ทุกคนเคยขี้เกียจแน่นอน มีบ้างเป็นครั้งคราว ก็คงเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าขี้เกียจจนเป็นนิสัยคงจะไม่ดีสักเท่าไหร่ ลองอ่านนิทานเรื่องนี้ดูนะครับ เผื่อจะได้ไอเดียดี ๆ ในการปรับปรุงชีวิตของเราให้ดีขึ้นได้บ้าง
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง มีชายคนหนึ่งชื่อ “ทาโร่” เขาเป็นคนขี้เกียจมาก ไม่ชอบทำงาน และมักหาข้ออ้างเพื่อหลีกเลี่ยงความลำบาก วัน ๆ เขาเอาแต่นอนอยู่ที่บ้าน และเฝ้าฝันถึงความร่ำรวยโดยไม่ต้องลงมือทำอะไร
วันหนึ่ง ทาโร่ได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับ ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ ที่อยู่บนภูเขาสูง เชื่อกันว่าหากใครได้ไปแตะต้องต้นไม้นี้ ต้นไม้จะให้พลังวิเศษแก่เขา ทำให้เขาร่ำรวยโดยไม่ต้องทำงาน
“นี่แหละโอกาสของข้า!” ทาโร่คิด เขาตัดสินใจเดินทางไปยังภูเขา แม้ว่าจะต้องใช้ความพยายามอยู่บ้าง แต่เมื่อคิดว่าหากไปถึงแล้วจะไม่ต้องทำงานไปตลอดชีวิต เขาก็รู้สึกตื่นเต้น
หลังจากเดินทางอย่างยากลำบาก ทาโร่ก็มาถึงต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ เขารีบยื่นมือไปแตะต้นไม้และกล่าวว่า “ขอให้ข้าร่ำรวยโดยไม่ต้องทำอะไรเลย!”
ทันใดนั้น ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ก็ตอบกลับมาว่า
“ข้าจะให้พรแก่เจ้า แต่เจ้าต้องทำเพียงสิ่งเดียว จงเดินลงจากภูเขานี้และกลับบ้านของเจ้าเอง”
ทาโร่ดีใจมาก เขาคิดว่าต้นไม้อาจซ่อนสมบัติบางอย่างไว้ที่บ้านของเขา เขาจึงเริ่มเดินลงจากภูเขา แต่เมื่อเดินไปได้ครึ่งทาง ความขี้เกียจของเขาก็เริ่มครอบงำ
“ข้ารู้สึกเหนื่อยเหลือเกิน ข้าจะหยุดพักก่อน แล้วค่อยเดินต่อละกัน” เขานั่งลงใต้ร่มไม้และหลับไป
เมื่อเขาตื่นขึ้นมา เขากลับคิดว่า “บางทีข้าควรรอให้มีคนผ่านมา แล้วให้เขาอุ้มข้ากลับบ้านแทน ข้าจะได้ไม่ต้องเดินเอง”
วันแล้ววันเล่า ทาโร่ยังคงรอคอยให้มีคนมาช่วยพาเขากลับบ้าน แต่ไม่มีใครผ่านมาเลย ในที่สุด เขาก็ติดอยู่บนภูเขานั้นตลอดไป โดยไม่เคยได้รับสมบัติที่ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์มอบให้
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า:
ความขี้เกียจเป็นอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดของชีวิต แม้ว่าโอกาสที่ดีจะเข้ามาในชีวิต แต่ถ้าเราไม่ลงมือทำ แม้เพียงก้าวเล็ก ๆ เราก็ไม่มีวันไปถึงเป้าหมาย ไม่มีความสำเร็จใดได้มาโดยปราศจากความพยายาม และ แม้แต่พรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ก็ไม่มีค่าหากเราไม่ลงมือทำอะไรด้วยตนเอง
ใส่ความเห็น