ได้มีโอกาสคุยกับ CEO ขององค์กรขนาดกลางแห่งหนึ่ง เล่าให้ฟังเกี่ยวกับผู้จัดการฝ่ายบุคคลคนก่อนที่เพิ่งจะให้ออกไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากผลงานไม่ได้ตามที่คาดหวัง อีกทังยังไม่สามารถที่จะสร้างความน่าเชื่อถือให้กับทั้งผู้บริหาร และพนักงานในองค์กรได้เลย ด้วยความอยากรู้อยากเห็นของผมเอง ก็เลยสอบถามรายละเอียดกับ CEO ท่านนี้ว่าเกิดอะไรขึ้น
สิ่งที่ CEO เล่าให้ฟังก็คือ ผู้จัดการฝ่ายบุคคลคนที่เพิ่งออกไปนั้น เขาทำงานแบบ Copy and Paste ผมก็เลยสอบถามต่อไปอีกว่า ที่ว่า Copy and Paste นั้น หมายความว่าอย่างไร
คำตอบที่ได้ทำเอาผมอึ้งไปเหมือนกัน ท่านว่าไว้ดังนี้ครับ
- “คิดใหม่ไม่เป็น” ข้อแรกที่ได้รับฟังก็คือ คิดไม่เป็น เวลามอบหมายงานอะไรให้ไป ก็ไปหาทางเอาจาก internet จาก Google ว่าที่อื่นเขาทำกันอย่างไรบ้าง ถ้าใน Google หาไม่เจอ ก็เข้าไปในกลุ่ม HR ต่าง ๆ ตามโซเชียล ทั้ง Facebook Line ฯลฯ เพื่อที่จะเข้าไปขอข้อมูลจากคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของระเบียบข้อบังคับพนักงานที่ให้ทบทวนใหม่ แทนที่จะทบทวนเองแล้วก็ดูเปรียบเทียบตามกฎหมายแรงงาน แต่กลับไปขอจากเพื่อนที่ทำงาน HR แล้วก็เอามาลอกเลย ผมถามไปว่า แล้วท่านทราบได้อย่างไรว่าลอกมา CEO ตอบว่า “ก็เขาขาดความรอบคอบไงครับ ชื่อบริษัทอื่นยังหราอยู่ในเอกสารที่ส่งมาให้ผมพิจารณาอยู่เลย”
- “วางแผนไม่เป็น” อีกข้อที่ CEO เล่าให้ฟังอีกก็คือ เขาไม่สามารถวางแผนงาน HR ได้เลย ให้ไปวางแผนงานของปีถัดไปมา สิ่งที่เอามานำเสนอ ก็คือ แผนงาน HR ของบริษัทอื่นอีกเช่นกัน ถามว่าไปเอามาจากไหน ก็แหล่งเดิมอีกก็คือ จากโซเชียล และกลุ่ม HR ต่าง ๆ แบบพยายามขอมาทั้งดุ้นเลย บางรายแชร์มาเป็น pdf ก็ไม่ทำใหม่ด้วยนะ ทำการ copy จากหน้าจอ แล้วตัดกรอบเฉพาะที่จะนำเสนอมาให้ แต่สุดท้ายก็จับโป๊ะแตกได้อีก ตรงที่มันไม่ได้สอดคล้องกับบริบทของบริษัทเราเลย สอบถามไปว่า ทำไมถึงวางแผนออกมาแบบนี้ ก็ตอบไม่ได้ อ้ำอึ้งไปพักใหญ่ สุดท้ายก็คือ เป็นการส่งแผนงาน แบบ Copy and Paste อีกเช่นกัน
- “วิเคราะห์ และวางระบบใหม่ให้ไม่ได้เลย” อีกข้อก็คือ ตอนสัมภาษณ์บอกว่า สามารถที่จะวางระบบใหม่ ๆ ให้กับบริษัทได้ “พอให้ทำจริง กลับกลายเป็นการไป Copy ระบบจากที่อื่นมาอีกเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น ระดับงาน โครงสร้างเงินเดือน ซึ่งปกติมันก็ copy ไม่ได้อยู่แล้ว แต่นี่เอามาทั้งดุ้นอีกเช่นกัน หรือแม้แต่ระบบประเมินผลงานพนักงานใหม่ ก็ลอกเขามาอีก รวมทั้ง Competency ต่าง ๆ ขององค์กร แทนที่จะลงมือคิดและทำใหม่ ก็ไปเอามาจากคนอื่นอีก คือถ้าไปเอามา แล้วเอามาคิดต่อยอดสักหน่อย อะไรที่เกี่ยว อะไรที่ไม่เกี่ยวกับธุรกิจของบริษัท ก็คิดสักหน่อยก็ได้ แต่นี่ไม่คิด หรือคิดไม่ออกก็ไม่รู้ เอามาส่งและรายงานกับผู้บริหารทั้งดุ้นแบบนี้เลย คงคิดว่า ผู้บริหารไม่รู้กระมัง หนักหน่อย ก็คือ แผนการฝึกอบรมและพัฒนาพนักงาน ก็ไปเอาแผนอบรมของที่อื่นมานำเสนออีกเช่นกัน อ่านดูแล้วรู้เลยว่า มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับธุรกิจของบริษัทเลย”
CEO เองเขาก็ไม่ได้บอกว่าจะต้องทำเองทั้งหมด จะจ้างที่ปรึกษาเข้ามาก็ได้ เพราะเปิดทางและให้นโยบายไปแล้ว แต่กลับกลายเป็นว่า ระบบ HR ของบริษัทมาเป็นแบบ copy and paste หมดเลย
สิ่งที่ CEO ทำต่อก็คือ การเรียก HR Manager ท่านนี้มาพูดคุย สุดท้ายก็เลยทราบว่า ที่ได้เป็น HR Manager ในทุกวันนี้ได้ ก็เพราะการ Copy and Paste อยู่บริษัทเก่า ก็ทำแบบนี้มาโดยตลอด ไม่ได้คิด ไม่ได้ต่อยอดอะไรใหม่ อาศัยการขอแชร์จากคนอื่นมาเป็นหลัก แล้วก็เอามาปรับแต่งรูปร่างหน้าตาเล็กน้อย แต่ไม่ได้ลงลึกในเนื้อหาอะไรเลย ไม่ได้วิเคราะห์ว่ามันต้องปรับอะไรให้สอดคล้องกับบริษัทหรือไม่
ผมได้ฟังจบแล้วก็คิดในใจว่า หวังว่ากรณีนี้น่าจะเป็นกรณีสุดท้ายที่เกิดขึ้นกับงาน HR ของประเทศเรา และหวังว่า HR ของที่อื่น คงไม่ได้เติบโตมาจากการ Copy and Paste นะครับ
ใส่ความเห็น