คำว่า Work From Home นั้น ในช่วงโควิด เป็นอีกคำหนึ่งที่ได้ยินบ่อยมาก เพราะด้วยนโยบายในการเว้นระยะห่างของคน ไม่ให้มีการรวมตัวกันของคน เพราะจะทำให้เกิดความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิดได้ ก็เลยต้องมีนโยบายนี้ออกมา ซึ่งโดยส่วนตัวแล้ว การทำงานจากที่บ้านนั้น ผมคิดว่าเป็นนโยบายที่ดี และถือว่าเป็นแนวโน้มของการทำงานสมัยใหม่ ซึ่งน่าจะนำเอามาใช้ในองค์กรอยู่แล้ว แต่ปัญหาก็คือ เราทำงานจากที่บ้านได้มากน้อยแค่ไหน
คำพูดจากพนักงานว่า “ตอนนี้ทำงานไม่ได้ เพราะ วันนี้ Work From Home” ท่านอ่านแล้วรู้สึกอย่างไรบ้าง
ในมุมมองและหลักการของการ Work From Home จะต้องทำงานได้เหมือนกับที่ทำงานจากที่บริษัทอย่าง 100% เพราะนี่คือวันทำงาน และต้องส่งมอบงานตามหน้าที่และความรับผิดชอบอยู่แล้วโดยปกติ ดังนั้นการจะมาอ้างว่า วันนี้ทำงานอยู่ที่บ้าน ก็เลยทำงานนี้ งานนั้น ให้ไม่ได้นั้น มันเป็นข้ออ้างที่ไม่สมควรเกิดขึ้นเลย ถ้าองค์กรอยากจะให้พนักงานทำงานจากที่บ้านจริงๆ
แต่ผมเชื่อว่า ก็ต้องมีหลายท่านที่มีข้อโต้แย้งว่า ก็ในช่วงนี้มีหลายองค์กรที่ไม่พร้อม แต่จำเป็นต้องให้พนักงานทำงานจากที่บ้านเนื่องจากภาวะโควิด 19 ที่เกิดขี้น ซึ่งก็เป็นความจริงอีกเช่นกัน แต่ประเด็นนี้เราสามารถที่จะปรับงานให้เหมาะสมกับการทำงานจากที่บ้านได้
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจริงในช่วงเวลาที่ผ่านมา กับการประสานงานของการทำงานกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน จะมีอยู่สองลักษณะก็คือ
- ประสานงานได้อย่างดี ไม่ค่อยมีปัญหาอะไร ก็คือสามารถที่จะทำงานกันได้ปกติ เหมือนกับว่ากำลังทำงานจากสถานที่ทำงานจริงๆ แม้ว่าตัวพนักงานจะทำงานจากที่บ้านตลอดเวลา ทั้งนี้ก็เนื่องจากระบบ IT ที่เชื่อมต่อระบบงานทั้งหมดเพื่อให้พนักงานสามารถที่จะทำงานจากที่บ้านได้
- มีปัญหาในการทำงานระหว่างกันตลอด ก็คือ มีปัญหาในการประสานงานกันตลอดเวลาที่ต้องทำงานจากที่บ้าน เช่นเวลาขอข้อมูลอะไร ก็มักจะได้รับแจ้งว่า ตอนนี้อยู่บ้าน หาให้ไม่ได้ หรือ ตอนนี้ติดต่อไม่ได้เพราะอยู่บ้าน ต้องเข้าออฟฟิศก่อน เพื่อใช้โทรศัพท์ของออฟฟิศโทรติดต่อให้ หรือ ข้อมูลยังประมวลผลให้ไม่ได้ เพราะอยู่บ้าน ต้องเข้าออฟฟิศก่อนถึงจะทำต่อให้ได้ ฯลฯ ซึ่งเกิดขึ้นจริงๆ ก็เลยเกิดคำถามขึ้นมาว่า แล้วที่ทำงานที่บ้านนั้น ทำอะไรกันแน่ ทำงานจริงๆ หรือเปล่า
ถ้าถามว่า หน่วยงานที่เขาสามารถให้บริการได้อย่างดี อาจจะติดขัดบ้างบางเรื่อง เขาทำได้อย่างไร ก็ต้องตอบว่า เขามีการเตรียมความพร้อมทางด้านระบบเทคโนโลยี การติดต่อสื่อสาร และอุปกรณ์ต่างๆ ในการทำงานไว้อย่างดี เพื่อให้พนักงานพร้อมที่จะทำงานได้จากที่บ้านจริงๆ
อีกสาเหตุหนี่งก็อยู่ที่จิตสำนึกของพนักงานคนนั้นว่า การทำงานจากที่บ้านก็คือต้องทำงานจริงๆ เหมือนกับที่ทำงานในออฟฟิศ ไม่ใช่ พอพูดว่าทำงานจากที่บ้าน ก็คือ การนั่งดูหนังจากที่บ้าน หรือการนั่งพักผ่อน นอนหลับ ฯลฯ เสมือนว่านี่คือวันหยุดอีกวันหนึ่ง และหน่วยงานที่จะติดต่องานด้วย ก็ต้องนั่งรอไป บางงานนี่ไม่รู้ว่าต้องรอไปถึงเมื่อไหร่ก็มี
เพื่อนๆ ผมเองก็ยังเคยเล่าให้ฟังกันว่า ทำงานจากที่บ้านก็เหมือนวันหยุดนี่แหละ สบายดี แบบนี้มันใช่หรือ ผิดกับหลายองค์กรที่ พนักงานที่ทำงานที่บ้านนั้นบ่นให้ฟังเสมอว่า เหนื่อยมาก ทำงานติดต่อกันไม่ได้หยุดพักเลย ทั้งรับโทรศัพท์ ตอบเมล ประชุมออนไลน์ วิเคราะห์ข้อมูล ทำรายงาน ฯลฯ คือเรียกได้ว่า ทำงานได้มากกว่าที่อยู่ออฟฟิศด้วยซ้ำไป
ดังนั้น อยากให้คำว่า “การทำงานจากที่บ้าน” กลายเป็นวันพักผ่อนของพนักงาน เวลาลูกค้าติดต่อมา ก็ติดต่อไม่ได้ ไม่ได้รับการบริการอะไรเลย ทั้งๆ ที่คนติดต่อเขามีความจำเป็นที่ต้องติดและได้รับบริการบางอย่างจริงๆ
โดยส่วนตัวแล้วเท่าที่สัมผัสมาด้วยตนเอง ในช่วงการทำงานจากที่บ้านนั้น จะมีปัญหาเรื่องการประสานงานและการขอรับบริการจากนหน่วยงานภาครัฐมากกว่าเอกชน แต่ก็ไม่ใช่ทุกแห่งนะครับ อาจจะเป็นบางแห่งที่ข้อมูลและอุปกรณ์เทคโนโลยีไม่มีความพร้อม ซึ่งเอาจริงๆ ตรงนี้เราไม่ว่ากัน เข้าใจได้นะครับว่ามันมีข้อจำกัด แต่กับคำพูดที่ได้รับมาว่า
“พอดีตอนนี้ Work From Home ทำงานไม่ได้ เดี๋ยวรอให้ออฟฟิศก่อน จะดำเนินการให้”
วลีที่ว่า “ทำงานไม่ได้” นี่แหละครับ ฟังแล้วทำให้รู้สึกว่า แล้วทำอะไรอยู่ และมันคือการ Work from home จริงๆ หรือ
ใส่ความเห็น