พนักงานของเราทำงานด้วยความเหงา และโดดเดี่ยวหรือเปล่า

ความเหงา หรือ ความรู้สึกโดดเดี่ยวในที่ทำงาน เป็นปัญหาที่ซ่อนตัวอยู่ในองค์กรและสะท้อนผ่านประสิทธิภาพการทำงาน การลาออกของพนักงาน และความสุขในชีวิต บทความนี้จะชวนผู้อ่านมองให้ลึกถึงต้นเหตุของความเหงา พร้อมเสนอวิธีแก้ไขที่เหมาะสมกับบริบทของแต่ละองค์กร โดยอิงหลักคิดที่มีความยืดหยุ่นและเป็นรูปธรรม

ความเหงาในที่ทำงาน ความจริงที่ไม่อาจมองข้าม

จากรายงาน State of the Global Workplace 2024 ของ Gallup พบว่า พนักงานทั่วโลก 1 ใน 5 คน รู้สึกโดดเดี่ยวในที่ทำงาน ซึ่งความเหงานี้ไม่ได้เกิดจากการทำงานที่บ้านเพียงอย่างเดียว แต่เป็นผลสะท้อนจากปัจจัยเชิงโครงสร้างและวัฒนธรรมขององค์กร การจัดการความเหงาจึงต้องเริ่มจากการเข้าใจต้นเหตุอย่างแท้จริง

ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับความเหงาของพนักงาน ที่หลายคนเข้าใจผิด

ความเชื่อที่ 1: การกลับมาทำงานที่สำนักงานจะช่วยแก้ความเหงา

การพบปะกันที่สำนักงานอาจช่วยสร้างความสนิทสนม แต่การทำงานในสถานที่เดียวกันไม่ได้หมายความว่าพนักงานจะรู้สึกเชื่อมโยงเสมอไป

ความเชื่อที่ 2: การทำงานเป็นทีมจะลดความเหงาได้เสมอ

การมอบหมายงานเป็นทีมที่ขาดการพัฒนาความสัมพันธ์ภายใน อาจยิ่งทำให้พนักงานรู้สึกโดดเดี่ยวมากขึ้นหากทีมไม่ตอบโจทย์ความต้องการทางจิตใจ

ความเชื่อที่ 3: พนักงานที่เหงาคือคนที่ต้องการความสนใจมากเกินไป

ในความเป็นจริง ความเหงาไม่ได้เกิดจากการเรียกร้องความสัมพันธ์มากเกินไป แต่เกี่ยวข้องกับบริบทและวัฒนธรรมขององค์กรที่ไม่ส่งเสริมการเชื่อมโยงกัน

ความเชื่อที่ 4: ความเหงาเป็นปัญหาของแต่ละบุคคล

ความเหงาในที่ทำงานเกี่ยวข้องกับการออกแบบโครงสร้างองค์กรและวิธีบริหารจัดการ มากกว่าจะเป็นความผิดของตัวบุคคล

แล้วเราจะแก้ไขปัญหานี้อย่างไร

1. วัดระดับความเหงา การใช้เครื่องมือที่มีมาตรฐาน เช่น **Work Loneliness Scale** เพื่อสำรวจและประเมินความรู้สึกของพนักงาน ช่วยให้องค์กรเห็นภาพรวมและเข้าใจปัญหาในเชิงลึก

2. ปรับโครงสร้างงานให้ยืดหยุ่น เพื่อให้พนักงานมีโอกาสเชื่อมโยงและสร้างความสัมพันธ์ผ่านการทำงานประจำวัน

3. สร้างวัฒนธรรมแห่งความสัมพันธ์ ปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กรให้พนักงานรู้สึกว่าพวกเขาได้รับการสนับสนุนและมีความสำคัญ สร้างพื้นที่ปลอดภัยในการแสดงออกทางความคิดและความรู้สึก

4. กำหนดกิจกรรมง่าย ๆ เช่น การจัดมื้อกลางวันร่วมกัน หรือเปิดพื้นที่ให้สนทนาในเชิงส่วนตัวระหว่างการประชุม

5. กิจกรรมที่เข้าถึงง่าย เช่น การจัดเลี้ยงอาหารกลางวันฟรี หรือชั่วโมงสังสรรค์หลังเลิกงาน สร้างผลลัพธ์ที่ชัดเจนในความรู้สึกเชื่อมโยงของพนักงาน

6. รองรับการทำงานทุกรูปแบบ ทั้งพนักงานที่ทำงานในสำนักงาน ระยะไกล หรือไฮบริด ควรได้รับโอกาสในการมีส่วนร่วม โดยอาจใช้กิจกรรมเสมือนจริงหรือการประชุมแบบผสมผสานเพื่อให้ทุกคนรู้สึกมีตัวตน

7. กระตุ้นการเข้าร่วมอย่างตั้งใจ การเชิญชวนแบบเป็นส่วนตัว พร้อมแสดงความจริงใจและสร้างความเชื่อมั่น จะช่วยดึงพนักงานที่ลังเลให้เปิดใจเข้าร่วมกิจกรรม

การลดความเหงาในที่ทำงานต้องการความมุ่งมั่นและความใส่ใจในระยะยาว การสร้างวัฒนธรรมการเชื่อมโยงที่ครอบคลุม จะช่วยให้ทีมงานรู้สึกถึงการมีส่วนร่วมในองค์กร พร้อมสนับสนุนให้พวกเขาเติบโตไปพร้อม ๆ กันทั้งในด้านการงานและชีวิตส่วนตัว

สิ่งสำคัญที่สุดคือการทำให้องค์กรเป็นพื้นที่ที่ทุกคน “อยากอยู่” และ “อยากร่วมสร้าง” อนาคตร่วมกัน!