นิทานวันนี้ยังคงอยู่กับการที่เราคิดว่า ความผิดพลาดแค่นิดเดียวเอง หรือ แค่เล็กน้อยเองไม่เห็นเป็นอะไร มาให้อ่านกัน เพื่อให้เราตระหนักว่า สิ่งเล็กน้อยเหล่านี้ ถ้าสะสมไปเรื่อยๆ มันก็จะกลายเป็นความผิดพลาดที่ใหญ่โตได้เช่นกัน
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีชายหนุ่มคนหนึ่งชื่อว่า “เคนอิจิ” เขาเป็นคนที่มักทำผิดพลาดเล็ก ๆ น้อย ๆ อยู่เสมอ แต่ทุกครั้งที่มีคนเตือน เขามักจะตอบว่า “แค่นิดเดียวเอง คงไม่เป็นไรหรอก”
วันหนึ่ง เคนอิจิตัดสินใจเดินทางไปยังเกาะแห่งหนึ่งโดยใช้เรือลำเล็ก ๆ ขณะที่เขากำลังเตรียมเรือ เขาสังเกตเห็นว่ามีรูรั่วขนาดเล็กที่พื้นเรือ ชายชราคนหนึ่งที่อยู่ใกล้ ๆ เห็นเข้าก็เตือนว่า “เจ้าควรซ่อมรูรั่วนี้ก่อนออกเดินทาง ไม่เช่นนั้นอาจเกิดอันตรายได้”
แต่เคนอิจิหัวเราะและตอบว่า “แค่นิดเดียวเอง คงไม่เป็นไรหรอก น้ำไหลเข้าแค่นี้คงไม่ทำให้เรือล่มได้หรอก”
จากนั้นเขาก็ออกเดินทาง โดยไม่ใส่ใจที่จะซ่อมรูรั่วนั้น
ขณะที่เขาพายเรือไปกลางทะเล ทุกอย่างดูเหมือนจะเป็นปกติ แต่เมื่อเวลาผ่านไป น้ำเริ่มซึมเข้ามาในเรือช้า ๆ เขายังคงคิดว่า “ไม่เป็นไร แค่นี้เอง”
แต่เมื่อเวลาผ่านไป น้ำที่ไหลเข้ามาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนเขาเริ่มตระหนักว่าเรือกำลังจะจม เขาตกใจและพยายามตักน้ำออกจากเรือ แต่ก็สายเกินไปแล้ว เรือของเขาค่อย ๆ จมลงใต้ทะเล ทิ้งให้เขาต้องว่ายน้ำกลับฝั่งด้วยความลำบาก
เมื่อเขากลับมาถึงฝั่งได้อย่างหมดแรง ชายชราคนเดิมที่เคยเตือนเขากล่าวว่า “เจ้าคิดว่ารูรั่วเล็ก ๆ นั้นไม่สำคัญ แต่สุดท้ายมันก็ทำให้เรือเจ้าจม หากเจ้าใส่ใจตั้งแต่แรก เจ้าคงไม่ต้องเจอเรื่องเช่นนี้”
เคนอิจินั่งนิ่งและครุ่นคิด เขาตระหนักว่า ความผิดพลาดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่มองข้ามไป อาจกลายเป็นปัญหาใหญ่ที่ควบคุมไม่ได้ในที่สุด ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เขาเรียนรู้ที่จะไม่ประมาทกับสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ อีกต่อไป
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า:
ความผิดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เรามองข้าม อาจกลายเป็นปัญหาใหญ่ได้หากไม่แก้ไขตั้งแต่ต้น การพูดว่า “แค่นิดเดียวเอง” อาจทำให้เราละเลยความสำคัญของสิ่งเล็ก ๆ และนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ใหญ่เกินกว่าจะควบคุมได้ อย่าประมาทแม้แต่ความผิดพลาดที่ดูเล็กน้อย เพราะบางครั้งสิ่งเล็ก ๆ นี่แหละที่สามารถทำให้ทุกอย่างพังทลายลงได้
ใส่ความเห็น