คำพูดที่มักจะได้ยินเสมอเวลาที่เราเลื่อนตำแหน่งพนักงานคนเก่ง หรือผู้จัดการคนเก่งของเราขึ้นมาดำรงตำแหน่งในระดับผู้นำขององค์กรก็คือ เราเสียผู้จัดการ/พนักงานมือดีไป แล้วเราก็ได้ผู้นำที่แย่ๆ มา เคยสงสัยมั้ยครับว่าทำไมคำพูดนี้เราถึงยังคงได้ยินมันอยู่จนกระทั่งปัจจุบัน
คำตอบก็คือ เราไม่มีการพัฒนาว่าที่ผู้นำในอนาคตของเราอย่างจริงจังนั่นเอง
สิ่งที่องค์กรส่วนใหญ่ทำกันก็คือ พยายามหาพนักงานหรือ ผู้จัดการที่มีผลงานที่ดีมาก สร้างผลลัพธ์ที่ดีในการทำงานในตำแหน่งของเขา ใครที่โดดเด่นมากๆ ก็จะมีโอกาสได้รับการเลื่อนตำแหน่งขึ้นไปในระดับที่สูงขึ้น
คนที่ทำงานเก่ง แก้ปัญหาหน้างานได้อย่างดี คิดอะไรใหม่ๆ ในการทำงานหน้างานได้ แต่อาจจะยังไม่สามารถขึ้นไปเป็นผู้นำที่ดีได้ เพราะบทบาทหน้าที่แตกต่างกันอย่างมาก จากเดิมที่ทำงานหน้างาน ลงมือปฏิบัติเอง แต่พอขึ้นไปเป็นผู้นำ ต้องมีบทบาทในการคิดเยอะหน่อย และต้องสามารถบริหารจัดการให้ทุกคนสร้างผลลัพธ์ให้ได้ โดยที่ตนเองแทบจะไม่ต้องลงมือทำเองเลย ดังนั้น การที่พนักงานที่ทำงานเก่งมากๆ คนหนึ่ง ไม่ได้รับการพัฒนาบทบาทของการเป็นผู้นำมาก่อน พอขึ้นไปเป็นผู้นำ ก็ยังคงพยายามที่จะลงมือทำงานที่ตนเองถนัด หลายครั้ง ไม่สามารถนำทีมได้ ไม่สามารถกระตุ้นจูงใจ สร้างแรงบันดาลใจได้ ก็เพราะด้วยบทบาทหน้าที่ที่เปลี่ยนแปลงไปนั่นเอง
ดังนั้น การพัฒนาภาวะผู้นำให้กับว่าที่ผู้นำในรุ่นใหม่ๆ จึงทวีความสำคัญมากขึ้นในทุกองค์กร เราจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า องค์กรสมัยใหม่ที่ให้ความสำคัญกับภาวะผู้นำนั้น ก่อนที่จะเลื่อนใครขึ้นมาเป็น CEO หรือ C level ขององค์กรนั้น จะต้องผ่านด่านการพัฒนาภาวะผู้นำกันมาอย่างยาวนานพอสมควร อย่างน้อยๆ ก็ประมาณ 2-3 ปีล่วงหน้าก่อนที่จะได้รับการเลื่อนตำแหน่ง
มีการพิสูจน์ และวิจัยกันมาแล้วจาก Center of Creative Leadership ซึ่งเป็นสถาบันพัฒนาผู้นำ ว่า องค์กรที่มีการพัฒนาภาวะผู้นำให้กับคนเก่งๆ ขององค์กรก่อนที่จะเลื่อนตำแหน่งให้เป็นผู้นำองค์กรนั้น จะมีข้อดีที่เกิดขึ้นก็คือ
- สามารถสร้างรายได้และผลกำไรทางการเงินได้มากขึ้น
- สามารถสร้างแรงดึงดูดคนเก่งๆ เข้ามาทำงานได้มากขึ้น และยังสามารถเก็บรักษาพนักงานเก่งๆ ให้อยู่ทำงานกับองค์กรได้ยาวนานขึ้น ด้วยภาวะผู้นำที่เข้มแข็ง
- สามารถผลักดันผลลัพธ์ และสร้างผลลัพธ์ตามวิสัยทัศน์และแผนกลยุทธ์ที่กำหนดไว้ภายในเวลาที่กำหนด ไม่ใช่แค่เพียงสร้างภาพฝัน แล้วก็ฝันค้างอยู่แบบนั้น
- สามารถสร้างและกระตุ้นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญๆ ให้เกิดขึ้นในองค์กรได้อย่างราบรื่น
จากผลลัพธ์ 4 ข้อข้างต้น ซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่ทุกองค์กรต่างก็ต้องการผลลัพธ์แบบนี้ทั้งสิ้น ดังนั้น การพัฒนาภาวะผู้นำให้กับพนักงานของตนเองก่อนที่จะให้เขาเป็นผู้นำตัวจริงขององค์กรเรานั้น จึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย
แนะนำว่า เราควรจะมีการวางแผนการสืบทอดตำแหน่ง และมีแผนในการพัฒนาว่าที่ผู้นำขององค์กรอย่างเป็นระบบ เพื่อทำให้เขาเห็นบทบาทหน้าที่ และเข้าใจพฤติกรรมในการทำงานของคนที่เป็นผู้นำตัวจริงว่าจะต้องทำอย่างไร และมีบทบาทอย่างไรต่อการบริหารจัดการ และการนำพาองค์กรไปสู่เป้าหมายที่ต้องการอย่างได้ผล
ใส่ความเห็น