วันนี้วันศุกร์ เช่นเคยนะครับ ผมก็นำเอานิทานสอนใจดีๆ มาให้อ่านกันครับ เป็นการทำจิตใจให้เบาสบายขึ้น ท่ามกลางความปั่นป่วนวุ่นวายภายนอกในช่วงนี้ ที่เข้ามาในชีวิตเรามากมายไปหมด นอกจากทำร่างกายให้แข็งแรงแล้ว ก็คงต้องไม่ลืมหาเวลาทำจิตใจให้สงบลงบ้างก็ดีนะครับ
มีพระอาจารย์ท่านหนึ่งเข้านิโรธสมาบัติไปหลายวัน จนเหล่าลูกศิษย์นึกว่าท่านมรณภาพไปแล้ว เลยนำร่างของท่านไปเผา
ผ่านไปอีกหลายวันเมื่อท่านออกจากนิโรธสมาบัติ ท่านหาร่างตัวเองไม่เจอรู้สึกเศร้าโศกเสียใจมาก พร้อมกับพึมพำไปว่า “ข้าล่ะ ข้าอยู่ที่ไหน?”
พอตกกลางคืนท่านก็ยังร้องอีกว่า “ข้าล่ะ ทำไมถึงหาร่างของข้าไม่เจอ”
เสียงร้องนั้นยิ่งร้องยิ่งเสียใจหนักขึ้นทุกที เหล่าลูกศิษย์ฟังแล้วก็รู้สึกไม่สบายใจไปตามๆกัน
เหล่าลูกศิษย์จึงไปเชิญพระอาจารย์จิ้งคง มาช่วยแก้ไขให้ พระอาจารย์จิ้งคงสั่งว่า คืนนี้ให้เตรียมไฟมาหนึ่งเตา และน้ำหนึ่งถัง อาจารย์จะไปนอนในห้องพระอาจารย์นั้น เมื่อท่านมาหากายเนื้อ ข้าจะคุยกับเขาให้เข้าใจว่า “อะไรคือตัวเรา”
พอถึงกลางดึก พระอาจารย์ท่านนั้นมาหากายอีก พลางพูดอย่างเศร้าสร้อยว่า
“ข้าล่ะ กายของข้าอยู่ที่ไหนแล้ว” พระอาจารย์จิ้งคงตอบว่า “อยู่ในดิน”
วิญญาณนั้นจึงมุดเข้าไปในดิน หาจนทั่ว สุดท้ายก็ยังหาร่างของตัวเองไม่เจอ
วิญญาณนั้นกลับมาพูดอย่างเศร้าสร้อยอีกว่า “ในดินไม่มีข้า”
พระอาจารย์จิ้งคงตอบว่า “งั้นคงอยู่ในความว่างเปล่ากระมัง เจ้าลองไปหาดูให้ทั่วซี”
วิญญาณนั้นไปหาอีกจนทั่วก็ไม่เจอ กลับมาต่อว่า หาจนทั่วแล้วไม่เจอ
พระอาจารย์จิ้งคงชี้ไปที่ถังน้ำแล้วพูดว่า “ร่างของท่านคงจะอยู่ในน้ำกระมัง”
วิญญาณนั้นจึงเข้าไปในน้ำ สักครู่วิญญาณนั้นก็ออกมาพูดว่า
“ในน้ำก็ไม่มีข้า ที่แท้ท่านซ่อนข้าไว้ที่ไหน?”
พระอาจารย์จิ้งคงชี้ไปที่เตาไฟแล้วพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นท่านต้องอยู่ในไฟแน่นอน
วิญญาณนั้นก็เข้าไปในไฟ ที่สุดก็หาตัวเองไม่เจอ
ก่อนที่วิญญาณนั้นจะพูดอะไร พระอาจารย์จิ้งคงพูดก่อนว่า “ในเมื่อท่านสามารถ
ไปในดิน ที่ว่าง น้ำ ไฟ และทุกแห่งได้อย่างอิสระเสรี ไม่มีที่ไหนที่ท่านไปไม่ได้
แล้วท่านยังจะยึดเอาเปลือกว่างเปล่านั้นมาทำไม?”
วิญญาณนั้นได้คิดขึ้นมา ตั้งแต่นั้นจึงไม่มาหา ”กายของข้า“ อีกต่อไป
ใส่ความเห็น