นิทานสอนใจ กระจกในห้องที่ว่างเปล่า

เคยคิดอะไรไม่ออกบ้างมั้ยครับ อาจจะเป็นเพราะจิตใจของเราขุ่นมัว ก็เลยทำให้เรามองอะไรไม่ชัดเจน คิดอะไรไม่ออก แต่ถ้าเราทำจิตใจของเราให้ว่างเปล่า เราอาจจะคิดออกก็เป็นได้ ลองอ่านนิทานเรื่องนี้ดูนะครับ

มีวัดเซนเล็ก ๆ แห่งหนึ่งซ่อนอยู่ในหุบเขาที่เงียบสงบ มีอาจารย์เซนผู้มีปัญญาเป็นที่นับถือ ลูกศิษย์จากทั่วทุกสารทิศเดินทางมาเพื่อเรียนรู้ปรัชญาและการฝึกฝนจิตใจ หนึ่งในลูกศิษย์เหล่านั้นคือชายหนุ่มที่มีความกระตือรือร้นและอยากรู้ เขามักจะตั้งคำถามมากมายเกี่ยวกับธรรมชาติของจิตใจและการรู้แจ้ง

วันหนึ่ง ลูกศิษย์หนุ่มรู้สึกสับสนเกี่ยวกับการฝึกสมาธิ เขารู้สึกว่าจิตใจของเขามีแต่ความคิดที่พลุ่งพล่าน ไม่มีที่ว่างให้ความสงบได้เข้ามา จึงตัดสินใจไปถามอาจารย์เพื่อขอคำชี้แนะ

เขาถามอาจารย์ว่า “อาจารย์ครับ ทำไมจิตใจของเราถึงถูกเปรียบเทียบกับกระจก? ผมไม่เข้าใจว่ากระจกกับจิตใจเกี่ยวข้องกันอย่างไร”

อาจารย์นิ่งเงียบอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะกล่าวว่า “จงตามข้ามาดูบางสิ่ง”

ลูกศิษย์ตามอาจารย์เข้าไปในห้องเล็ก ๆ ห้องหนึ่ง ซึ่งว่างเปล่าและมีเพียงกระจกบานหนึ่งวางอยู่บนโต๊ะกลางห้อง อาจารย์หยิบกระจกขึ้นมาแล้วพูดว่า “นี่คือกระจก ลองมองเข้าไปดูว่ามันเป็นอย่างไร”

ลูกศิษย์มองไปที่กระจกและเห็นภาพสะท้อนของตัวเองอย่างชัดเจนในนั้น “ผมเห็นตัวเองอย่างชัดเจนครับ” เขากล่าว

อาจารย์ยิ้มแล้วถามต่อ “ตอนนี้เธอเห็นตัวเองเพราะกระจกนั้นว่างเปล่า มันสะท้อนทุกสิ่งได้ชัดเจน ใช่หรือไม่?”

ลูกศิษย์พยักหน้า “ใช่ครับ กระจกว่างเปล่า ไม่มีสิ่งใดอยู่ข้างใน ทำให้ผมเห็นทุกอย่างได้อย่างชัดเจน”

จากนั้น อาจารย์หยิบดินสอมาเขียนขีดข่วนบนกระจก จนมันเปื้อนและมัวหมอง “ตอนนี้ลองมองอีกทีสิ เธอยังเห็นตัวเองอยู่หรือไม่?”

ลูกศิษย์มองไปที่กระจกอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เขาไม่สามารถเห็นภาพสะท้อนของตนเองได้ชัดเจนเพราะกระจกเต็มไปด้วยรอยขีดข่วนและสิ่งสกปรก

อาจารย์กล่าวว่า “เมื่อกระจกเต็มไปด้วยสิ่งสกปรก มันก็ไม่สามารถสะท้อนสิ่งที่อยู่ตรงหน้าได้อย่างชัดเจน จิตใจของเราก็เช่นเดียวกัน หากจิตของเราเต็มไปด้วยความกังวล ความคิด หรืออารมณ์ที่ฟุ้งซ่าน มันก็ไม่สามารถสะท้อนความจริงได้อย่างแท้จริง”

ลูกศิษย์นิ่งฟังและเริ่มเข้าใจ “หมายความว่าหากผมต้องการให้จิตใจของผมสงบและเห็นความจริง ผมต้องทำให้จิตของผมว่างเปล่าและไม่มีสิ่งใดมาบดบังใช่ไหมครับ?”

อาจารย์พยักหน้า “ใช่แล้ว จิตใจเหมือนกับกระจก หากมันว่างเปล่า มันสามารถสะท้อนทุกสิ่งได้อย่างชัดเจน แต่ถ้ามันเต็มไปด้วยความคิดและความกังวล มันก็จะบิดเบือนความจริง ทำให้เจ้าไม่สามารถรับรู้สิ่งที่แท้จริงได้”

ลูกศิษย์รู้สึกถึงความสงบที่เริ่มปรากฏขึ้นในจิตใจ เขาขอบคุณอาจารย์และตั้งใจที่จะฝึกฝนจิตใจของตนให้ว่างเปล่า เหมือนกับกระจกในห้องที่สามารถสะท้อนทุกสิ่งได้อย่างชัดเจนโดยไม่บิดเบือน

ข้อคิด

จิตใจของเรานั้นเหมือนกับกระจก หากเราทำให้มันสงบและว่างเปล่าโดยไม่มีความคิดหรือความกังวลเข้ามาขวางกั้น เราจะสามารถรับรู้ความจริงและสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นรอบตัวเราได้อย่างชัดเจน

ใส่ความเห็น

บลอกที่ WordPress.com .

ขึ้น ↑