วันนี้ก็นำเอาบทสรุปจากหนังสือเล่มเดิมนะครับก็คือ Powerful แต่จะเป็นบทที่ 3-4 ครับ อ่านเนื้อหาได้จากข้างล่างครับ ถ้าใครต้องการ download pdf file ก็สามารถลงไปที่ link ด้านล่างได้เลยครับ
ในบทที่3 และ 4 ผู้เขียนเน้นเรื่องของการพูดจาสื่อสาร อย่างตรงไปตรงมาในบริษัท เพราะเป็นเรื่องที่สามารถทำให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงานมากกว่าการที่จะมาปิดบังเรื่องราวต่างๆ ในการทำงานระหว่างกัน การถกเถียงกันในข้อเท็จจริง จะสร้างผลลัพธ์ที่ดีกว่า การถกเถียงกันบนพื้นฐานของการคิดไปเองและการนินทาลับหลัง
- ทุกคนที่มาทำงานในบริษัทควรจะคิดเหมือนกัน ก็คือจะต้องคิดว่าการพูดความจริงกับคนอื่นอย่างให้เกียรติ เป็นเรื่องที่ดี และไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย เพราะการที่เราบอกทุกอย่าง อย่างโปร่งใส มันเป็นสิ่งที่ทำให้คนอื่นรู้ว่า เขาสามารถมั่นใจ และเชื่อใจ และไว้ใจเราได้ เพราะเราไม่ได้ปิดบังและโกหกซึ่งกันและกัน
- สาเหตุที่คนเราไม่ค่อยอยากบอกความจริงกับคนที่ทำงานกับเรา เพราะหนึ่งเราคิดว่าเค้าไม่ฉลาดพอที่จะเข้าใจเรา สองเราคิดว่าพวกเขาไม่โตพอที่จะเข้าใจ สามเรารู้สึกใจร้ายเกินไปที่จะบอกเขาตรงตรง แต่การที่เราไม่บอกความจริงกับคนอื่นนั้น มันยิ่งทำให้ปัญหาไม่ได้ถูกแก้ รวมทั้งปัญหาไม่ได้แก้อย่างตรงจุด สุดท้ายปัญหามันก็จะวกไปวนมาอยู่ดี และไม่ได้รับการแก้ไขสักที
- ส่วนหนึ่งของการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่แท้จริง ก็คือ ทุกคนจะต้องยอมรับความจริงได้ ดังนั้นเราจึงต้องมอบความจริงให้กับผู้ใหญ่ทุกคนที่เราจ้างเขามาทำงานในองค์กร และนั่นคือสิ่งที่พวกเขาอยากได้จากเรามากที่สุด
- หนึ่งในกฎสำคัญที่สุดของ Netflix ก็คือพนักงานทุกคนต้องคุยประเด็นต่างๆ กับคนอื่นในบริษัท อย่างเปิดเผยและจริงใจ ไม่ว่าจะเป็นพนักงาน ลูกน้อง เพื่อนร่วมงาน หัวหน้าผู้จัดการ เราต้องการความจริงใจ ไม่ว่าจะจากบนลงล่าง หรือจากล่างขึ้นบนทั่วทั้งบริษัท
- มันเลยทำให้เกิดวัฒนธรรมองค์กรของ Netflix ข้อสำคัญข้อหนึ่ง ก็คือถ้าใครมีปัญหากับพนักงาน หรือกับการทำงานของเพื่อนร่วมงานไม่ว่าจะเป็นฝ่ายตัวเอง หรือฝ่ายอื่นๆ ในบริษัทเราคาดหวังว่าพนักงานคนนั้นจะคุยกับอีกฝ่ายอย่างตรงไปตรงมา และจะให้ดีก็คือต้องพูดกันซึ่งๆ หน้าจะดีกว่า เราไม่อยากให้มีการวิจารณ์และนินทาลับหลังกัน
- คนเราสามารถเรียนรู้ที่จะรับคำวิพากษ์วิจารณ์จากผู้อื่นได้ คนส่วนใหญ่จะใช้เวลาไม่นานนักในการที่จะรับรู้ และเข้าใจว่าการพูดจาอย่างเปิดเผยตรงไปตรงมานั้น มีประโยชน์กับตัวเองขนาดไหน อาจจะยากในช่วงแรก แต่ใช้เวลาสักพักก็จะเริ่มรู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่ดีในการพัฒนาตนเองให้ดีขึ้น ดีกว่าการที่คนอื่นมาโกหกว่าเราดีแต่จริงๆ แล้วเรายังไม่ดี
- ผู้จัดการใน Netflix จะต้องฝึกฝนในการให้ feedback กับพนักงาน สิ่งที่จะต้องทำก็คือต้องพูดตรงไปตรงมา ฝึกฝนการสื่อสารแบบไม่ใช้อารมณ์ และจะต้องยกตัวอย่างพฤติกรรมที่เป็นปัญหา ให้เห็นภาพแบบชัดชัด รวมถึงเสนอแนวทางแก้ไขให้ดูด้วย ที่นี่จะพยายามฝึกฝนทุกคนให้สามารถพูดจาวิพากษ์วิจารณ์ได้อย่างตรงไปตรงมาและเป็นประโยชน์
- คนที่จะรับคำวิพากษ์วิจารณ์ได้อย่างดี จะต้องเข้าใจ และเห็นภาพอย่างชัดเจนว่าคนอื่นได้ขอให้ตนแก้ไขพฤติกรรมอะไรบ้าง
- การจะทำให้เกิดวัฒนธรรมในการพูดจาตรงไปตรงมา ให้ Feedback รับ Feedback คนที่เป็นหัวหน้า จะต้องเป็นตัวอย่างที่ดี ในเรื่องนี้ก่อนแล้วคนอื่นจะทำตามได้
- เมื่อทุกคนในองค์กรสื่อสารกันอย่างเปิดเผยตรงไปตรงมา ข่าวสารข้อมูลจะถูกบิดเบือนได้ยาก ดังนั้นข่าวลือต่างๆ ในองค์กรก็จะน้อยลงไปด้วย
- เมื่อเราทำผิด ก็ต้องเป็นแบบอย่างที่ดีในการยอมรับความผิดพลาด และอธิบายให้ผู้อื่นได้ทราบ ว่าทำไมเราถึงตัดสินใจแบบนั้น ตรงไหนที่มันผิดพลาด แล้วเราได้บทเรียนอะไรบ้าง การทำเช่นนี้จะกระตุ้นให้พนักงานแบ่งปันความคิดเห็น และแสดงความคิดเห็นในแง่มุมต่างๆ ได้อย่างเต็มใจ แม้ว่าพนักงานเหล่านั้นจะมีตำแหน่งที่แตกต่างจากเรามากแค่ไหนก็ตาม
ใส่ความเห็น