วันนี้เอานิทานเกี่ยวกับความวิตกกังวล คิดไปล่วงหน้า คิดไปเอง ฯลฯ ซึ่งคนเรามักจะเป็นแบบนี้ จริง ๆ แล้วความวิตกกังวล ถ้ามีกำลังดี มันช่วยป้องกันภัยให้เราได้ แต่ถ้ามีมากเกินไป มันจะกลายเป็นโรควิตกกังวลไป
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีชายคนหนึ่งชื่อว่า “ฮายาชิ” เขาเป็นคนที่มีนิสัยวิตกกังวลอยู่เสมอ เขามักคิดล่วงหน้าไปไกล และกลัวสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น เช่น วันนี้ฟ้าสดใส เขาก็กลัวว่าพรุ่งนี้ฝนอาจจะตก หรือถ้าเห็นเพื่อนยิ้ม เขาก็คิดว่า “เขายิ้มเพราะกำลังจะปิดบังอะไรบางอย่างหรือเปล่า?”
วันหนึ่ง ขณะฮายาชิกำลังเดินทางผ่านหมู่บ้านแห่งหนึ่ง เขาเห็นพระเซ็นชื่อว่า “ท่านฮังโซ” นั่งจิบชาสงบอยู่ใต้ต้นไม้ เขารู้สึกแปลกใจที่เห็นพระดูผ่อนคลายทั้งที่เมฆฝนกำลังเคลื่อนเข้ามา
ฮายาชิรีบเข้าไปหาและพูดด้วยความวิตกว่า
“ท่านอาจารย์ ฟ้าครึ้มขนาดนี้แล้ว ท่านไม่น่ารีบหาที่หลบฝนหรือ?”
ท่านฮังโซยิ้มบาง ๆ แล้วตอบว่า
“ข้ารู้ว่าฝนอาจจะตก แต่ข้ากำลังจิบชาอยู่ในตอนที่ฟ้ายังไม่ตกฝน”
ฮายาชิกระสับกระส่าย พลางพูดว่า
“แต่ถ้าฝนตกขึ้นมากะทันหัน ท่านจะเปียกนะ!”
ท่านฮังโซหัวเราะเบา ๆ
“เจ้ารู้ไหม ความวิตกของเจ้าทำให้เจ้าต้องเปียกสองครั้ง — หนึ่งครั้งในใจ และอีกครั้งเมื่อฝนตกจริง”
ฮายาชินิ่งไป ท่านฮังโซกล่าวต่อว่า
“ฝนจะตกหรือไม่ตก ไม่ใช่สิ่งที่เราควบคุมได้ แต่สิ่งที่เราควบคุมได้ คือการอยู่กับถ้วยชาตรงหน้า ถ้าเจ้ากังวลอยู่ตลอด เจ้าจะไม่มีวันดื่มชาจนหมดถ้วยเลย”
ฮายาชิมองถ้วยชาของท่านฮังโซ และค่อย ๆ นั่งลงข้าง ๆ อย่างเงียบ ๆ
และเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี เขาได้ดื่มชา…โดยไม่คิดถึงอะไรเลย
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า:
ความวิตกกังวลถึงอนาคตที่ยังไม่มาถึง เป็นการลงโทษตัวเองซ้ำโดยไม่จำเป็น
เราควรใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบัน เพราะนี่คือสิ่งเดียวที่เรามีจริง ๆ
อนาคตจะเป็นอย่างไร เราจัดการเมื่อมันมาถึงได้ แต่ปัจจุบัน ถ้าเราปล่อยให้มันผ่านไป เราจะไม่มีวันเรียกมันกลับมาได้อีกเลย
ใส่ความเห็น