ชีวิตของเราทุกคนต้องเจอกับ “อารมณ์” ของตนเองทุกวันแน่นอน บางวันอารมณ์ดี บางวันอารมณ์เสีย ถ้าเรารู้ถึงที่มาและสาเหตุแห่งการจุดไฟแห่งอารมณ์ของเรา เราจะได้ควบคุมอารมณ์ของเราได้ดีขึ้น
เชื่อว่าหลายคนคงเคยเจอสถานการณ์แบบนี้ จู่ ๆ ก็รู้สึกหงุดหงิดกับเพื่อนร่วมงานทั้ง ๆ ที่เขาไม่ได้ทำอะไรผิด หรือบางทีก็รู้สึกเครียดจนแทบระเบิดเวลาเจองานด่วน ที่แย่ไปกว่านั้นคือบางครั้งเรารู้สึกแบบนี้โดยไม่รู้สาเหตุด้วยซ้ำ แล้วเราจะจัดการกับมันยังไงดี
วันนี้ผมจะมาแชร์ 5 กุญแจสำคัญที่จะช่วยให้เราเข้าใจและจัดการกับอารมณ์ของตัวเองได้ดีขึ้น โดยอ้างอิงจากแนวคิดของ Robert Greene นักเขียนชื่อดังครับ มาดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง
1. รู้ทันผีร้ายจากอดีต
บางทีเราอาจจะโกรธใครสักคนมากเกินเหตุ ทั้ง ๆ ที่เขาแค่พูดอะไรธรรมดาๆ รู้ไหมครับว่านี่อาจเป็นเพราะคำพูดนั้นไปกระตุ้น “บาดแผลเก่า” ในใจเราโดยที่เราไม่รู้ตัว เลยทำให้เราปรี๊ดแตกได้โดยที่เราไม่รู้ตัวเอง
วิธีรับมือ ลองถามตัวเองว่า “เราโกรธเรื่องปัจจุบันจริง ๆ หรือเปล่า หรือมันเกี่ยวกับอะไรในอดีต” ถ้าเจอว่าเป็นเรื่องเก่า ก็หายใจลึก ๆ แล้วบอกตัวเองว่า “นั่นมันเรื่องเก่าแล้ว ตอนนี้เราโตขึ้นแล้ว”
2. ระวังม้ามืดแห่งโชคชะตา
ชีวิตเราขึ้น ๆ ลง ๆ เป็นเรื่องปกติ แต่บางครั้งเวลาได้เลื่อนตำแหน่งแบบไม่คาดฝัน เราอาจจะเหลิงจนทำอะไรพลาดได้ หรือ ถ้าโดนลดตำแหน่งกะทันหัน เราก็อาจจะท้อแท้จนทำงานไม่ได้
วิธีรับมือ ไม่ว่าจะขึ้นหรือลง ให้บอกตัวเองว่า “นี่เป็นแค่ช่วงหนึ่งของชีวิต มันไม่ได้กำหนดว่าเราเป็นใคร” แล้วมุ่งมั่นทำปัจจุบันให้ดีที่สุด
3. อย่าให้ความกดดันมาครอบงำ
งานเยอะ เจ้านายกดดัน ลูกค้าเรื่องมาก นี่แหละครับคือสูตรสำเร็จของความเครียด แต่ถ้าปล่อยให้มันครอบงำ เราอาจจะตัดสินใจผิดพลาดได้ง่าย ๆ
วิธีรับมือ ลองทำ “แผนฉุกเฉินคลายเครียด” ไว้ เช่น เดินออกไปสูดอากาศข้างนอก 5 นาที หรือคุยกับเพื่อนที่ไว้ใจได้สัก 2 นาที อะไรก็ได้ที่ช่วยให้เราได้หยุดและมองภาพรวมใหม่
4. เตือนตัวเองเวลาเจอ ‘คนกดปุ่มพลังลบ’
บางคนมีพลังพิเศษในการทำให้เราอารมณ์เสียได้ง่าย ๆ บางทีแค่เห็นหน้าก็รู้สึกหงุดหงิดแล้ว
วิธีรับมือ พอรู้ตัวว่ากำลังจะต้องเจอคนแบบนี้ ให้บอกตัวเองว่า “นี่แค่คนที่มาทดสอบความอดทนเรา” แล้วตั้งเป้าว่าวันนี้เราจะไม่ให้เขามากดปุ่มอารมณ์เราได้ ทำเป็นเกมสนุก ๆ ไป
5. ระวังพลังกลุ่มที่มองไม่เห็น
เวลาอยู่ในที่ประชุมใหญ่ หรืองานสัมมนา หรืองานคอนเสิร์ต เราอาจจะรู้สึกคล้อยตามคนอื่นง่ายกว่าปกติ บางทีถึงขั้นเห็นด้วยกับไอเดียที่ปกติเราคงค้านไปแล้ว
วิธีรับมือ ก่อนจะตัดสินใจอะไรในที่ประชุม ลองถามตัวเองว่า “ถ้าเราอยู่คนเดียว เราจะคิดแบบนี้ไหม?” ถ้าไม่แน่ใจ ขอเวลาคิดเพิ่มก็ได้นะครับ ไม่ต้องรีบ
สุดท้ายนี้ อยากฝากไว้ว่า การรู้เท่าทันอารมณ์ไม่ได้แปลว่าเราต้องเป็นคนเย็นชาไร้หัวใจนะครับ แต่มันหมายถึงการที่เรารู้จักและเข้าใจตัวเองมากขึ้น จัดการกับอารมณ์เชิงลบที่เกิดขึ้นได้อย่างดี
ลองเอาไปใช้ดูนะครับ รับรองว่าชีวิตการทำงานจะราบรื่นและมีความสุขมากขึ้นแน่นอน แล้วอย่าลืมมาแชร์ประสบการณ์กันด้วยนะครับว่าได้ผลไหม หรือมีเทคนิคเด็ด ๆ อะไรเพิ่มเติม ผมรอฟังอยู่ครับ!
ใส่ความเห็น