วันนี้วันศุกร์ ผมเอานิทานสอนใจดี ๆ มาฝากอีกเรื่องหนึ่งครับ เป็นเรื่องเกี่ยวกับการรับรู้ของคนเรา หลายครั้งที่คนเรามักจะเชื่อในสิ่งที่ตัวเองเห็นทันที โดยไม่คิดหน้าคิดหลังให้ดี หรือไม่ถึงความรู้สึก และสถานการณ์ของคนอื่นว่าเป็นอย่างไร มองว่าคนอื่นจะต้องเหมือนเราไปหมด ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องนัก ลองอ่านนิทานเรื่องนี้ดูนะครับ
ณ ชานชาลาที่แห่งหนึ่ง มีพ่อและลูกชายคู่หนึ่งกำลังรอขึ้นรถไฟ เพื่อจะไปเที่ยวชมปราสาทแห่งหนึ่งทางตอนเหนือของยุโรป ลูกชายอายุราวๆ 25 ปี แต่เขาตื่นเต้นดีใจมากที่ได้เห็นรถไฟ ท่าทางของเขาราวกับเด็กเล็กๆ ที่….
“เหมือนเขาไม่เคยเห็นมันมาก่อนเลยในชีวิตนี้”
เมื่อรถไฟมาเทียบชานชาลา ทั้งสองเข้าไปนั่งในตู้โดยสารร่วมกับสามีภรรยาคู่หนึ่ง ซึ่งสามีและภรรยาคู่นี้ได้สังเกตได้ถึงพฤติกรรมที่แปลกประหลาดของชายหนุ่มวัย 25 ปีนี้ ที่ทำท่าทางเหมือนเด็ก ตื่นเต้นไปทุกเรื่องที่ได้เห็น
เมื่อรถไฟเคลื่อนที่ออกไปด้วยความเร็วขึ้นเรื่อย ๆ ทันใดนั้น ผู้เป็นลูกชายก็ตะโกนเสียงดังด้วยความตื่นเต้นว่า
“พ่อดูนั้นสิ ต้นไม้กำลังไล่หลังเรามา”
พ่อของเขายิ้ม และหันไปยิ้มให้สามีภรรยาคู่นั้น ซึ่งตกใจกับเสียงที่ลูกชายของเขาตะโกนและทำท่าทางประหลาดใจ ทั้งคู่รู้สึกสงสารชายหนุ่ม ซึ่งพวกเขาคิดว่า ชายหนุ่มผู้นี้เป็นเด็กพิเศษ มีความผิดปกติทางสมองแน่ๆ
พอรถไฟเคลื่อนที่ไปได้สักพักหนึ่ง ลูกชายก็ตะโกนขึ้นด้วยความตื้นเต้นอีกครั้งว่า
“พ่อดูสิครับๆ หมู่เมฆกำลังลอยตามเรามา!!”
พอเห็นเช่นนี้อีก สามีภรรยาจึงอดใจที่จะเงียบไว้ไม่ได้ จึงตัดสินใจกระซิบถามพ่อของเขาว่า
“ขอโทษนะครับ ลูกของคุณมีอาการทางสมองแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ เราเอ็นดูเขามาก ทำให้นึกถึงญาติของเราที่ก็เคยเป็นแบบนี้มาก่อน”
ผู้เป็นพ่อจึงตอบว่า “เขาเพิ่งเป็นวันนี้ เขารู้สึกตื่นเต้นกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาเห็นมากครับ”
“คุณมีหมอที่จะรักษาเขาหรือยัง ถ้ายังพวกเราสามารถจะแนะนำหมอที่ดี ซึ่งเคยรักษาญาติของเราให้ได้นะ” สองสามีภรรยาถาม
“ขอบคุณพวกคุณทั้งสองมากครับ” พ่อของเขาขอบคุณพร้อมกับรอยยิ้ม….
“แต่ผมก็เพิ่งพาเขากลับมาจากการรักษาที่โรงพยาบาลในเช้าวันนี้เอง ลูกชายของผมเขาตาบอดมาตั้งแต่ยังเล็กมาก และวันนี้เป็นวันที่เขาได้ออกจากโรงพยาลหลังจากได้พักฟื้นจากการผ่าตัดให้ตามองเห็นครับ……”
“เขาต้องอยู่ในความมืดมิดมาตลอดระยะเวลาหลายปีมาก ๆ และวันนี้เป็นวันแรกที่เขาได้เปิดตาของเขา ได้พบกับความสว่าง และมองเห็นความสวยงามของโลกใบนี้ครับ”
ใส่ความเห็น