มีองค์กรไหนที่รู้สึกบ้างว่า งานสรรหาและคัดเลือกเป็นงานที่ทำยังไงก็ไม่ทันกับความต้องการของผู้จัดการสายงาน ได้มีโอกาสคุยกับท่านผู้อ่านท่านหนึ่งในช่วงวันหยุดที่ผ่านมา เล่าให้ฟังว่างานสรรหาและคัดเลือกของบริษัท ทำยังไงก็ไล่ตามความต้องการคนของหน่วยงานหลักไม่ทัน KPI ของงานสรรหาคัดเลือกยากที่จะบรรลุได้ เพราะความต้องการคนมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และที่สำคัญการลาออกก็มากขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน
งานสรรหาคัดเลือกถ้าจะทำได้ดีได้ตามเป้าหมายที่ต้องการนั้น เราจะต้องมีระบบการบริหารทรัพยากรบุคคลอย่างครบวงจรเช่นกัน สิ่งที่สำคัญๆ ที่จะต้องดำเนินการ เพื่อให้การสรรหาและคัดเลือก เป็นไปด้วยดีนั้น ก็มีดังต่อไปนี้ครับ
- การวางแผนกำลังคน เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญอย่างแรกที่จะต้องทำให้ชัดเจนก่อนที่จะเริ่มสรรหาและคัดเลือก ถ้าเราไม่มีการวางแผนกำลังคนอย่างชัดเจน การสรรหาและการคัดเลือกมันจะไปเรื่อยๆ ของมัน และไม่มีวันจบสิ้น บางองค์กรมีกำหนดแผนการสรรหา แต่ก็เหมือนกับไม่มีแผนอยู่ดี แผนกำลังคนถ้าจะทำให้ชัดเจนได้นั้น แผนธุรกิจของเราก็ต้องชัดเจนก่อน ถ้าแผนธุรกิจชัดเจน แผนคนชัดเจน การขอคนแบบสะเปะสะปะ ใครอยากขอคนก็ขอ ใครอยากเพิ่มก็เพิ่มมา แบบนี้จะไม่เกิดขึ้นในแน่นอน อาจจะมีบ้างว่า ระหว่างปีอาจจะมีในกรณีขอกำลังคนทดแทน ซึ่งสุดท้ายแล้วก็น่าจะทำให้การสรรหาและคัดเลือกเป็นไปในแนวทางที่ดีขึ้นได้ มิฉะนั้นแล้วใครอยากขอก็ขอมา ใครอยากได้คนก็เร่งมา ไม่มีการบอกว่าทำไมต้องขอทำไมต้องเพิ่ม แบบนี้งานสรรหาก็ทำแบบไม่รู้จบ
- การสร้าง Employer Branding เรื่องนี้ก็เริ่มทวีความสำคัญมากขึ้นในยุคนี้ เพราะเราสรรหาคนยากขึ้นเรื่อย ๆ หาแหล่งคนยากมากขึ้น ดังนั้นถ้าเราต้องการคนเก่งองค์กรเราจำเป็นที่จะต้องมีการสร้างแบรนด์ดิ้ง ขององค์กรของเราเพื่อให้คนภายนอกรู้จักมากขึ้น และสนใจที่อยากจะมาร่วมงานกับเรา ซึ่งในการสร้างแบรนด์ ก็ต้องอาศัยการร่วมมือกันของพนักงานทุกคนทุกระดับ โดยเฉพาะผู้บริหารระดับสูง จะต้องเป็นผู้นำในเรื่องนี้ให้ได้ มิฉะนั้นมันก็จะมาเป็นแฟชั่น แล้วก็จะหายไปอีกเช่นเคย
- การเก็บรักษาพนักงาน เรื่องนี้สำคัญมากในยุคปัจจุบันเช่นกัน ถ้าเราต้องการคนเก่งเข้ามาทำงานเมื่อเราสรรหาและพบตัวคนเก่งแล้ว องค์กรจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสร้างระบบการเก็บรักษาคนกลุ่มนี้ไว้ให้ได้ ถ้าเราไม่สามารถเก็บรักษาคนเก่งไว้ได้ปัญหามันจะวนกลับมาที่งานสรรหาอีก ดังนั้นผู้จัดการสายงานจึงจำเป็นที่จะต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการที่จะเก็บรักษาลูกน้องตัวเอง ไม่ใช่หามาแล้วก็ใช้งานอย่างไม่เหมาะสม หรือสร้างความอึดอัดในการทำงานให้กับพนักงานจนเค้าทนไม่ได้ แล้วก็วนมาบอกกับฝ่ายสรรหาว่าช่วยหาคนมาทดแทนอีกเพราะคนที่คุณหามานั้น เขาลาออกไปแล้ว ปัญหามันก็จะวนเวียนแบบนี้ไม่รู้จบ
ถ้าองค์กรใดมีปัญหาเรื่องของการเก็บรักษาพนักงานอัตราการลาออกของคนคนเก่งสูงมาก งานสรรหาและคัดเลือกจะกลายเป็นงานที่อยู่ในวังวนที่ไม่รู้จักจบสิ้นเพราะหามาแล้วเราไม่เก็บรักษาไว้อย่างดีก็ต้องวนหาใหม่
คนใหม่ก็ต้องหาคนเก่าเขาลาออกก็ต้องหาอีกแล้วจะเอาเวลาที่ไหนไปหาคนเก่งและคนดีเข้ามาทำงานได้ทันเวลา
อย่าลืมนะครับถ้าอยากได้คนดีคนเก่งก็ต้องเก็บรักษาเค้าไว้อย่างดีด้วยเช่นกันแล้วปัญหาของการสรรหาคัดเลือกจะน้อยลงทันที
ใส่ความเห็น