วันนี้วันศุกร์ เช่นเคยครับ เอานิทานดี ๆ มาให้อ่านกันอีกหนึ่งเรื่องครับ เรื่องราวเกี่ยวกับความสุจริต ทุจริตในอาชีพของตนเอง ซึ่งปัจจุบันก็เป็นอีกประเด็นที่พบเจอกันมากในสังคมบ้านเรา
มีชายหนุ่มคนหนึ่งเป็นช่างตีเหล็กที่ยากจนมาก เขากำลังจะอดตาย แต่แล้วโชคชะตาก็พาเขามาพบกับปีศาจตนหนึ่ง ซึ่งยื่นข้อเสนอให้เขาว่า จะให้เหรียญทองจำนวนมากแก่เขา ถ้าเขายอมมอบวิญญาณให้ในอีกสามปีให้หลัง
ช่างตีเหล็กคิดว่า ยังไงเสียตัวเขาเองก็จะอดตายอยู่แล้ว ได้เงินทองมาซื้ออาหารกินและตายในอีกสามปีก็ยังดีกว่าตายตอนนี้ จึงยอมเซ็นสัญญามอบวิญญาณให้ปีศาจ
และเมื่อได้เหรียญทองมา ช่างตีเหล็กก็รีบนำมันแลกเงินได้จำนวนมาก เขาตรงไปตลาดซื้ออาหารมารับประทาน เมื่ออิ่มหนำดีแล้วจึงเห็นว่าเงินที่แลกมาจากเหรียญทองคำยังเหลืออยู่จำนวนมาก เขาจึงไปหาซื้อเครื่องมือช่างอย่างดีมาทำงานตีเหล็กต่อ ครานี้มีคนมาจ้างให้เขาทำงานมากมาย จนในที่สุดเขาก็กลายเป็นเศรษฐี
ระหว่างนั้น นักบุญเปโตรได้ยินข่าวลือเรื่องฝีมือของช่างตีเหล็ก จึงเดินทางมาจ้างงานเขาให้ตีไม้กางเขนให้อันหนึ่ง เมื่อถึงเวลานัดหมาย ช่างตีเหล็กได้ทำไม้กางเขนเหล็กออกมางดงามมาก
ไม้กางเขนเหล็กนั้น สวยงามเกินกว่าที่ท่านนักบุญคาดหมายไว้ จึงเป็นที่ดีใจอย่างมากของท่านนักบุญเปโตร ท่านจึงให้ช่างตีเหล็ก ขอพรที่จะเป็นจริงได้สามประการ
ช่างตีเหล็กจึงขอ….
: ถุงตะปู ที่ถ้าล้วงมือลงไปแล้ว จะถอนมือไม่ออกจนกว่าช่างตีเหล็กจะอนุญาต
: ชุดโต๊ะอาหาร ที่ถ้านั่งแล้ว จะลุกไม่ได้จนกว่าช่างตีเหล็กจะอนุญาต
และ….
: ต้นแอ๊ปเปิ้ลที่ถ้าปีนขึ้นไปแล้ว จะลงไม่ได้จนกว่าช่างตีเหล็กจะอนุญาต
เมื่อเวลาผ่านไปสามปี เมื่อถึงเวลาที่ปีศาจจะมารับวิญญาณของเขา ช่างตีเหล็กก็ได้นั่งรอปีศาจอยู่ที่ชุดโต๊ะวิเศษนั้น โดยเอามือข้างหนึ่งกุมถุงตะปูไว้ด้วย
เมื่อปีศาจตนนั้นมาถึง ช่างตีเหล็กก็เชื้อเชิญให้ปีศาจนั่งลงที่ชุดโต๊ะวิเศษ และสนทนากับปีศาจว่า เขามีบางสิ่งที่วิเศษจะเสนอแลกกับวิญญาณของเขา
แต่ปีศาจร้ายปฏิเสธทันที มันบอกว่าสิ่งของทั้งสิ้นในโลกไม่ได้เป็นที่ปราถนาของมันเลย ที่มันต้องการมีเพียงวิญญาณของมนุษย์เท่านั้น
ช่างตีเหล็กเลื่อนถุงตะปูไปไว้ตรงหน้าปีศาจ เขาบอกให้ปีศาจลองล้วงของในถุงดูก่อน ถ้าปีศาจไม่พอใจในของสิ่งนั้น เขาจะไม่ต่อรองใดๆอีกเลย เมื่อปีศาจหลงกลและล้วงของในถุงดู มันก็ไม่สามาถถอนมือออกจาถุงได้ หรือแม้กระทั่งจะลุกจากเก้าอี้ได้เลย
ช่างตีเหล็กจึงบอกให้ปีศาจเอาสัญญาแลกวิญญาณออกมาให้เขา เพื่อแลกกับอิสระจากถุงตะปูและเก้าอี้ ปีศาจรีบทำตามทันที เมื่อช่างตีเหล็กได้สัญญา เขาก็รีบโยนมันเข้าเตาเผา เผาทำลายมันจนมอดไหม้ แล้วจึงเอ่ยปากอนุญาตให้ปีศาจเป็นอิสระ
ฝ่ายเจ้าปีศาจซึ่งตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาก ก็รีบผละออกจากเก้าอี้และตรงดิ่งไปทางหน้าต่าง หมายจะรีบกระโดดออกไป แต่แล้วร่างของมันกับติดอยู่ที่ยอดต้นแอปเปิ้ลที่ได้รับพรจากท่านนักบุญอีกครั้ง….
คราวนี้ปีศาจตกใจกลัวช่างตีเหล็กมาก มันอ้อนวอนให้ช่างตีเหล็กปล่อยมันไป ช่างตีเหล็กจึงได้ที ขู่กำชับเจ้าปีศาจว่า ตั้งแต่นี้ไปอย่ามาให้เห็นหรือยุ่งเกี่ยวกับชีวิตของเขาอีก แล้วจึงอนุญาตให้เจ้าปีศาจไปได้
หลังจากคืนนั้นแล้ว เจ้าปีศาจก็ไม่เคยปรากฏตัวให้ช่างตีเหล็กเห็นอีกเลย และเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับช่างตีเหล็กนี้ ก็เป็นบทเรียนครั้งใหญ่ให้ช่างตีเหล็กไม่ประมาทในชีวิตและตั้งหน้าตั้งตามุมานะทำงานอย่างสุจริตตลอดไปจนแก่เฒ่า
ใส่ความเห็น