นิทานสอนใจวันนี้ เอาเรื่องราวดี ๆ มาฝากกันอีกเช่นเคย คนเรามักจะชอบจับผิดคนอื่น แต่ไม่ค่อยหันกลับมาดูการกระทำของตัวเองสักเท่าไหร่
แมลงวันอดโซตัวหนึ่งบินไปบินมาหาอาหาร แล้วโชคก็เข้าข้างมันๆ พบถ้วยน้ำผึ้งของหลวงตาที่วางทิ้งไว้ มันพึ่งเคยลิ้มชิมรสน้ำผึ้งเป็นครั้งแรก เกิดติดใจในรสอันหวานชื่นใจขึ้นมามันจึงดูดกินน้ำผึ้งจากปากชามเรื่อยๆ ลงไปทีละน้อยๆ
ปีกของมันลากถูไปบนน้ำผึ้งจนเปรอะเปื้อน แต่มันก็หาได้สนใจไม่ยังคงกินต่อไปอย่างเพลิดเพลิน
จนในที่สุดทั้งปีก ทั้งขา และตัวของมันก็เหนียวเหนอะหนะไปด้วยน้ำผึ้ง จนกระทั่งมันขยับตัวไม่ได้อีกต่อไป
ขณะนั้นมีแมลงเม่าตัวหนึ่งบินผ่านมาเห็นแมลงวันดิ้นขลุกอยู่ในชามน้ำผึ้ง มันหัวเราะชอบใจและร้องว่า
“ เจ้านี่ช่างโง่เสียจริงๆ นี้แหละผลที่เจ้าตะกละเกินไปจึงติดอยู่ในนั้น ”
แมลงวันได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกเสียใจแต่ไม่สามารถพูดอะไรได้
จนกระทั่งพลบค่ำ มันเห็นหลวงตาเดินมาจุดตะเกียงตั้งทิ้งไว้ที่มุมห้อง มองเห็นเจ้าแมลงเม่าตัวเดิมบินมาเล่นไฟพลางตะโกนเสียงโหวกเหวกเยาะเย้ยไม่ขาดปาก “ ดูฉันชะก่อนเจ้าแมลงวันหน้าโง่ ”
มันโฉบอย่างรวดเร็วไปที่ไฟ พอทิ้งตัวออกห่างจากเปลวไฟมันก็บินโฉบเข้ามาใกล้ๆ เจ้าแมลงวัน และร้องเยาะเย้ยอยู่อย่างนั้นทุกรอบอย่างน่ารำคาญ เจ้าแมลงเม่าบินวนรอบๆ ตะเกียงด้วยความเร็ว จนมองเห็นเป็นเส้นรุ้งเขียวเหลืองอยู่รอบแสงไฟดวงนั้น เจ้าแมลงวันก็เหลือบมองดูจนตาลาย
ยิ่งบินมันก็ยิ่งใกล้ไฟเข้าไปทุกรอบๆ จนในที่สุดปีกอันบางเฉียบของมันก็ปะทะเข้ากับเปลวไฟจนลุกไหม้ มันถลาตกลงมาใกล้ๆชามน้ำผึ้งที่แมลงวันติดอยู่นั่นเอง
คติสอนใจ :
“คนเรามักจับผิดผู้อื่นอย่างง่ายดาย ยิ่งกว่าหาทางป้องกันข้อผิดพลาดและอันตรายของตัวเราเอง”
ใส่ความเห็น