ทุกวันศุกร์ ก็นำเอานิทานสอนใจดี ๆ มาให้อ่านกันอีกเช่นเคยนะครับ วันนี้เกี่ยวกับความขยัน และความขี้เกียจ ซึ่งเป็นเรื่องปกติในตัวเราทุกคน ลองอ่านดูกันนะครับ
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในวัดเซ็นเล็ก ๆ บนภูเขาสูง มีพระสองรูปอาศัยอยู่ด้วยกัน รูปแรกชื่อว่า “ท่านเรียว” เป็นพระที่ขยันขันแข็ง ทำงานหนักทุกวัน ตั้งแต่กวาดลานวัด หุงหาอาหาร ไปจนถึงการศึกษาคัมภีร์ อีกองค์หนึ่งชื่อว่า “ท่านเก็น” เป็นพระที่ดูเหมือนจะขี้เกียจ เขามักใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการนั่งมองท้องฟ้าหรือจิบชาใต้ต้นไม้ โดยแทบไม่ทำงานใด ๆ
วันหนึ่ง ท่านเรียวไม่พอใจและกล่าวกับท่านเก็นว่า “ท่านขี้เกียจมาก ท่านปล่อยให้ข้าทำงานทุกอย่างในวัด ในขณะที่ท่านไม่ช่วยอะไรเลย ท่านไม่รู้หรือว่าการขยันทำงานคือการปฏิบัติธรรม?”
ท่านเก็นยิ้มและตอบอย่างสงบว่า “ข้ากำลังปฏิบัติธรรมในแบบของข้า ท่านอาจมองว่าเป็นความขี้เกียจ แต่ข้ากำลังเรียนรู้ที่จะอยู่กับปัจจุบันอย่างสมบูรณ์ ลองถามตัวเองสิ ว่าความขยันของท่านนั้นนำท่านไปสู่ความสงบหรือไม่?”
ท่านเรียวรู้สึกโกรธ แต่ก็ครุ่นคิดตามคำพูดนั้น “ข้ากำลังทำงานเพื่อประโยชน์ของทุกคน ข้าทำทุกอย่างด้วยความตั้งใจ นี่ไม่ใช่สิ่งที่ควรทำหรือ?”
ท่านเก็นตอบว่า “การขยันเป็นสิ่งที่ดี แต่หากหัวใจของท่านเต็มไปด้วยความไม่พอใจ ความโกรธ หรือความรู้สึกว่า ‘ท่านดีกว่าผู้อื่น’ นั่นไม่ใช่ธรรม ท่านทำงานด้วยจิตที่หนักหน่วง ในขณะที่ข้ากำลังเรียนรู้ที่จะทำให้น้ำหนักนั้นเบาลง”
ท่านเรียวเริ่มเข้าใจ เขาตระหนักได้ว่า แม้ความขยันจะเป็นสิ่งสำคัญ แต่หากทำไปด้วยจิตที่เปรียบเทียบหรือกดดันตัวเอง ก็อาจกลายเป็นบ่อเกิดของความทุกข์ เช่นเดียวกัน ความขี้เกียจที่ดูเหมือนไร้ประโยชน์ก็อาจซ่อนปัญญาอยู่ หากใช้มันเพื่อการใคร่ครวญและเข้าใจตัวเอง
ตั้งแต่นั้นมา ท่านเรียวและท่านเก็นต่างเรียนรู้จากกันและกัน ท่านเรียวเริ่มผ่อนคลายและเปิดใจให้กับการพักผ่อน ส่วนท่านเก็นก็เริ่มช่วยงานเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อแบ่งเบาภาระของเพื่อน ด้วยความสมดุลนี้ ทั้งสองได้พบกับความสงบในแบบที่ไม่เคยพบมาก่อน
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ความขยันและความขี้เกียจต่างมีบทบาทในชีวิต ทั้งสองสิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องผิดหรือถูกโดยสมบูรณ์ หากเราสามารถปรับสมดุลระหว่างการทำงานและการพักผ่อน พร้อมทั้งทำทุกสิ่งด้วยจิตใจที่สงบและไม่เปรียบเทียบ เราก็จะพบความสุขที่แท้จริงในชีวิต
ใส่ความเห็น