เชื่อหรือไม่ว่า เรื่องของทัศนคตินั้นเป็นเรื่องที่มีความสำคัญมากในการดำรงชีวิตของคนเรา เราจะมีความสุข หรือมีความทุกข์ เราจะรู้สึกดีหรือไม่ดี เราจะประสบความสำเร็จ หรือไม่สำเร็จ ก็อยู่ที่ทัศนคติของเราทั้งสิ้น มีงานวิจัยมากมายที่พิสูจน์ให้เราเห็นว่า คนที่มีทัศนคติที่ดีนั้น 85% เป็นคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต และเป็นคนที่มีความสุขกับชีวิตของตนเอง ซึ่งก็แปลง่ายๆ ว่า ถ้าเรามีทัศนคติที่ดี เราเองก็น่าจะประสบความสำเร็จในสิ่งที่เราต้องการ และน่าจะมีความสุขกับสิ่งที่เรามีได้
และงานวิจัยของ Harvard University ก็พบว่า คนที่สมัครงานแล้วบริษัทรับเข้าทำงานนั้น 85% รับที่ทัศนคติที่ดี ส่วนอีก 15% รับที่ความรู้และความสามารถ นี่ก็เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของทัศนคติที่ดีของคนเราว่าเป็นใบเบิกทางไปสู่สิ่งที่ดีๆ ของชีวิตมากมาย
มีนิทานอยู่เรื่องหนึ่งคือ David and Goliath ก็คือ David เป็นเด็กเลี้ยงแกะตัวเล็กๆ ซึ่งสุดท้ายก็สามารถที่จะล้มยักษ์ที่ชื่อ Goliath ได้ แค่เพียงมีมุมมอง และทัศนคติที่แตกต่างไปจากคนอื่น ยักษ์ตนนี้ตัวใหญ่มาก และเป็นยักษ์ที่มารังแกชาวบ้าน และทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน จนชาวบ้านเองก็กลัวยักษ์ตนนี้มาก ไม่มีใครที่คิดจะสู้ และล้มยักษ์ตนนี้เลย
วันหนึ่ง David ก็เดินทางเข้ามาถึงหมู่บ้านนี้ เพื่อมาเยี่ยมพี่ชาย พอมาถึงหมู่บ้านก็รู้ว่ามียักษ์ที่คอยรังควานชาวบ้านอยู่ ก็เลยถามพี่ชายตนเองว่า
“ทำไมไม่มีใครคิดจะทำอะไรยักษ์ตนนี้เลยล่ะ ปล่อยให้มันทำความเดือดร้อนแบบนี้ไปเรื่อยๆ ก็แย่สิ”
พี่ชายของ David ก็ตอบด้วยความกลัวว่า “เจ้าไม่เห็นหรือ ว่ามันตัวใหญ่มาก ใหญ่เกินกว่าที่จะยิงมันให้ล้มได้”
David ได้ยินดังนั้น ก็ตอบกลับไปว่า “ไม่ใช่ ๆ ๆ จริง ๆ มันใหญ่จนเราไม่มีทางที่จะยิงพลาดเลยด้วยซ้ำไป”
แล้วสุดท้าย David ก็สามารถที่จะล้มยักษ์ลงได้ด้วยหนังสติกขนาดใหญ่ ซึ่งยิงไม่พลาดเลย เพราะเป้าหมายใหญ่มาก
นี่คือทัศนคติที่แตกต่างกันของคนสองคน คนหนึ่งมองว่ามันยากที่จะทำสำเร็จ ก็เลยไม่คิดหาทางที่จะทำมัน แต่อีกคนหนึ่งคิดว่า นี่แหละเป็นสิ่งที่ง่ายมากที่จะสำเร็จ ก็เลยพยายามหาทางที่จะทำให้สำเร็จจนได้
ลองมาดูอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งเป็นเรื่องของทัศนคติและมุมมองของคน ที่ส่งผลต่อพฤติกรรมและการแสดงออกได้อย่างดี เรื่องนี้ผมไม่แน่ใจว่าใครเป็นผู้แต่ง แต่อ่านแล้วได้ใจมากๆ เลยครับ
หญิงโสดคนหนึ่งย้ายบ้านใหม่ พบว่าข้างบ้านเป็นครอบครัวยากจนประกอบด้วยแม่หม้ายและลูกอีกสอง ก็เลยมองคนข้างบ้านแบบว่าเป็นคนยากจนที่ไม่มีอะไรกิน และทรัพย์สินอะไรก็คงจะไม่ค่อยจะมีเท่าไหร่
อยู่มาคืนหนึ่ง ไฟฟ้าเกิดดับ หญิงคนนั้นจึงจุดเทียนไข สักพักมีคนมาเคาะประตู เป็นเด็กข้างบ้านนั่นเอง เด็กถามอย่างตื่นเต้นว่า “คุณน้า.. ในบ้านมีเทียนไหมครับ?”
หญิงโสดคิดในใจ “บ้านเขาจนถึงขนาดไม่มีเทียนไขรึ ..ช่างหัวมันเถิด เดี๋ยวได้คืบจะเอาศอก”
หญิงจึงตอบเด็กแบบมะนาวไม่มีน้ำว่า ..“ไม่มี!”
ขณะที่เตรียมจะปิดประตูส่งแขก เห็นเด็กคนนั้นยิ้มให้พร้อมกับพูดว่า “นึกแล้วว่าน้าต้องไม่มีเทียนไขแน่เลย”
พอพูดจบ เด็กควักเทียนไข 2 เล่มออกจากอกเสื้อและพูดอย่างใจดีว่า “คุณแม่ของผมเป็นห่วงคุณน้า เพราะคุณน้าอยู่คนเดียว กลัวว่าจะไม่มีเทียนไข ก็เลยให้ผมเอามาให้คุณน้า 2 เล่ม
ทันใดนั้นเอง… หญิงคนนั้นก็รู้นึกอึ้งไป และรู้สึกผิดกับความคิด และความรู้สึกของตนเองอย่างมาก
อ่านจบแล้วรู้สึกอย่างไรครับ นี่ก็คือ ผลของมุมมอง และทัศนคติของคนเรา ซึ่งมันมีผลอย่างมากต่อชีวิตของเรา เมื่อรู้แบบนี้แล้ว เราก็น่าจะปรับทัศนคติของเราให้ดีขึ้นอยู่เสมอ ชีวิตเราก็จะดีขึ้นเช่นกันครับ
ใส่ความเห็น