คนเราทุกคนล้วนต้องเคยผ่านความผิดหวัง ความล้มเหลว ความเครียด ความไม่พึงพอใจในอะไรหลายๆ อย่าง บางคนก็ต้องการไปซะทุกอย่าง มีความอยากได้อยากมี ได้นั่นแล้วก็อยากได้นี่ ได้นี่แล้วก็อยากได้โน่น และพอได้มาแล้ว ก็อยากที่จะเก็บมันไว้ หวงแหนไม่อยากให้ใครมาได้มันไป ฯลฯ นี่คือความยึดติด ความยึดมั่นถือมั่น ลองอ่านนิทานวันนี้ดูนะครับ
ภายในขวดที่เต็มไปด้วยลูกกวาดหลากหลายสีสันกำลังล่อตาล่อใจเด็กน้อย จนมีเด็กน้อยคนหนึ่งเอามือล้วงเข้าไปในขวดเพื่อหยิบลูกกวาด เด็กน้อยอยากหยิบลูกกวาดให้ได้จำนวนมากๆ ก็เลยล้วงเข้าไปในขวดแล้วพยายามคว้าให้ได้กำใหญ่ที่สุด ผลก็คือ ไม่สามารถเอามือออกมาจากขวดได้ มือติดอยู่ที่ปากขวดออกไม่ได้ ก็ร้องไห้ฟูมฟายใหญ่
พระพุทธเจ้าเห็น จึงตรัสกับเด็กน้อยว่า “เด็กน้อย เธอรู้จักเพียงพอหน่อยสิ หยิบน้อยลงหน่อย มือที่กำไว้มันก็จะเล็กลง และก็จะสามารถเอามืออกมาจากขวดได้อย่างสบายๆ คนที่ไม่ยอมวางลูกกวาดลงบ้างเช่นเธอ จะไม่มีทางเอามือออกมาได้”
ชีวิตเราต้องรู้จักที่จะปล่อยวางสิ่งต่างๆ ที่มันหนักลงไปบ้าง เพื่อให้เราสบายขึ้น ลองอ่านอีกเรื่องนะครับ
มีขุนนางท่านหนึ่งได้มาเยี่ยมพระพุทธเจ้า มือทั้งสองข้างของเขาถือแจกันดอกไม้ไว้ทั้งสองมือ ซึ่งต้องการจะมาถวายพระพุทธเจ้าเป็นของขวัญ
พระพุทธเจ้าตรัสว่า “วางลง”
ขุนนางรีบวางแจกันที่อยู่มือขวาลง
พระพุทธเจ้ายังตรัสกับเขาอีกว่า “วางลง”
ขุนนางรีบวางแจกันที่อยู่ในมือซ้ายลง
ถึงตอนนี้พระพุทธเจ้ายังคงตรัสกับเขาอีกว่า “วางลง”
ขุนนางถามด้วยใบหน้าที่งุนงง “ข้าแต่พระพุทธเจ้าที่เคารพ ท่านยังต้องการให้ข้าวางสิ่งใดลงอีก ตอนนี้ในมือของข้าไม่มีอะไรแล้ว”
พระพุทธเจ้ากล่าวว่า “ใจของเจ้าไม่ได้วางความยึดมั่นถือมั่นลงอย่างสมบูรณ์ แม้ว่าเจ้าจะวางแจกันลงแล้ว แต่เจ้ายังมีความคิดที่ยึดมั่นอยู่ในจิตใจ ยึดมั่นในตำแหน่งหน้าที่ ยึดมั่นในอำนาจ ยึดมั่นว่าข้านี่คือขุนนางยิ่งใหญ่ ฯลฯ ต่อเมื่อท่านวางสิ่งเหล่านี้ลงได้ ท่านก็จะพบกับความสุขที่แท้จริง”
อ่านจบแล้วท่านปล่อยวางลงบ้างมั้ยครับ
ชีวิตคนเรานั้นเราต้องพบเจอกับอุปสรรคและปัญหาต่างๆ มากมาย การที่เราจะหลุดพ้นจากปัญหาต่างๆ นั้นได้ บางครั้งเราต้องนำเอาความกล้าอย่างหนึ่งออกมา ซึ่งนั่นก็คือ “กล้าที่จะปล่อยวาง” ลงบ้างนั่นเอง
ใส่ความเห็น