นิทานสอนใจ กุญแจแห่งความสุข อยู่ที่ไหน

เช่นเคยนะครับ วันศุกร์ ผมเอานิทานสอนใจดี ที่แชร์กันในเน็ตบ้าง ใน facebook บ้างมาให้อ่านกันครับ เรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่ให้ข้อคิดที่ดีมาก แต่เสียดายว่า ตามหาคนแต่งไม่เจอ ถ้าใครทราบก็แจ้งมาได้เลยนะครับ

ชายชราคนหนึ่งมักจะไปซื้อหนังสือพิมพ์จากร้านประจำอยู่เสมอ พนักงานร้านนี้มักแสดงสีหน้าจองหองและดูหมิ่นเขาเสมอ จนเพื่อนของเขาต้องถามเขาด้วยความไม่เข้าใจว่า

“ทำไมนายไม่ไปซื้อร้านอื่น  จะไปซื้อทำไมวะร้านนี้ ไอ้เด็กพวกนี้ท่าทางมันยโสสิ้นดี”

ชายชราหัวเราะและตอบว่า

“จะไปถือสาหาความเด็กมันทำไม?  หากฉันทำตามที่นายว่า ฉันต้องเสียเวลาเดินอ้อมไปหลายซอยเลยนะ ถึงจะซื้อหนังสือพิมพ์ได้ เราจะทำให้มันยุ่งยากไปทำไม? จะว่าไป ที่เด็กร้านนี้ไม่มีมารยาท มันก็เรื่องของเด็กมัน ข้าจะต้องอารมณ์บูดตามเด็กพวกนี้ด้วยเหรอ ฉันถามแกหน่อยมันคุ้มไหม? ฉันไปซื้อหนังสือพิมพ์นะ ฉันไม่ได้ไปดูหน้าเด็กนั่น!”

ในใจของทุกคนมีกุญแจแห่งความสุขอยู่คนละดอก แต่เรามักเอากุญแจแห่งความสุขนั้น ไปฝากไว้ในมือของคนอื่น

แม่บ้านคนหนึ่งเอ่ยขึ้นว่า “ฉันไม่มีความสุขเลย เพราะสามีฉันต้องไปประชุมต่างจังหวัดบ่อยๆ เขาไม่ค่อยอยู่บ้าน”

เธอเอากุญแจแห่งความสุขใส่ไว้ในมือของสามี

คุณแม่คนหนึ่งเอ่ยว่า “ลูกของฉันไม่เคยชื่อฟังฉันเลย มันทำให้ฉันโมโหอยู่เสมอ”

นางเอากุญแจแห่งความสุข ใส่ไว้ในมือของลูกๆ

ผู้ชายคนหนึ่งเอ่ยขึ้นว่า “เจ้านายไม่เคยเห็นผมอยู่ในสายตา ทำให้ผมกลายเป็นคนโมโหร้าย”

เขาฝากกุญแจแห่งความสุข ไว้ในมือของเถ้าแก่

แม่ผัวกล่าวว่า “ลูกสะใภ้ของฉันไม่กตัญญู ฉันช่างโชคร้ายอะไรอย่างนี้?”

นางฝากกุญแจความสุข ไว้ที่ลูกสะใภ้

เรามักจะกล่าวโทษว่าคนอื่นทำให้เราไม่มีความสุข แต่ความเป็นจริงแล้วเรานั่นแหละที่

“เอาความสุขไปฝากไว้ที่คนอื่น”

ตอนนี้กุญแจแห่งความสุขของคุณอยู่ที่ไหน? อยู่ในมือของคนอื่นหรือเปล่า?

เอามันกลับคืนมาไว้ในมือของตัวเองเถิด

ใส่ความเห็น

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Twitter picture

You are commenting using your Twitter account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Connecting to %s

บลอกที่ WordPress.com .

Up ↑

%d bloggers like this: