CEO นอกจากเป็น Chief Executive Officer แล้ว ยังต้องเป็น Chief Empathy Officer ด้วย

การพัฒนาผู้นำ ก็ยังคงเป็นประเด็นที่แทบจะทุกองค์กรให้ความสำคัญเป็นอย่างมากในยุคนี้ โดยทั่วไป คงไม่มีองค์กรไหนที่ต้องการผู้นำที่แย่ ๆ มานำองค์กร เราต่างต้องการผู้นำที่ดี มีความสามารถ มีศักยภาพ ที่จะนำพาพนักงานทุกคนในองค์กรไปสู่อนาคตที่ดีได้

ยังคงมีข้อถกเถียงกันอยู่เสมอว่า ผู้นำที่ดีนั้นต้องเก่งงาน หรือ เก่งคนกันแน่ และก็ยังเป็นข้อถกเถียงกันอยู่จนทุกวันนี้ หลายคนก็มองว่า ผู้นำที่ดีต้องเก่งงาน เพราะจะได้รู้ว่า จะต้องทำอะไรบ้าง ต้องนำพาองค์กรไปทางไหนดี

แต่ในมุมตรงข้าม หลายคนก็มองว่า ผู้นำที่ดีน่าจะต้องเก่งคน เพราะเราจะต้องนำพาคนทุกคนในองค์กรให้ไปในทิศทางเดียวกันให้ได้ เราต้องการพลังใจ ผนึกกำลังพนักงานทุกคนทุกระดับให้ไปด้วยกันให้ได้ ส่วนเรื่องของงานนั้น ถ้าเราสามารถหาคนเก่งเข้ามา และผู้นำสามารถได้ใจคนเก่ง ๆ เหล่านี้ได้ ก็จะนำคนเพื่อให้ได้ผลงานที่ดีต่อไปได้อย่างแน่นอน

ในมุมผมเอง จากประสบการณ์ที่ต้องทำงานในแวดวง HR มานาน ก็พอจะสรุปได้ว่า ผู้นำที่ดี จะต้องเก่งทั้งสองด้าน คือ เก่งทั้งงาน และเก่งทั้งคน ถ้าเป็นไปได้ แต่ในการบริหารจัดการในชีวิตจริง เราจะต้องบริหารโดยเก่งคนก่อน จากนั้น ก็ค่อยไปสู่การบริหารงานที่ดี เพราะถ้าเราไม่สามารถบริหารคนได้เลย คนคนนั้น (พนักงานของเรา) ก็จะไม่มีใจทำงานให้กับองค์กรอย่างแน่นอน นี่คือมุมมองของผม ซึ่งกูรูทางด้านภาวะผู้นำทั้งไทยและเทศ ต่างก็มองคล้าย ๆ กันว่า ต้องนำคนเพื่อให้ได้งาน แต่ก็ไม่รู้เรื่องงานและธุรกิจขององค์กรตนเองเลยก็ไม่ได้

เมื่อผู้นำจำเป็นต้องบริหารคนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และประสิทธิผล ทักษะในการบริหารคน จึงมีความจำเป็นอย่างมากในยุคนี้ ซึ่งเป็นยุคที่มีการแข่งขันสูงมากเพื่อให้ได้มาซึ่งคนเก่ง

ผู้นำที่ดีต้องนำด้วยความรู้สึกที่เรียกว่า Empathy ซึ่งก็คือ ต้องเข้าใจในความรู้สึกลึก ๆ ของพนักงาน หรือ กลุ่มพนักงานที่ตนดูแล ว่าเขารู้สึกอย่างไรในการทำงานบ้าง เมื่อเกิดความเข้าใจ ก็จะสามารถหาทางแก้ไขปัญหา และช่วยเหลือกันได้

มีความรู้สึกอยู่หลายแบบ ที่แสดงให้เห็นถึงความรู้สึกที่มีต่อเหตุการณ์ หรือ ความรู้สึกของพนักงาน เช่น

  • Pity เป็นแค่เพียงรู้สึกเท่านั้น เช่น รู้สึกเสียใจ รู้สึกดีใจ แต่ไม่ได้เข้าถึงความรู้สึกลึก ๆ นั้น จริง ๆ หลายคนบอกว่า เป็นแค่การแสดงคำพูดที่แสดงให้เห็นถึงความรู้สึกในแต่ละครั้งเท่านั้น
  • Sympathy เริ่มมีความรู้สึกร่วมไปด้วย ว่า เสียใจ หรือ ดีใจจริง ๆ นะ และแสดงออกซึ่งความรู้สึกนั้นออกมาให้อีกฝ่ายได้เห็นอย่างชัดเจน
  • Empathy เป็นความรู้สึกที่เข้าใจในความรู้สึกของอีกฝ่ายอย่างชัดเจนมาก ไม่ใช่แค่เพียงรู้สึก แต่ยังเข้าใจถึงที่มาที่ไป สาเหตุต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดความรู้สึกแบบนั้นอีกด้วย คำว่า Empathy จะลึกกว่า Sympathy มากหน่อย เรียกได้ว่า รู้สึกเหมือนกับว่า เป็นคนคนนั้นเองเลย

ผู้นำสมัยใหม่จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรู้สึกลึกถึงขั้น Empathy เพราะจะได้เข้าใจในความรู้สึก และที่มาที่ไป รวมทั้งรู้สึกถึงจุดยืนของอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจน ซึ่งเมื่อเกิดความเข้าใจแบบนี้แล้ว สิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาก็คือคำว่า

Compassion ซึ่งก็คือ ความรู้สึกว่า ตนเองพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ เพราะเข้าใจแล้ว เพราะรู้สึกแล้ว และเพราะรู้ว่าเหตุมาจากอะไรอย่างชัดเจน ความรู้สึกที่อยากจะช่วย พร้อมจะช่วย และยังรู้ด้วยว่า จะช่วยอย่างไร มันก็จะเกิดขึ้นทันที สำหรับผู้นำที่มีความรู้สึกที่เราเรียกว่า Empathy นั่นเอง

ใส่ความเห็น

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Twitter picture

You are commenting using your Twitter account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Connecting to %s

บลอกที่ WordPress.com .

Up ↑

%d bloggers like this: