วันศุกร์เช่นเคยนะครับ เอานิทานดีๆ มาให้อ่านกันอีกเรื่องหนึ่งครับ
กาลครั้งหนึ่ง มีมีดโกนหนวดสวยอันหนึ่งทำงานอยู่ในร้านตัดผม วันหนึ่งไม่มีลูกค้าเลย มันจึงออกจากด้ามไปผึ่งแดดเมื่อมันเห็นพระอาทิตย์ส่องแสงสะท้อนใบมีดราวกับกระจก มันมีความรู้สึกภูมิใจในประกายของมันมาก ดังนั้น เมื่อมันหวนคิดถึงอดีตที่เป็นเพียงมีดโกนหนวด จึงรำพันว่า
“วันหนึ่ง ข้าจะกลับไปในร้านที่ข้าเพิ่งจะออกมาหยก ๆ ไหมนะ ไม่แน่ ๆ! ข้าไม่อยากจะกลับไปโกนหนวดที่ฟอกสบู่ของผู้คนหยาบคายน่าเกลียดเหล่านั้น ! ข้าไม่อยากทำงานเป็นเครื่องจักรกลเช่นนั้นอีกต่อไป รูปร่างที่งดงามของข้าถูกสร้างขึ้นมาเพื่อทำงานเหล่านี้หรือ ไม่ใช่แน่! ด้วยเหตุนี้ ข้าจะไปซ่อนตัวอยู่ในสถานที่ลับ เพื่อลิ้มรสชาติชีวิตพักผ่อนแสนสงบ”
พูดจบ มีดโกนหนวดก็แอบซ่อนตัวอย่างดีเพื่อหลบสายตาคนอื่น ๆ
หลายเดือนผ่านไป วันหนึ่ง มันอยากออกไปสูดอากาศจึงออกจากที่ซ่อน แต่กว่าจะออกได้ก็ลำบากลำบนเต็มที เมื่อมันมองดูตัวเอง มันก็งุนงงเป็นที่สุด ช่างน่าแปลกใจอะไรอย่างนี้ มันผิดหูผิดตาเสียจนเหมือนกันเลื่อยขึ้นสนิม และใบมีดของมันก็ไม่สะท้อนความงดงามของพระอาทิตย์อีกต่อไป มันสำนึกผิดอย่างขมขื่น แต่ไร้ประโยชน์ที่จะเสียใจกับความงามที่หายไป มันร้องไห้กับความเสียหายที่แก้ไขไม่ได้แล้วนี้ พร้อมกับพูดว่า
“อนิจจา! คมมีดที่เสียไปน่าจะได้ใช้งานที่ร้านตัดผมมากกว่า! ความบางเฉียบของคมมีดข้ากลายเป็นอะไรไป ใบมีดที่เจิดจ้าของข้าอยู่ที่ไหน ตอนนี้ข้าถูกสนิมกินจนกร่อน ดูน่าเกลียดน่าชัง ความทุกข์ของข้าไม่มีทางแก้ได้”
คนขี้เกียจก็เหมือนกับมีดโกนนี้ ไม่ทำงานเอาแต่เพ้อฝัน จึงสูญเสียรูปร่างและความคมไป การที่เราขยันทำงาน ทำงานหนัก และอดทดต่อความยากลำบากต่อการทำงานของเรานั้น มันก็เปรียบเสมือนกับการที่เรากำลังลับคมมีดให้คมมากขึ้น
การที่เราไม่ทำงาน ไม่ใช้สมอง ไม่ใช้ความขยันของเราให้เป็นประโยชน์ เมื่อถึงวันหนึ่ง เราก็จะเหมือนกับมีดที่ขึ้นสนิม และไม่เป็นที่ต้องการของใครๆ
ขออนุญาตแสดงความคิดเห็นหน่อยนะคะ พอดี อ่าแล้วไม่เข้าใจในเนื้อหาของ
ท่อนแรก และท่อนสอง ว่า
มีดโกนหนวด ทำงานอยู่ แล้วพอไม่มี ลูกค้า เลยออกมาตากแดด
หรือ ไม่ได้ทำงานแล้ว เหมือนจะขาดความสอดคล้องในเนื้อเรื่องอะคะ
และ ชื่อเรื่อง มีดโกนหนวด แต่ เขียนผิดเป็น มีโกนหนวด ตกหล่น ด ไป 1ตัวนะคร๊าาา
พอดีผมไม่ได้เป็นคนแต่งเรื่องนี้เอง ก็เลยจะตอบคำถามที่ถามมาไม่ได้ครับ
แต่เข้าใจว่านี่คือนิทาน ซึ่งก็คงมาจากจินตนาการของผู้แต่ง
และเนื้อหาเองก็พยายามที่จะสอนให้คนเรารู้จักและเรียนรุ้กับความยากลำบากเวลาที่ต้องลงมือทำอะไรบางอย่างในชีวิตก็น่าจะเห็นประเด็นที่สอนใจคนอ่านพอได้ ถ้าเรามองแก่นของเรื่อง
และขอบคุณมากครับสำหรับการตรวจสอบคำผิดครับ ^^