เวลาที่คุยเรื่องของ Burnout พนักงาน กับผู้บริหารขององค์กร ผู้บริหารส่วนหนึ่งตอบว่า สาเหตุเกิดจากตัวพนักงานเองที่เครียดจนเกินไป และไม่สามารถที่จะบริหารจัดการเวลาในการทำงาน และเวลาส่วนตัวของตนเองได้ ก็เลยเกิดความเครียดจนนำไปสู่การ Burnout ได้ ท่านอ่านแล้วรู้สึกอย่างไ
ด้วยสาเหตุดังกล่าว ก็เลยทำให้องค์กรนั้นมีการให้ความรู้แก่พนักงานในการลดความเครียดในการทำงาน มีการอบรมเรื่องการจัดการกับความเครียดอย่างไร เพื่อหวังว่าอาการ Burnout ของพนักงานน่าจะหายไปได้ แต่ผลที่ออกมาก็คือ ไม่มีความแตกต่างอะไรจากเดิม พนักงานบางคนเครียดมากขึ้นด้วยซ้ำไป เพราะมีความรู้สึกถูกกดดันจากนายอีกทางหนึ่งว่า ให้พยายามลดความเครียดของตนเองลงให้ได้ ยิ่งกดดันตนเอง ก็ยิ่งเครียดเข้าไปใหญ่
จริงๆ แล้วสาเหตุของการ burnout มันมาจากสภาพแวดล้อมในการทำงานมากกว่า ที่จะมาจากตัวพนักงานเอง ดั่งที่ทาง Harvard Business Review ได้เคยทำวิจัย และสรุปไว้ในบทความชื่อ Burnout is about your workplace, not your people ในเรื่องของสาเหตุที่ทำให้พนักงาน Burnout ไว้ว่ามี 5 สาเหตุหลักด้วยกันคือ
- Unfair treatment at work คือ เกิดจากการได้รับการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นจากนโยบายการทำงานขององค์กรเอง จากตัวผู้นำที่ไม่เป็นธรรม หรือแม้จากเพื่อนร่วมงานของพนักงานที่มีความดราม่า และก่อให้เกิดความขัดแย้งในการทงานขึ้นมากมาย
- Unmanageable workload สาเหตุจากการที่ไม่สามารถบริหารจัดการปริมาณงานให้กับพนักงานได้ ซึ่งส่วนใหญ่ก็เกิดจากตัวผู้จัดการที่ขาดทักษะในการมอบหมายงานให้พนักงาน ขาดการวางแผนจัดการงานให้เหมาะสมและเท่าเทียมกันระหว่างพนักงานในทีม รวมทั้งเกิดจากนโยบายของผู้บริหารที่พยายามจะลดคนทำงาน โดยไม่มีการเพิ่มเติมเครืองมือหรือเทคโนโลยีในการทำงานเข้ามาช่วย
- Lack of role clarity สาเหตุจากความไม่ชัดเจนในเรื่องของบทบาทหน้าที่ในการทำงาน ซึ่งส่วนใหญ่ก็เกิดจากการไม่มีการกำหนดหน้าที่ของตำแหน่งงานให้ชัดเจน อยากสั่ง อยากมอบหมายให้ใครทำ ก็มอบหมายกันไป แม้ว่าบางงานอาจจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับตำแหน่งของพนักงานเลยก็มี ด้วยความไม่ชัดเจนตรงนี้ก็เลยทำให้พนักงานรู้สึกขาดความมั่นคง และไม่รู้ว่าตนเองจะต้องทำอะไรกันแน่ นานวันเข้า ก็เลยรู้สึกเครียดและ Burnout ได้
- Lack of communication and support from their manager สาเหตุจากการขาดการสนับสนุนที่ดีจากผู้จัดการของตนเอง ขาดการสื่อสารที่ดีอย่างต่อเนื่อง ผู้จัดการกับพนักงานไม่สื่อสารกัน หรือสื่อสารกันในทางที่ไม่ถูกต้อง อีกทั้ง ผู้จัดการก็ไม่มีมาตรการในการสนับสนุน ช่วยเหลือการทำงานของพนักงานแต่ละคนเวลาที่เกิดปัญหาในการทำงานขึ้น ปล่อยให้ทำงานกันไปเองตามยถากรรม เวลาพนักงานไปถามอะไรนาย ก็มักจะได้รับคำตอบกลับมาว่า “ก็เป็นหน้าที่ของคุณที่ต้องหาทางออกเอาเอง ไม่งั้นผมจะจ้างคุณมาทำไม”
- Unreasonable time pressure เกิดจากการได้รับความกดดันทางด้านเวลาในการทำงานอย่างไร้เหตุผล เรียกว่า ทุกงานเร่งด่วนหมด ไม่มีการจัดลำดับความสำคัญ เวลามีงานโครงการอะไรใหม่ๆ ขึ้นมา ก็เป็นงานด่วนทุกโครงการ ต้องเสร็จทันตามกำหนด ตามแผนงาน ตามเป้าหมายให้ได้ โดยที่ไม่มีการพิจารณาถึงความเร่งด่วนของงานแต่ละงาน
ดังนั้น ถ้าจะลดอัตราการ Burnout ของพนักงานให้ได้ผลจริง คงไม่ใช่แค่เพียงไปบอกหรือ อบรมพนักงานว่าอย่าไปเครียดกับงานมากนัก เราต้องกลับมาพิจารณาถึงสาเหตุที่แท้จริง ซึ่งก็น่าจะอยู่ในหนึ่งในห้าของสาเหตุข้างต้นจากนั้น ก็เริ่มต้นแก้ไขกันไปตามสาเหตุนั้น ๆ
การจะลดอัตราการ Burnout ของพนักงาน จะต้องช่วยกัน ร่วมมือกันในทุกระดับของพนักงาน ตั้งแต่ระดับสูงจะต้องมีการกำหนดนโยบายที่ชัดเจน ผู้จัดการทุกคนทุกระดับ ก็ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตนเองในการทำงาน การดูแลพนักงานใหม่เช่นกัน ตัวพนักงานเองก็ต้องปรับตัวเองด้วยเช่นกัน
แล้วการ Burnout ของพนักงานก็จะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
ใส่ความเห็น