ต้องรู้ไว้! ระบบค่าตอบแทนผันแปร (Variable Pay) เคล็ดลับดึงดูดและเก็บรักษาบุคลากรมืออาชีพ (ตอนที่ 2)

วันนี้มาต่อกันในเรื่องของตัวอย่างของระบบค่าตอบแทนผันแปรที่นิยมใช้กันในองค์กรบ้านเรามากขึ้นเรื่อย ๆ ว่ามีอะไรบ้าง

ตัวอย่างระบบค่าตอบแทนผันแปรที่นิยมใช้กันมากขึ้น

  • โบนัสตามผลงาน หมายถึงโบนัสตามผลงานจริง ๆ ไม่ใช่โบนัสในความหมายของบางองค์กรที่ให้กับพนักงานโดยไม่ได้ไปผูกกับผลงานขององค์กรแต่อย่างใด ให้เสมือนเป็นของขวัญแก่พนักงานมากกว่า ลักษณะโบนัสตามผลงานจริง ๆ จะต้องมีการกำหนดเป้าหมายผลงานของพนักงานที่ชัดเจนมาก ว่าต้องทำ KPI ให้ได้เท่าไหร่ เป้าหมายคือเท่าไหร่ และถ้าทำได้จะคำนวณเงินก้อนนี้ให้เท่าไหร่ ดังนั้น พนักงานจะได้โบนัสผันแปรไปตามผลงานของตนเองจริง ๆ
  • Profit Sharing/Gain Sharing การแบ่งปันผลกำไรส่วนต่าง พนักงานจะได้รับส่วนแบ่งจากกำไรของบริษัท โดยทั่วไปจะจ่ายเป็นรายปี หรือ ทุก 6 เดือน ก็ได้ โดยการคำนวณ จะต้องเชื่อมโยง KPI ของพนักงานให้เข้ากับระบบการคิดกำไรของบริษัทให้ได้ ว่า พนักงานมีส่วนทำให้บริษัทได้กำไรตรงไหน ไม่ว่าจะเป็น การผลิตที่ต้นทุนลดลง แต่ได้งานที่มากขึ้น หรือการปรับกระบวนการบางอย่างเพื่อลดการใช้งบประมาณลง ก็เพื่อส่งผลให้เกิดกำไรมากขึ้น ฯลฯ แล้วบริษัทก็จะนำส่วนต่างตรงนี้มาคำนวณ เพื่อแบ่งปันผลกำไรที่ได้มา คืนสู่พนักงานตามผลงานแต่ละคนที่ทำได้มากน้อยแตกต่างกันไป ประเภทของผลตอบแทนแบบผันแปรนี้จะทำให้ผลประโยชน์ของพนักงานสอดคล้องกับความสำเร็จทางการเงินของบริษัท
  • Performance Incentive ค่าตอบแทนผันแปรตัวนี้จะคล้ายกับ Profit Sharing เนื่องจากต้องมีเงินส่วนต่างนำมาจ่ายให้กับพนักงาน ดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีการกำหนดเป้าหมายว่าต้องเป็นเท่าไหร่ให้ชัดเจน ส่วนที่แตกต่างในระบบ Incentive ก็คือ จะเน้นให้พนักงานทำงานให้เกินกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ให้ได้ เพื่อที่จะได้รับผลตอบแทนในอัตราก้าวหน้ามากกว่าการที่ทำได้ตามเป้าหมายเท่านั้น ดังนั้น ระบบ incentive ก็คือ การกระตุ้นให้พนักงานสร้างผลงานให้ได้เกินกว่าเป้าหมายนั่นเอง ยิ่งทำมาก ยิ่งได้มาก
  • Project Bonus จ่ายให้กับพนักงานหรือทีมงานเมื่อโครงการประสบความสำเร็จ โดยต้องมีการกำหนดตัววัดความสำเร็จกันอย่างชัดเจน เช่น ความสำเร็จทางการเงินได้ตามเป้าหมายหรือไม่ เช่น เมื่อเริ่มโครงการนี้แล้ว จะทำให้ต้นทุนเราลดลงไปได้ ถ้าได้จริงตามเป้าหมาย ก็จะมีสิทธิได้รับเงินจูงใจก้อนนี้ นอกจากนั้น อาจจะต้องมีการกำหนดในเรื่องของ ทันเวลา และอยู่ในงบประมาณ ประกอบด้วยเช่นกัน
  • Spot Bonus จะคล้ายกับ Project Bonusเป็นเงินรางวัลที่จ่ายทันที ครั้งเดียวสำหรับผลงานหรือการมีส่วนร่วมที่โดดเด่นของพนักงาน ซึ่งอาจจะไม่ใช่งานโครงการก็ได้ เช่น ได้รับรางวัลกาบริการที่ดีจากสถาบัน xxxx ซึ่งถือว่าเยี่ยมมาก ผู้บริหารก็อาจจะพิจารณาให้ Spot Bonus เป็นการตอบแทนได้เช่นกัน หรือ ปีนี้ได้รับการชื่นชมเป็นพิเศษจากลูกค้ารายใหญ่ หรือ มี innovation ใหม่ ๆ ที่ส่งผลดีต่อบริษัทอย่างมาก เป็นต้น โดย Spot Bonus นั้น มักขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้บริหารระดับสูงมากหน่อย ว่าจะให้เท่าไหร่อย่างไร

