วันนี้เอานิทานดี ๆ มาให้อ่านกันอีกเรื่องหนึ่งนะครับ เผื่อจะเป็นกำลังใจในการดำเนินชีวิตในแต่ละวันได้ วันนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับมิตรแท้ และผลประโยชน์ ลองอ่านกันดูนะครับ
ลูกเสือถามแม่ว่า : “แม่จ๋า…ทำไม? แม่ไม่ค่อยมีเพื่อน พอเราโตขึ้น คนที่รักเราจะน้อยลงเหรอจ๊ะ…”
แม่เสือเลยตอบว่า : “ไม่หรอกจ้ะ”
“เมื่อเราโตขึ้นเราจะเหลือคนที่รักเราจริงๆ ไม่มากแต่เราควรเลือกเพื่อนที่คุณภาพไม่ใช่ที่จำนวน เวลาจะคัดสรรคนที่เหมาะสมมาให้เราเอง ถ้าเป็นมิตรก็จะเป็นมิตรที่ดีและรักเรา ถ้าเป็นศัตรูก็จะเป็นศัตรูที่สร้างแรงผลักดันให้เราสู้เพื่อเอาชนะคำดูถูกของเขาและก้าวต่อไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง”
ลูกเสือถามต่อว่า : “แล้วถ้าวันหนึ่ง หนูโตพอที่จะเลือกทางเดินเองได้ แม่จะไม่ทิ้งหนูไปไหนใช่ไหม”
แม่เสือตอบว่า : “เมื่อวันหนึ่งหนูเลือกทางเดินได้เอง แม่ก็ยังจะคอยอยู่ข้างๆ หนูเหมือนเดิม แต่เมื่อหนูโตขึ้นแล้วหนูมีใครสักคนมาเดินข้างๆ แม่ก็จะถอยออกมาคอยเดินตามอยู่ข้างหลังและเฝ้ามองหนู จนกว่าแม่จะเดินตามไม่ไหว และเมื่อถึงวันหนึ่งที่แม่จากไป แม่ก็จะคอยเป็นกำลังใจให้หนูเสมอและตลอดไปนะลูก”
“ชีวิตคือการก้าวเดินไปข้างหน้า แต่หนูจงจำไว้ว่า… การก้าวไปจะมีคุณค่าก็ต่อเมื่อเราไม่ลืมคนข้างๆ และคนข้างหลัง เพราะนั่นคือพลังที่คอยผลักดันหนูให้ก้าวไปอย่างมั่นคงและถูกต้อง”
“ยิ่งโต… หนูยิ่งต้องเดินตามลำพังมากขึ้น ยิ่งสูง… หนูยิ่งรู้ว่าคนที่เดินร่วมทางมากับเราค่อยๆ หายไปทีละคน ท้ายสุด เราจะพบว่า… เพื่อนที่ดีที่สุดในชีวิตเราก็คือ… “ตัวเราเอง”
จงแยกให้ออกระหว่าง “มิตรภาพ กับ ผลประโยชน์”
ต่อให้เป็นคนโปรดพอหมด “ผลประโยชน์ เขาก็ไม่เอา”
“สิ่งที่หายากที่สุด ก็คือความจริงใจนี่แหละลูก น้ำทะเลอาจทำให้รอยเท้าเราจางหายไป แต่น้ำทะเลไม่อาจทำให้เราลืมว่าเรามาจากไหนและมากับใครได้หรอกนะ”
แม่เสือตอบและยิ้มให้ลูกเสือ
ลูกเสือ ไม่ตอบอะไร ได้แต่เดินช้าลง
แม่เสือสงสัยจึงถามว่า “ทำไมเดินช้าจัง”
ลูกเสือส่งยิ้มหวานก่อนตอบไปว่า…“ก็หนูอยากมีเวลาเดินกับแม่นานๆ ไงจ๊ะ
ใส่ความเห็น