อย่าลืมเรื่องการกำหนดเป้าหมายผลงานให้พนักงาน ถ้ายังต้องทำงานจากที่บ้านกันต่อไป

โควิด19 คงจะไม่หายจากโลกนี้ไปง่ายๆในช่วง 2-3 ปีข้างหน้านี้ ดังนั้น ตอนนี้หลายๆ ประเทศก็เริ่มที่จะคุยกันถึงเรื่องที่ว่า เราจะอยู่ร่วมกับเชื้อโรคนี้อย่างไรมากขึ้นกว่าแค่การหาวิธีการป้องกันและรักษาโรคเท่านั้น อย่างที่เราทราบกันดีว่า เชื้อโรคนี้แพร่เร็วมาก อีกทั้งยังมีระยะฟักตัวที่เร็วมากขึ้น มีความเสี่ยงมากสำหรับการทำงานที่ต้องใกล้ชิดกัน คุยกัน รวมถึงการอยู่ร่วมกันในสถานที่ปิด

เมื่อเราเห็นสภาพแบบนี้แล้ว แนวทางในการทำงาน และการอยู่ร่วมกันในสถานที่ทำงานก็จะมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก พื้นที่ทำงานที่มีสภาพติดกัน คนทำงานต้องนั่งใกล้ชิดกัน พนักงานในสายการผลิตที่ต้องยืนทำงาน หรือนั่งทำงานแบบใกล้ๆ กันมา ก็จะมีการปรับกันใหม่ เริ่มเอาเทคโนโลยีเข้ามาใช้แทนคนมากขึ้น เพื่อให้คนงานน้อยลง พอคนน้อยลง ก็ไม่ต้องอยู่ใกล้กันมาก

บางองค์กรเลิกใช้ห้องประชุมกันเลยก็มี ทั้งๆ ที่ทำงานในบริษัทเดียวกัน มาทำงานในออฟฟิศเดียวกัน แต่มีการจัดคอกให้นั่งทำงานต่างคนต่างมีฉากกั้นไว้ พื้นที่ใครพื้นที่มัน พอถึงเวลาประชุม ก็แค่ login เข้าประชุมแบบ online โดยไม่ต้องเดินไปประชุมในห้องประชุมจริงๆ เพื่อแยกคนไม่ให้ใกล้ชิดกันมากจนเกินไป

บางองค์กรที่สามารถทำงานจากที่บ้านได้ ก็วางระบบการทำงานจากที่บ้านกันอย่างจริงจังมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา หลายแห่งเลิกเช่าออฟฟิศกันจริงๆ จังๆ และประกาศให้พนักงานทำงานจากที่บ้านกันเลย 100% เต็ม โดยที่ไม่มีการนัดหมายมาเจอกันด้วยซ้ำไป ในช่วง 2-3 ปีนี้

พอเห็นสภาพการทำงานที่ต้องห่างกันมากขึ้นแบบนี้ HR ที่ดูแลระบบการบริหารผลงาน และการประเมินผลงาน ก็เริ่มที่จะสงสัยว่า แล้วเราจะประเมินผลงานพนักงานกันอย่างไรดี เพราะหัวหน้ากับลูกน้องอยู่ห่างไกลกัน ไม่สามารถที่จะสังเกตเห็นพฤติกรรมในการทำงานระหว่างกันได้เลย หรือบางคนอาจจะมองเห็นบ้าง แต่มันก็จะไม่เหมือนกับการทำงานในออฟฟิศเดียวกันที่เห็นพฤติกรรมในการทำงานกันแบบทั้งวันจริงๆ

ผู้จัดการบางคน ก็บ่นว่า ขนาดทำงานกันในออฟฟิศเดียวกันยังประเมินผลงานกันยากเลย แล้วนี่ต่างคนอยู่บ้านทำงานกันแบบนี้จะรู้ได้อย่างไรว่าผลงานของพนักงานแต่ละคนเป็นอย่างไร ใครผลงานดีกว่าใคร ใครทำงานได้ตามมาตรฐานที่กำหนดไว้หรือไม่ อย่างไร

ท่านผู้อ่านคิดอย่างไรกับประเด็นเหล่านี้บ้างครับ

ผมคิดว่า ระบบการบริหารผลงาน และปัจจัยในการประเมินผลงานขององค์กรต้องเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน คงจะใช้ปัจจัยเดิมๆ ที่เคยใช้กันอยู่ไม่ค่อยจะได้แล้ว โดยเฉพาะกับองค์กรที่ให้พนักงานทุกคนทำงานจากที่บ้านกันอย่าง 100% เต็มเวลา

โดยเฉพาะปัจจัยทางด้านพฤติกรรมในการทำงาน ดังนั้นระบบบริหารผลงานในยุคแห่งการทำงานจากที่บ้าน ก็คงต้องเน้นไปที่ผลลัพธ์จากการทำงานของพนักงานมากกว่า ด้านพฤติกรรมในการทำงาน

องค์กรใด บริษัทใดที่มีนโยบายให้พนักงานทำงานจากที่บ้าน 100% อย่าลืมปรับปรุงระบบการบริหารผลงานและประเมินผลงานของตนเองด้วยนะครับ โดยเฉพาะในเรื่องของการกำหนดตัวชี้วัดผลงาน และเป้าหมายผลงานของพนักงานแต่ละคน แต่ละตำแหน่ง จะต้องมีความชัดเจนมากขึ้นกว่าเดิม จะต้องสามารถวัดได้ และเห็นภาพผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากกว่าที่เคยทำกันมา

ส่วนปัจจัยทางด้านพฤติกรรมนั้น อาจจะลดน้ำหนักความสำคัญลง เหลือแค่เพียงพฤติกรรมที่สอดคล้องกับวัฒนธรรมองค์กร และการทำงาน

ถ้าเราไม่สามารถกำหนดเป้าหมายในการทำงานให้กับพนักงานที่ต้องทำงานจากที่บ้านได้อย่างชัดเจน พอถึงปลายปี รับรองได้เลยว่า ท่านที่เป็นผู้จัดการที่ต้องประเมินผลงานพนักงาน จะประเมินผลงานได้ยากมากขึ้นกว่าเดิมเยอะครับ ยิ่งไปกว่านั้นยังอาจจะได้รับข้อโต้แย้งจากพนักงานมากขึ้นด้วย เพราะความไม่ชัดเจนในเรื่องของเป้าหมายผลงานนี่แหละครับ