เหตุผลที่องค์กรควรจะต้องใส่ใจทางด้าน Wellbeing ของพนักงาน

การนำโปรแกรมส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี (Wellbeing) มาใช้ในที่ทำงานนั้นมีความสำคัญหลายประการ โปรแกรมเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้พนักงานมีสุขภาพดีเท่านั้น แต่ยังส่งผลดีต่อความสำเร็จและความยั่งยืนขององค์กรโดยรวมด้วย อีกทั้งยังเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการดึงดูด และเก็บรักษาพนักงานเก่ง ๆ ไว้ได้อย่างดีอีกด้วย และนี่คือเหตุผลสำคัญที่ควรให้ความสนใจกับ Wellbeing ของพนักงาน

  1. สุขภาพพนักงานที่ดีขึ้นและค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพลดลงในระยะยาว

สุขภาพเชิงป้องกัน: โปรแกรมส่งเสริมสุขภาพ และความเป็นอยู่ที่ดี จะทำให้พนักงานมีนิสัยที่ดีต่อสุขภาพของตนเอง ซึ่งช่วยป้องกันโรคเรื้อรังและลดความเสี่ยงของปัญหาสุขภาพร้ายแรง

ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพลดลง: พนักงานที่มีสุขภาพดีย่อมมีการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลลดน้อยลง ทำให้องค์กรมีค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพลดลงในระยะยาว อีกทั้ง พนักงานยังสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย

2. การมีส่วนร่วมและผลิตภาพของพนักงานเพิ่มสูงขึ้น

ประสิทธิภาพการทำงานเพิ่มขึ้น: พนักงานที่รู้สึกมีสุขภาพดีและได้รับการสนับสนุนมักจะมีส่วนร่วมและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

การขาดงานลดลง: โปรแกรมส่งเสริมสุขภาพ และความเป็นอยู่ที่ดี สามารถช่วยลดการขาดงานของพนักงาน โดยช่วยให้พวกเขาจัดการกับความเครียด ปรับปรุงสุขภาพร่างกาย และฟื้นตัวจากการเจ็บป่วยได้เร็วขึ้น

3. ขวัญกำลังใจ และความพึงพอใจในการทำงานของพนักงานเพิ่มสูงขึ้น

บรรยากาศการทำงานที่ดี: การริเริ่มโครงการส่งเสริมสุขภาพ และความเป็นอยู่ที่ดี จะช่วยสร้างบรรยากาศการทำงานที่เป็นบวกและเอื้ออาทร ซึ่งจะเพิ่มกำลังใจและความพึงพอใจในงานของพนักงาน

การเก็บรักษาพนักงาน: เมื่อพนักงานรู้สึกว่าตนเองได้รับการดูแล และรู้สึกว่าองค์กรให้คุณค่ากับพนักงานอย่างจริงจัง และจริงใจ พนักงานก็มักจะคงอยู่ทำงานกับองค์กรต่อไป ซึ่งทำให้อัตราการลาออกลดลง

4. ดึงดูดบุคลากรที่มีความสามารถสูงเข้ามาทำงานได้ง่ายขึ้น

เป็นนายจ้างที่พนักงานอยากทำงานด้วย: บริษัทที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพ และความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานมักจะถูกมองว่าเป็นสถานที่ทำงานที่น่าทำงานด้วย ทำให้ง่ายต่อการดึงดูดและเก็บรักษาบุคลากรที่มีความสามารถสูงไว้

ข้อได้เปรียบในการแข่งขัน: การมีโปรแกรมส่งเสริมสุขภาพ และความเป็นอยู่ที่ดี ที่ครอบคลุมสามารถสร้างความแตกต่างให้กับองค์กรจากคู่แข่งขันของเราเอง และทำให้เราได้เปรียบงในการสร้างผลประกอบการทางธุรกิจในระยะยาวได้ดี

5. เสริมภาพลักษณ์ขององค์กรให้ดีขึ้นในสายตาของทุกคน

ภาพลักษณ์ และ Brand: องค์กรที่รู้จักกันดีในเรื่องความมุ่งมั่นต่อสุขภาพ และความเป็นอยู่ของพนักงาน จะได้รับการรับรู้ในแง่บวกจากลูกค้า ผู้บริโภค และบุคคลภายนอกอย่างกว้างขวาง

6. สร้างดุลยภาพระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัวของพนักงานที่ดีขึ้น

โปรแกรมส่งเสริมสุขภาพ และความเป็นอยู่ที่ดี ของพนักงาน มักรวมถึงรูปแบบการทำงานที่ยืดหยุ่น และการบริการในด้านต่าง ๆ ที่สนับสนุน ช่วยเหลือพนักงานให้สามารถสร้างดุลยภาพระหว่างงานและชีวิตส่วนตัวได้อย่างดี ซึ่งจะช่วยลดภาวะความเหนื่อยล้าในการทำงานลงได้อย่างดี สามารถจัดการกับปัจจัยที่ส่งผลต่อความเครียด และภาวะเหนื่อยล้าซึ่งสุดท้ายพนักงานก็จะมีสุขภาพกายและใจที่ดีและมีดุลยภาพมากขึ้น

7. ส่งเสริมนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ที่เพิ่มขึ้น

พนักงานที่มีร่างกาย และจิตใจที่เข้มแข็ง สุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดี มักจะมีความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมมากขึ้นกว่าปกติ ซึ่งจะส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ในการทำงานได้อย่างดี องค์กรจะได้ไอเดียดี ๆ จากพนักงานมากขึ้น

จาก 7 เหตุผลข้างต้น น่าจะสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริหารขององค์กรได้ว่า Wellbeing นั้น เป็นเรื่องสำคัญในการทำงานของพนักงานในปัจจุบันนี้อย่างมาก ดังนั้น เราคงต้องหันมาพิจารณาโครงการ และสวัสดิการที่เน้น ชีวิตและความเป็นอยู่ของพนักงานให้มากขึ้นแล้วครับ

ใส่ความเห็น

บลอกที่ WordPress.com .

ขึ้น ↑