ข้อควรพิจารณาในการนำระบบผลตอบแทนแบบผันแปรมาใช้จริง

  1. เป้าหมายองค์กร และเป้าหมายผลงานต้องชัดมาก เพื่อที่จะเลือกประเภทผลตอบแทนแบบผันแปรที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์โดยรวมขององค์กร ตัวอย่างเช่น การแบ่งปันกำไร หรือ ระบบ Bonus หรือ Incentive จะได้ออกแบบให้เหมาะสม
  2. การบริหารจัดการ จะต้องเน้นไปที่ผลงานจริง ๆ มีการนำเอาระบบบริหารผลงานมาใช้อย่างจริงจัง มีการกำหนด KPI ตามผลงาน และเชื่อมโยงไปหาผลกำไรสุดท้ายขององค์กรให้ได้
  3. ความโปร่งใสและความเป็นธรรม ต้องมีระบบในการตรวจสอบให้แน่ใจว่าเกณฑ์ในการได้รับผลตอบแทนแบบผันแปรมีความชัดเจน โปร่งใส และพนักงานรับรู้ว่าเป็นธรรม สิ่งนี้จะช่วยสร้างความไว้วางใจและรักษาแรงจูงใจ
  4. งบประมาณและสถานะทางการเงิน เนื่องจากระบบ Variable Pay นั้น เป็นระบบที่ต้องมีเงินในการจ่ายพนักงาน เงินก้อนนี้มาจากไหน คำตอบก็คือ กำไรของบริษัทนั่นเอง ดังนั้นการคำนวณ การประมาณการผลกำไรของบริษัทจะต้องแม่นยำในระดับหนึ่ง เพื่อให้แน่ใจว่าองค์กรมีกำลังในการจ่ายค่าตอบแทนจูงใจก้อนนี้ โดยไม่ได้จ่ายแล้วขาดทุน มิฉะนั้น จะกลายเป็นว่า พนักงานล่ำซำ แต่บริษัทร่อแร่
  5. กฎหมายและข้อกำหนด ตรวจสอบให้แน่ใจว่าแผนผลตอบแทนแบบผันแปรทั้งหมดสอดคล้องกับกฎหมายและระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการปฏิบัติตามกฎหมายแรงงาน รวมถึงกฎหมายด้านอื่น ๆ

โดยสรุปแล้ว ระบบค่าตอบแทนแบบผันแปร และโบนัสตามผลงาน (Variable Pay) เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการเพิ่มแรงจูงใจให้พนักงาน ทำให้ความพยายามของแต่ละบุคคลสอดคล้องกับเป้าหมายองค์กร และขับเคลื่อนผลการดำเนินงานโดยรวม เมื่อนำมาใช้อย่างรอบคอบ โครงการเหล่านี้สามารถสร้างประโยชน์ทั้งต่อพนักงานและองค์กร

อย่างไรก็ตาม การพิจารณาตัวชี้วัดผลงาน การสื่อสาร ความเป็นธรรม ดุลยภาพ และการปฏิบัติตามกฎระเบียบเป็นสิ่งสำคัญในการประกันความสำเร็จและความยั่งยืนของโครงการผลตอบแทนแบบผันแปร โดยการแก้ไขประเด็นสำคัญเหล่านี้ องค์กรจะสามารถใช้ประโยชน์จากระบบผลตอบแทนแบบผันแปรในการบรรลุวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์และรักษาพนักงานที่มีแรงจูงใจและมีส่วนร่วมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ใส่ความเห็น

บลอกที่ WordPress.com .

ขึ้น ↑