีพของตนเองในการทำงานได้มากขึ้น

คำแนะนำสำหรับบริษัทในการนำผลสำรวจนี้ไปประยุกต์ใช้

• ปรับตัวตามแนวโน้มการดูแลสุขภาพ บริษัทควรปรับสวัสดิการด้านการดูแลสุขภาพอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงของพนักงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงคุณค่าสูงที่พนักงานให้กับสวัสดิการด้านสุขภาพ รวมถึงการขยายบริการ เช่น การครอบคลุมด้านสุขภาพจิตและบริการสุขภาพทางไกล ซึ่งได้กลายเป็นมาตรฐานแล้ว

• เพิ่มสวัสดิการด้านการเกษียณ เนื่องจากการวางแผนเกษียณยังคงเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นๆ สำหรับพนักงาน ธุรกิจควรไม่เพียงแต่เสนอแผนเกษียณที่แข็งแกร่งเท่านั้น แต่ยังต้องมั่นใจว่าพนักงานรับรู้และเข้าใจสวัสดิการเหล่านี้อย่างเต็มที่ ซึ่งสามารถเพิ่มความพึงพอใจและการรักษาพนักงานได้

• ทำให้ตัวเลือกการทำงานแบบยืดหยุ่นเป็นเรื่องปกติ ด้วยความต้องการสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัวที่ยังคงมีอยู่ บริษัทควรสร้างระบบการจัดการทำงานแบบยืดหยุ่น เช่น รูปแบบการทำงานแบบไฮบริด เพื่อดึงดูดและรักษาบุคลากรที่มีความสามารถ

• มุ่งเน้นการพัฒนาวิชาชีพ การลงทุนในการพัฒนาวิชาชีพโดยสนับสนุนการยกระดับทักษะและการเพิ่มทักษะใหม่สามารถเตรียมพนักงานสำหรับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง AI ซึ่งกำลังจะกำหนดบทบาทงานใหม่

• กำหนดมาตรฐานและเพิ่มความยืดหยุ่นในนโยบายการลา ธุรกิจอาจพิจารณากำหนดมาตรฐานนโยบายการลาเพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายที่เข้มงวดที่สุด ในขณะที่ตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของพนักงาน ซึ่งอาจรวมถึงการเสนอการลาเพื่อเลี้ยงดูบุตรและการดูแลผู้อื่นที่ครอบคลุมมากขึ้น ซึ่งมีความสำคัญเพิ่มขึ้นสำหรับสวัสดิภาพและการรักษาพนักงาน

โดยการใช้ประโยชน์จากข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้ บริษัทสามารถเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในตลาดแรงงาน ปรับปรุงความพึงพอใจและการรักษาพนักงาน และจัดการกำลังคนอย่างมีประสิทธิภาพให้สอดคล้องกับแนวโน้มปัจจุบันและความต้องการในอนาคต