พอเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับการวางแผนการบริทรัพยากรบุคคลไปเมื่อวานนี้ ก็มีท่านผู้อ่านเขียนมาสอบถามว่า เรื่องของการบริหารค่าตอบแทนนี่เราต้องวางแผนอะไรด้วยหรือ เพราะจริงๆ มันก็เป็นงาน Routine ที่กำหนดเวลาตายตัวอยู่แล้ว ทำไมต้องมีแผนงานด้วย
ผมเดาว่า คำถามนี้มาจากองค์กรที่ไม่มีระบบการบริหารค่าตอบแทนที่ชัดเจน ดังนั้น มุมมองของผู้ถามก็เลยเป็นการมองเรื่องของการทำ payroll มากกว่า เรื่องการบริหารค่าตอบแทนกันจริงๆ
ก็เลยขออนุญาตตอบ และเขียนเป็นบทความไว้เพื่อให้เป็นแนวทางสำหรับท่านที่สนใจเกี่ยวกับการวางแผนในการบริหารค่าตอบแทนว่าจริงๆ แล้วในแต่ละปี จะต้องมีการกำหนดแผนงาน และเป้าหมายในเรื่องใดบ้าง
- แผนงานด้านการตรวจสอบระดับการจ่ายค่าตอบแทน สิ่งที่นักบริหารค่าจ้างในแต่ละองค์กรจะต้องทำก็คือ ทำแผนงานตรงนี้ เพื่อที่จะตรวจสอบว่า ระดับการเงินเดือน และค่าจ้างขององค์กรเรานั้น แข่งขันได้หรือไม่ และมันสอดคล้องกับแผนธุรกิจที่องค์กรตั้งเป้าหมายไว้หรือไม่ ซึ่งการตรวจสอบนี้ ก็อาจจะแยกเปรียบเทียบตามกลุ่มพนักงานก็ได้ หรือตามวิชาชีพก็ได้ อยู่ที่ว่า เราจะเน้นตรงจุดไหน และอยากรู้ว่ามีปัญหาตรงไหนบ้าง
- แผนงานด้านการตรวจสอบระบบสวัสดิการขององค์กร บางองค์กรต้องการปรับปรุงระบบสวัสดิการ ก็คงต้องเริ่มต้นด้วยการตรวจสอบสวัสดิการขององค์กรเราเทียบกับตลาดด้วยเช่นกัน ว่ามีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง
- แผนการปรับปรุงระบบค่าตอบแทนและสวัสดิการ และจากการศึกษาที่ทำเสร็จ ก็จะต้องเอาผลที่ได้มาวางแผนปรับปรุงระบบการบริหารค่าตอบแทนและสวัสดิการขององค์กรต่อด้วย โดยการวางแผนการปรับปรุงนั้น จะต้องพิจารณาจากวิสัยทัศน์ พันธกิจ และนโยบาย รวมถึงเป้าหมายในอนาคตขององค์กรประกอบด้วย เพื่อที่จะดูว่า แล้วเราต้องการคนแบบไหนมาทำงานให้เรา คนแบบนั้นต้องกำหนดอัตราค่าจ้างไว้ประมาณเท่าไหร่ และต้องการสวัสดิการอะไรบ้าง แล้วตอนนี้ของเราเป็นเท่าไหร่ ต้องปรับอะไรบ้าง ถึงจะดึงดูดคนกลุ่มนี้เข้ามาทำงานกับเราได้ นี่คือภาพของการวางแผนที่ต้องทำให้ชัดเจน จากนั้นก็ต้องทำแผนงบประมาณคร่าวๆ ว่าถ้าเราทำแบบนี้ เราจะต้องใช้งบประมาณประมาณเท่าไหร่ และผลลัพธ์ที่ได้จากการลงทุนตรงนี้ จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ส่งผลดีต่อองค์กรอย่างไร จากนั้นก็คงต้องนำเสนอแผนทั้งหมดให้ผู้บริหารอนุมัติ เป็นต้น
- แผนการขึ้นเงินเดือนประจำปี จากข้อมูลการแข่งขันของบริษัทกับตลาด ก็ทำให้นักบริหารค่าจ้างจะต้องวางแผนเรื่องของการขึ้นเงินเดือนประจำปีตามผลงานด้วย ซึ่งจะต้องพิจารณาจากสภาพเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ ค่าครองชีพ และผลประกอบการขององค์กรเราประกอบด้วย เพี่อที่จะได้เสนอแผนการปรับเงินเดือนประจำปีได้อย่างรัดกุม และตอบโจทย์ในเรื่องของการธำรงรักษาพนักงาน
นี่คือแผนงานด้านการบริหารค่าจ้างและสวัสดิการคร่าวๆ ซึ่งเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการบริหารค่าจ้างเงินเดือนและสวัสดิการของบริษัท ดังนั้นถ้าองค์กรของเรายังไม่มีแผนงานเหล่านี้ ก็ลองเอาแนวทางนี้ไปปรับใช้ดูก็ได้นะครับ เพื่อที่จะได้แผนงานทางด้านการบริหารค่าจ้างเงินเดือนที่ชัดเจนมากขึ้น
ซึ่งไม่ใช่แผนงานการทำ Payroll ของบริษัทเพียงอย่างเดียว
ใส่ความเห็น