ในบทที่ 9 ของ “The Concise Laws of Human Nature” โดย Robert Greene ผู้เขียนได้สำรวจแนวคิดของด้านมืดที่ถูกกดไว้ในจิตใจของมนุษย์ ซึ่งเป็นส่วนที่เรามักจะพยายามกดมันไว้ และหลีกเลี่ยงไม่ให้มันแสดงตัวตนออกมา ด้านมืดเหล่านี้ประกอบด้วย ความไม่มั่นคง ความต้องการที่เห็นแก่ตัว ความก้าวร้าว หรือ อาจจะเป็นความอ่อนแอ ความเปราะบาง ฯลฯ ซึ่งมักซ่อนอยู่ใต้ภาพลักษณ์ที่สุภาพและมีเหตุผล แต่ถ้าเราสามารถทำความเข้าใจ และเผชิญหน้ากับด้านมืดของตัวเองได้ เข้าใจถึงวิธีที่มันสามารถส่งผลต่อพฤติกรรมและการตัดสินใจได้ เราก็สามารถควบคุม และใช้ประโยชน์จากด้านมืดของตนเองได้เช่นกัน
ด้านมืด (Dark Side) เป็นแนวคิดที่มาจาก Carl Jung นักจิตวิทยาชื่อดัง ซึ่งหมายถึงด้านที่ถูกกดไว้ และเราพยายามจะปฏิเสธมัน ซึ่งมันเองก็ซ่อนอยู่ในจิตใจของเราตลอดเวลา รอเวลาระเบิดออกมา มันคือส่วนที่เราไม่ต้องการยอมรับว่าเป็นส่วนหนึ่งของเรา ไม่ว่าจะเป็นความโกรธ ความอิจฉา หรือความกลัว อย่างไรก็ตาม ด้านเหล่านี้ยังคงมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมและความรู้สึกของเรา ซึ่งอาจแสดงออกมาในรูปแบบที่ไม่คาดคิด
การยอมรับและเผชิญหน้ากับด้านมืดในตนเองเป็นขั้นตอนสำคัญในการพัฒนาตนเอง โดยเริ่มจากการตระหนักรู้ถึงความรู้สึกและพฤติกรรมที่เกิดขึ้นอย่างไม่ตั้งใจ จากนั้นทำความเข้าใจว่ามันมาจากส่วนใดในจิตใจ การเผชิญหน้ากับเงานี้ไม่ได้หมายถึงการยอมรับความไม่ดีในตนเอง แต่คือการนำพลังงานที่มืดมนเหล่านี้มาใช้ในทางที่สร้างสรรค์และเป็นประโยชน์กับชีวิตเรามากกว่า
ประโยชน์ของการผสมผสานด้านมืดเข้ากับตัวตน
การผสมผสานด้านมืดเข้ากับจิตสำนึกของเรา จะทำให้เราสามารถควบคุมพฤติกรรมและแรงผลักดันที่เกิดจากด้านมืดของเราได้ดีขึ้น ส่งผลให้เรามีความแท้จริงและสมบูรณ์มากขึ้น การมีตนเองที่สมบูรณ์นี้จะช่วยให้เราสามารถเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่ท้าทายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งและมีความหมายกับผู้อื่น
วิธีการเผชิญหน้ากับด้านมืดในตัวเรา
1. สติ และการตระหนักรู้ เริ่มต้นด้วยการสังเกตพฤติกรรมและความรู้สึกที่ไม่คาดคิดที่เกิดขึ้น
2. ทำความเข้าใจ ค้นหาว่าแรงผลักดันเหล่านี้มาจากส่วนใดในจิตใจและมันเกี่ยวข้องกับประสบการณ์ในอดีตอย่างไร
3. ยอมรับ ยอมรับว่าเงาเป็นส่วนหนึ่งของตัวตน และไม่พยายามที่จะปฏิเสธหรือผลักดันมันออกไป
4. ผสมผสาน นำพลังงานที่มาจากเงามาใช้ในทางสร้างสรรค์ เช่น การใช้ความโกรธในการต่อสู้เพื่อความยุติธรรม
5. พัฒนาตนเอง ใช้กระบวนการนี้เป็นโอกาสในการพัฒนาตนเองและทำให้ตนเองเป็นบุคคลที่สมบูรณ์มากขึ้น
การเผชิญหน้ากับด้านมืดในตนเองเป็นสิ่งที่ท้าทาย แต่ก็จำเป็นสำหรับการพัฒนาตนเอง มันเป็นสิ่งที่เราเก็บกดไว้ในจิตใจของเรา แต่ก็ยังมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมและการตัดสินใจของเราได้ การยอมรับและผสมผสานด้านมืดเข้ากับตัวตนจะช่วยให้เรามีความสมบูรณ์มากขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อความสัมพันธ์และการปฏิสัมพันธ์ทางสังคม การใช้พลังงานที่มาจากด้านมืดไปในทางสร้างสรรค์จะทำให้เราสามารถพัฒนาตนเองและเผชิญหน้ากับความท้าทายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ใส่ความเห็น