วันนี้นำเอานิทานมาฝากกันอีกเช่นเคยนะครับ เป็นนิทานที่เผยแพร่ผ่านทางอินเตอร์เน็ต ซึ่งก็ไม่ทราบว่า ผู้แต่งเป็นใคร ถ้าท่านใดทราบ ก็ฝากแจ้งมาด้วยนะครับ จะได้ให้เครดิตกับผู้แต่งครับ
ในพุ่มไม้ใกล้ริมคลองแห่งหนึ่ง มีหนอนอยู่สามตัว พวกมันคลานมาจากที่ไกลๆแห่งหนึ่ง ตั้งใจจะข้ามคลองแห่งนี้ไปอีกฝั่งหนึ่งที่มีดอกไม้บานสะพรั่งอยู่ทั่วบริเวณ
ตัวที่หนึ่งพูดว่า “พวกเราต้องหาสะพานให้เจอก่อน ถึงจะคลานข้ามสะพานไป”
ตัวทีสองพูดว่า “บริเวณนี้เป็นที่รกร้างนอกเมือง ที่ไหนจะมีสะพาน? พวกเราสร้างเรือคนละลำ แล้วลอยข้ามคลองไปดีกว่า”
ตัวที่สามพูดว่า “พวกเราเดินทางไกลมาไม่น้อยแล้ว รู้สึกเหนื่อยเต็มทีแล้ว ควรจะพักที่นี่สักสองวันก่อน”
หนอนอีกสองตัวประหลาดใจ พูดขึ้นว่า “พักก่อนหรือ? ตลกสิ้นดี ไม่เห็นหรือว่าฝั่งนั้น มวลน้ำหวานและเกสรดอกไม้โดนผู้อื่นดูดหมดแล้ว เราต่อสู้และผ่านอุปสรรคมาแล้วเท่าไหร่ เพียงเพื่อมานอนอยู่ตรงนี้หรือ?”
ขณะที่พูดยังไม่ทันขาดคำ ก็มีตัวหนอนคลานขึ้นไปบนต้นไม้เตรียมตัวจะหาใบไม้ใบหนึ่งมาทำเป็นเรือ อีกตัวหนึ่งก็คลานไปที่ทางเดินริมคลอง เพื่อจะหาสะพานข้ามไปฝั่งนั้น
ตัวที่เหลือนอนอยู่ใต้ร่มไม้ไม่ได้ขยับไปไหน คิดในใจว่า
“ดื่มน้ำหวานจากเกสรดอกไม้ย่อมจะมีความสุขแน่นอน แต่ลมเย็นๆที่ฝั่งนี้ก็น่าจะอยู่ชื่นชมอีกสักพัก” คิดแล้วก็ก็คลานขึ้นไปบนต้นไม้ที่สูงที่สุด ให้ใบที่เหมาะๆแล้วนอนเล่นอยู่ตรงนั้น
เสียงน้ำในลำธารกระทบหินทำให้เกิดเสียงแว่วแผ่วมาดั่งเสียงดนตรี ใบไม้โดนลมอ่อนๆแกว่งไกวไปมาดั่งเปลน้อยของทารกหนอนตัวนั้นนอนหลับไปอย่างมีความสุข
ไม่รู้เวลาล่วงเลยไปแล้วเท่าไหร่ และไม่รู้ว่าในความฝัน ตนเองฝันเห็นอะไรบ้าง รู้แต่ว่า เมื่อรู้สึกตัวขึ้นมา เห็นตัวเองกลายเป็นผีเสื้อที่สวยงามตัวหนึ่ง
ปีกของมันสวยงามและบางเบา แค่กระพือปีกเบาๆ ก็บินข้ามไปฝั่งนั้นได้ขณะนั้น ดอกไม้กำลังบานอย่างสวยงาม เกษรทุกดอกส่งกลิ่นและรสหอมหวาน เวลานั้นมันคิดถึงเพื่อนอีกสองตัวขึ้นมา เลยบินวนหาจนรอบก็หาไม่เจอ ที่แท้เพื่อนสองตัวนั้น ตัวหนึ่งถูกน้ำพัดพาหายไป อีกตัวหนึ่งเดินจนเหนื่อยตายไป
ในโลกนี้ ไม่มีพลังใดจะเกินไปกว่าพลังที่เป็นไปตามครรลองของธรรมชาติ ไม่มีสิ่งใดจะน่าหลงใหลเท่าเนื้อแท้ๆของธรรมชาติ แต่ที่น่าเศร้าคือ
ความเป็นจริงเช่นนี้ ในสังคมแห่งการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น ไม่ใช่ว่าทุกคนจะรับรู้ได้อย่างแท้จริง บางเรื่องในชีวิต เรากำลังฝืนธรรมชาติของชีวิตอยู่หรือเปล่า ไม่ยอมหลับนอนทั้งๆ ที่ควรจะเป็นเวลานอน เพราะต้องการให้ได้มาซึ่งเป้าหมาย ไม่ปรับปรุง เปลี่ยนแปลงและพัฒนาตนเองทั้งๆ ที่ธรรมชาติของคนเรานั้นชอบที่จะค้นหาและทำให้ตัวเองดีขึ้นเสมอ
บางครั้งชีวิตคนเราก็ควรจะต้องเดินไปตามธรรมชาติบ้าง อย่าไปฝืนธรรมชาติ
ใส่ความเห็น