Physical Wellbeing ไม่ใช่แค่การเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลแค่นั้น

เมื่อคุยกันเรื่องของ Wellbeing หรือ การดูแลชีวิตและความเป็นอยู่ของพนักงานในองค์กร ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งนโยบายที่สำคัญของการบริหารทรัพยากรบุคคล ที่ต้องการจะดึงดูด และเก็บรักษาคนเก่ง ๆ ไว้ ก็ต้องมีการเพิ่มเติมในเรื่องของ wellbeing พนักงานเข้าไปด้วย

Wellbeing หนึ่งตัวที่มักจะถูกพูดถึงเสมอก็คือ Physical Wellbeing ซึ่งก็คือ การดูแลสุขภาพกายของพนักงาน ซึ่งหลายคนก็เข้าใจผิดว่านี่ก็คือสวัสดิการทางด้านการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาล ซึ่งไม่ใช่

Physical Wellbeing ก็คือ การส่งเสริมให้พนักงานมีสุขภาพที่ดี ไม่ต้องเจ็บป่วย เป็นการทำให้พนักงานไม่ป่วย ไม่ใช่ป่วยแล้วมาเบิกค่ารักษาได้ ดังนั้นองค์กรที่มีโปรแกรมในการบริหารจัดการ Physical Wellbeing ของพนักงานดี ๆ ก็มักจะมีอัตราการลาป่วยของพนักงานลดน้อยลง ค่ารักษาพยาบาลที่ต้องจ่าย ก็จะลดน้อยลงเช่นกัน พนักงานจะมีสุขภาพกายที่ดีขึ้นในระยะยาว

แล้วโปรแกรมในการส่งเสริม Physical Wellbeing นั้นมีอะไรบ้าง ผมก็ไปรวบรวมมาให้ดูกันครับ เผื่อเป็นไอเดียในการทำไปสร้างโปรแกรมของตนเองในบริษัท

อย่างโปรแกรมส่งเสริมสุขภาพกายให้กับพนักงานในองค์กร

  • การตรวจสุขภาพประจำปี
  • ศูนย์ออกกำลังกายหรือคลาสเวิร์คเอาท์ในสถานที่ทำงาน
  • โปรแกรมลดน้ำหนักและการควบคุมน้ำหนัก
  • คลินิกเลิกบุหรี่
  • สิทธิประโยชน์การรักษาพยาบาลและประกันสุขภาพที่ดี
  • บริการนวดผ่อนคลายในสถานที่ทำงาน
  • การสนับสนุนการมีกิจกรรมทางกายในชีวิตประจำวัน เช่น การเดินหรือปั่นจักรยาน
  • การจัดเตรียมอาหารที่มีประโยชน์และมีคุณค่าทางโภชนาการในร้านอาหารของบริษัท
  • การให้ความรู้เกี่ยวกับโภชนาการและสุขภาพ
  • การมีสถานที่พักผ่อนหย่อนใจในสำนักงาน
  • การให้คำปรึกษาเรื่องการเข้ากลุ่ม IF ของพนักงาน
  • ชมรมผู้รักสุขภาพ
  • การจัดกิจกรรมกีฬาและการแข่งขันกีฬาภายในองค์กร
  • การสนับสนุนให้พนักงานมาทำงานด้วยการเดินหรือปั่นจักรยาน
  • การมีบริการตรวจสุขภาพเฉพาะด้าน เช่น ตรวจมะเร็ง ตรวจสายตา
  • การฉีดวัคซีนป้องกันโรคในสถานที่ทำงาน
  • การฝึกอบรมเรื่องการปฐมพยาบาลเบื้องต้น
  • การจัดการอบรมด้านความปลอดภัยและการป้องกันอุบัติเหตุ
  • การมีคลินิกหรือห้องพยาบาลภายในบริษัท
  • การมีโปรแกรมและแอพพลิเคชันติดตามการออกกำลังกาย
  • โปรแกรมสำหรับพนักงานที่ตั้งครรภ์ หรือพนักงานที่ต้องการดูแลสุขภาพเฉพาะทาง
  • ฯลฯ

เราสามารถคิดต่อยอดออกไปอีกได้นะครับ เพื่อให้พนักงานมีสุขภาพกายที่ดี ไม่เจ็บป่วย องค์กรเราจะต้องทำอะไร ส่วนใหญ่เรามักจะศึกษาช่วงอายุพนักงานของเราก่อน และดูว่า พนักงานของเรามีแนวโน้มจะเจ็บป่วยทั้งในงาน และนอกงานในเรื่องอะไรบ้าง บางองค์กรพนักงานต้องเดินทำงาน ยืนทำงาน หรือนั่งทำงานนาน ๆ ก็จะสามารถออกแบบโปรแกรมด้านสุขภาพกายให้เหมาะสมกับการทำงานได้มากขึ้น

ใส่ความเห็น

บลอกที่ WordPress.com .

ขึ้น ↑