วันนี้ขอนำพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 มาให้อ่านกันอีกสักครั้ง เท่าที่สืบค้นมาได้ พระราชดำรัสบทนี้พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ได้ทรงดำรัสให้กับ อ.สุเมธ ตันติเวชกุล ซึ่งเป็นองคมนตรี ซึ่งมีข้อความดังต่อไปนี้
เศษเหล็ก “พระราชดำรัสของพระเจ้าอยู่หัว” (รัชกาลที่ 9)
ตอนนั้นผมกำลังทำงานอยู่ในสภาพจิตใจที่แย่มากมันไม่มีกำลังใจจะทำอะไร
ท้อแท้กับงานมากไม่มีใครเข้าใจ
“เหมือนทำดีแต่ไม่ได้ดี”
ในหลวงรัชกาลที่ 9 ท่านทรงเสด็จ มาพอดี และท่านได้เห็นสีหน้าผมไม่สู้จะดี
ท่านได้สอบถามจนได้ความว่าผมกำลังท้อแท้กับงานท่านจึงตั้งคำถาม และรับสั่งว่า…..
ท่านสุเมธเคยขายเศษเหล็กไหม เศษเหล็กเหล่านั้น เวลาขาย คุณค่ามันต่ำมากใช่ไหม คงได้เงินมาไม่กี่บาทใช่ไหม?
แล้วถ้าเราเอาเศษเหล็กเหล่านั้นมาหลอมรวมกันเป็นแท่งเวลาหลอมนี่
เหล็กมันคงรู้สึกร้อนมากใช่ไหม? พอหลอมเสร็จเรานำมาทำเป็นดาบ
คงต้องนำมาตีให้แบนอีกใช่ไหม? เวลาตีก็ต้องคอยเอาไปเผาไปด้วย
ต้องตีไป เผาไป อยู่หลายรอบนกว่าเป็นรูปเป็นร่าง ดาบอย่างที่เราต้องการ
ต้องผ่านความเจ็บปวดร้อนอยู่นานแถมเมื่อเสร็จแล้วถ้าจะให้สวยงามดังใจ
ก็ต้องนำไปแกะลวดลายอีกใช่ไหม?เวลาที่แกะลวดลายก็คงต้องใช้ของแข็งมีคมมาตีให้เป็นลวดลายอีก แต่เมื่อเสร็จเป็นดาบที่งดงามก็จะมีคุณค่าที่สูงมาก
เทียบกับเศษเหล็กคงจะต่างกันลิบลับ…จะเห็นว่ากว่าที่เศษเหล็กไม่มีคุณค่ามากนักจะกลายเป็นดาบอันงดงามนั้นต้องผ่านอุปสรรคมามากมาย ทั้งความเจ็บปวดต่างๆกว่าจะประสบความสำเร็จดังนั้นขอให้จำไว้อย่างหนึ่งว่า …
“ใครไม่เคยถูกตีถูกทุบ เจอเรื่องเลวร้ายในชีวิตมาเลยนั้น จงอย่าได้คิดทำการใหญ่”

ขอบคุณมากค่ะ