ในชีวิตของเรานั้น บางอย่างก็เป็นไปได้ บางอย่างมันก็เป็นไปไม่ได้ เราเองก็ควรจะต้องทราบ และประเมินได้ว่า สิ่งที่เราต้องการนั้น มันอยู่บนพื้นฐานของความเป็นได้มากน้อยแค่ไหน ลองอ่านนิทานเรื่องนี้ดูนะครับ
กาลครั้งหนึ่ง นานมาแล้ว มีเจ้าหญิงเล็ก ๆ องค์หนึ่ง ทรงชอบหยดน้ำค้างมาก เพราะหยดน้ำค้างตอนเช้าตรู่นั้นมีประกายสดใสสวยงามเหมือนไข่มุกที่ทำด้วยเพชรที่มีชีวิตชีวาทีเดียว
“ฉันต้องการเอาหยดน้ำค้างมาทำมงกุฎ” เจ้าหญิงทรงกล่าว และพระราชบิดาก็อยากจะตามพระทัย จึงทรงกล่าวกับมหาดเล็กว่า
“ให้ไปหาคนทำมาให้ได้ ไม่ว่าจะราคาแพงเท่าไหร่ก็ยอม”
ช่างทองมือหนึ่งทั่วประเทศ ได้รับเชิญมาที่พระราชวังเพื่อนำหยดน้ำค้างมาทำมงกุฏให้เจ้าหญิง แต่ไม่มีใครสามารถทำได้เลย
“เราต้องรักษาน้ำใจของเจ้าหญิง และพระราชา อย่าให้พระองค์ต้องเสียพระทัยเพราะไม่ได้สิ่งที่ต้องการ”
หัวหน้าช่างทองผู้สูงอายุบอกกับมหาดเล็ก
“โปรดไปกราบทูลเจ้าหญิงว่า พวกเรายินดีทำมงกุฎจากหยดน้ำค้างให้ แต่เจ้าหญิงต้องเลือกหยิบหยดน้ำค้างเม็ดที่ทรงต้องการมาให้พวกเราด้วยพระหัตถ์ของพระองค์เอง”
เจ้าหญิงทรงเลือกหยดน้ำค้างที่สวยที่สุดที่ติดอยู่กับใบไม้ตอนเช้าตรู่แล้วใช้พระหัตถ์หยิบขึ้นมา แต่ทรงหยิบไม่ได้ เพราะเม็ดน้ำค้างละลายกลายเป็นน้ำเหลวเสียก่อนทุกครั้ง
และแล้ว เจ้าหญิงน้อยก็ทรงเรียนรู้ด้วยด้วยพระองค์เองว่า
“ไม่มีใครที่จะสามารถทำมงกุฎจากหยดน้ำค้างได้ตามที่ทรงต้องการ เหมือนกับความจริงที่ว่า คนเราไม่สามารถทำ หรือได้สิ่งที่ต้องการอยากได้ทุกครั้งเสมอไป”
credit: ลานธรรมจักร
ใส่ความเห็น