เวลาที่พูดถึงคำว่า Employee Well-being เรามักจะมองไปที่เรื่องทางกายภาพของพนักงานเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสวัสดิการด้านต่างๆ ที่ให้กับพนักงาน ค่ารักษาพยาบาล Fitness ฯลฯ ส่วนใหญ่เรามักจะลืม Well-being ในอีกมุมหนึ่งก็คือ Mental Well-being ซึ่งก็คือความรู้สึกที่ดีทางจิตใจของพนักงานที่มีต่อการทำงานกับองค์กร
วันนี้จึงนำเอาปัจจัยที่มีผลต่อ Mental Well-being ของพนักงานมาให้อ่านกันว่ามีอะไรบ้าง ซึ่งถ้าพนักงานของเรามีระดับของชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีทั้งด้านกายภาพ และด้านจิตใจ ก็จะส่งผลให้พนักงานมีแรงจูงใจในการทำงานมากขึ้น ซึ่งก็จะส่งผลต่อผลงานของพนักงานโดยตรง
ปัจจัยที่มีผลต่อ Mental Well-being มีอะไรบ้างมาดูกันครับ (อ้างอิงจากงานวิจัยชื่อ 2021 Employee Experience Trends Report โดยบริษัท Qualtrics)
- พนักงานจะต้องรู้สึกว่าตนเองเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร รู้สึกว่าตนเองมีส่วนในความเป็นเจ้าของขององค์กร หรือของงานที่ตนเองทำ
- เป็นตัวของตัวเองในการทำงานอย่างเต็มที่ พนักงานจะต้องรู้สึกเป็นตัวเองในการทำงานได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องเสแสร้งแกล้งทำ หรือ ไม่เป็นตัวเอง
- รู้สึกว่าตนเองมีคุณค่าของทีมงานของตน มีความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของทีม และทุกคนในทีมให้ความสำคัญต่อผลงาน และต่อคุณค่าของพนักงานคนนั้น
- รู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของทีม ไม่ถูกทีมงานทิ้งไว้ข้างหลัง หรือถูกตัดขาดจากการสื่อสารภายในทีม ทำให้เกิดความรู้สึกไม่เป็นส่วนหนึ่งของทีมงาน
- ถูกปฏิบัติด้วยความให้เกียรติซึ่งกันและกัน เวลาที่พนักงานทำงานความรู้สึกว่าได้รับการยอมรับ และถูกปฏิบัติด้วยการให้เกียรติพนักงาน จะทำให้เขารู้สึกดีในการทำงานร่วมกับผู้อื่น
คำถามก็คือ แล้วความรู้สึกทั้ง 5 ประการข้างต้นนั้น มันจะเกิดขึ้นในกความรู้สึกของพนักงานได้อย่างไร คำตอบก็คือ ต้องมาจากผู้บริหารระดับสูงขององค์กรก่อนเลย ผู้บริหารหรือผู้นำองค์กรจะต้องเป็นบุคคลที่มีพฤติกรรมที่สร้างความรู้สึกที่ดีให้กับพนักงานที่ทำงานด้วยได้
นอกจากผู้นำ ก็จะมีผู้จัดการสายงานที่จะต้องสร้างความรู้สึกที่ดีให้กับพนักงานในฝ่ายงานของตนเองอีกเช่นกัน
ดังนั้นเวลาที่องค์กรของเราต้องการที่จะวางแผนสร้าง Well-being ให้กับพนักงาน ต้องไม่ไปเน้นทางด้านกายภาพมากจนเกินไป จนลืม ความรู้สึกของพนักงานไป เพราะ Well-being ที่ดี จะต้องมีทั้ง Physical Well-being และ Mental Well-being นั่นเองครับ
ใส่ความเห็น