วันนี้เอานิทานอีกเรื่องสะท้อนความสับสนของชีวิตมาให้อ่านกัน หลายคนอาจจะยังสับสนกับชีวิตของตนเอง ลองอ่านนิทานเรื่องนี้ดู อาจจะได้แนวทางในการใช้ชีวิตที่ดีขึ้นก็เป็นได้
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีพระเซ็นผู้มีปัญญารูปหนึ่งนามว่า ท่านริวเซน อาศัยอยู่ในวัดเล็ก ๆ บนภูเขาสูง วันหนึ่ง ชายหนุ่มคนหนึ่งเดินทางมาพบท่านด้วยความสงสัยในชีวิต เขาพูดว่า “อาจารย์ ข้ารู้สึกสับสน ข้าต้องการความสำเร็จ แต่ข้ารู้สึกติดขัดในชีวิต ข้าไม่รู้ว่าทำไม”
ท่านริวเซนรับฟังด้วยความสงบ แล้วนำชายหนุ่มไปยังบ่อน้ำที่อยู่ในวัด ท่านขอให้ชายหนุ่มมองลงไปในน้ำ และถามว่า “เจ้ามองเห็นอะไร?”
ชายหนุ่มตอบว่า “ข้าเห็นภาพสะท้อนของข้าเอง”
ท่านริวเซนยิ้มและกล่าวว่า “ลองเขย่าน้ำในบ่อนี้สิ”
ชายหนุ่มทำตาม และน้ำในบ่อก็เริ่มสั่นคลอน ภาพสะท้อนที่ชัดเจนกลับพร่ามัวไป ชายหนุ่มมองเห็นเพียงเงาของตนเองที่บิดเบี้ยวไปตามการเคลื่อนไหวของน้ำ
ท่านริวเซนถามอีกครั้ง “เจ้ามองเห็นอะไรในตอนนี้?”
ชายหนุ่มตอบด้วยความสับสน “ข้าไม่เห็นอะไรชัดเจน ภาพข้าพร่ามัวไปหมด”
ท่านริวเซนยิ้มอีกครั้งและกล่าวว่า “ชีวิตของเจ้าก็เหมือนน้ำในบ่อนี้ ถ้าเจ้ามัวแต่ดิ้นรน กระเสือกกระสน พยายามบังคับทุกสิ่งให้เป็นอย่างที่ต้องการ เจ้าจะมองไม่เห็นหนทางที่แท้จริง แต่ถ้าเจ้าปล่อยใจให้สงบ เหมือนกับน้ำที่นิ่ง ภาพที่ชัดเจนจะปรากฏขึ้นเอง”
ชายหนุ่มนั่งเงียบและเข้าใจทันที เขาตระหนักได้ว่าความสับสนของเขามาจากความพยายามที่จะควบคุมทุกสิ่งในชีวิต แต่ไม่เคยปล่อยใจให้สงบและเปิดรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า การดิ้นรนและต่อต้านสิ่งที่ไม่อาจควบคุมได้ อาจทำให้เรามองไม่เห็นทางออกหรือความจริงในชีวิต แต่หากเราสงบและเปิดใจรับสิ่งที่เกิดขึ้น เราจะเห็นหนทางที่แท้จริงและพบความสำเร็จได้โดยไม่ต้องฝืน
ใส่ความเห็น