ความแตกต่างระหว่างหัวหน้ายอดแย่ กับหัวหน้ายอดเยี่ยม (ตอนจบ)

เมื่อวานนี้ได้สรุปเรื่องราวเกี่ยวกับหัวหน้ายอดแย่ ที่เป็นคุณลักษณะของหัวหน้าที่ไม่ดี ที่พนักงานโหวตไว้ วันนี้จะมาต่อกันในเรื่องของคุณลักษณะของหัวหน้ายอดเยี่ยมว่าเป็นอย่างไรบ้าง โดยพนักงานกลุ่มเดียวกัน ได้ให้ความเห็นไว้ว่า จากประสบการณ์ของตนเองที่ทำงานกับหัวหน้า หัวหน้างานแบบไหนที่ถือว่าเป็นหัวหน้าที่ยอดเยี่ยมแน่นอนว่าพนักงานต้องการหัวหน้าที่มีคุณสมบัติตรงข้ามกับหัวหน้างานยอดแย่ที่ได้สรุปไปเมื่อวานนี้

และมีคุณสมบัติเพิ่มเติมดังต่อไปนี้ครับ

• เป็นตัวของตัวเอง จงอย่าพยายามเลียนแบบคนอื่น หัวหน้างานที่ดีต้องเป็นตัวของตัวเอง ไม่ควรที่จะเลียนแบบหัวหน้างานก่อนหน้าเรา เพราะจริงๆ แล้วแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน มีหัวหน้างานบางคนอยากเป็นหัวหน้างานที่ดี ก็เลยเลียนแบบหัวหน้างานคนเก่าทุกอย่าง หรือพยายามเลียนแบบผู้นำองค์กรที่ดี แต่กลับทำไม่ได้ดีเท่า ก็เนื่องจากเราไม่ใช่เขานั่นเอง จงหาสไตล์ที่ดีของตนเองให้เจอ

 

• ชี้แจงเป้าหมายของหน่วยงานให้ทีมงานรับทราบ หัวหน้างานที่ดี จะต้องชี้แจง บอกกล่าว หรือเล่าถึงเป้าหมายของหน่วยงานของเราให้พนักงานทุกคนได้รับทราบ โดยที่พนักงานทุกคนในทีมงานจะต้องเห็นภาพความสำเร็จแบบเดียวกัน และที่สำคัญก็คือ หัวหน้าจะต้องบอกพนักงานได้ว่า แต่ละคนในทีมงานนั้นมีส่วนในการทำให้เป้าหมายสำเร็จได้อย่างไร เพื่อทำให้พนักงานรู้สึกถึงการมีส่วนร่วมในความสำเร็จ ผิดกับหัวหน้างานที่ไม่ดี มักจะไม่บอกเป้าหมายอะไรเลย อีกทั้งยังไม่เคยทำให้พนักงานรู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จด้วยซ้ำ

 

• สนับสนุนการทำงานของพนักงาน หัวหน้างานที่ดีจะต้องติดตาม และสนับสนุนการทำงานของพนักงานแต่ละคนอย่างดี ต้องคอยพูดคุย และบอกพนักงานถึงความคืบหน้าของงาน และเข้ามามีส่วนร่วมในการคิด และทำงานร่วมกัน แต่ก็ไม่ใช่เข้ามาล้วงลูกจนมากเกินไป รวมทั้งไม่ใช่มัวแต่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมันปาก โดยที่ไม่เคยคิดที่จะเข้ามารับผิดชอบในงานด้วยกันกับทีม ได้แต่เดินลอยชายไปมา

 

• มีกิจกรรมใหม่ๆ กับทีมงาน หัวหน้างานที่ดีนอกจากเรื่องงานแล้ว ก็ต้องสร้างกิจกรรมใหม่ๆ ที่ทีมงานจะต้องได้อยู่ร่วมกัน เช่น การออกไปทานข้าวร่วมกันบ้าง ไม่ใช่หัวหน้าถือตัวว่าใหญ่กว่า ก็เลยไม่สนใจพนักงาน อาจจะมีการฉลองความสำเร็จของงานโดยการไปเลี้ยงฉลอง หรือไปร้องเพลงกันบ้าง ฯลฯ หัวหน้าบางคนก็มาทำงานแต่เช้า เพื่อที่จะได้มาพูดคุยและทานข้าวเช้าร่วมกับพนักงานก่อนที่จะเริ่มงาน เป็นต้น

 

• ให้ Feedback ในการทำงานอย่างตรงไปตรงมา หัวหน้างานที่ดีในยุคนี้จะต้องเรียนรู้วิธีการให้ Feedback ที่ดีกับพนักงาน เพราะพนักงานรุ่นใหม่ๆ ต้องการที่จะทราบความคืบหน้าในงานของตนเอง และต้องการรู้ว่า งานที่ทำออกมานั้น ดี หรือไม่ดีแค่ไหน และต้องปรับปรุงอะไรบ้าง ซึ่งผิดกับหัวหน้างานยุคเก่าๆ ที่ไม่เคยบอกอะไรพนักงานเลย พนักงานในยุคนี้เอง ก็ถูกปลูกฝังมาเยอะว่า Feedback เป็นเรื่องที่ดี และทำให้เราสามารถพัฒนาตนเองได้อย่างดี ดังนั้น พนักงานก็อยากได้ Feedback แบบสร้างสรรค์จากหัวหน้าของตนเองเช่นกัน

 

• ให้การยอมรับในความเชี่ยวชาญของพนักงาน คนที่เป็นหัวหน้านั้นไม่ใช่คนที่เก่งไปหมดทุกเรื่อง และจริงๆ ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเก่งไปหมดทุกเรื่อง หัวหน้าที่ดีจะต้องรู้ว่าพนักงานของตนเองคนไหนเก่งเรื่องอะไร และให้การยอมรับนับถือในสิ่งที่พนักงานเชี่ยวชาญจริงๆ ไม่ใช่คอยที่จะขัดขวางไม่ให้พนักงานแสดงฝีมือ ทั้งๆ ที่ตัวเองก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไรมากไปกว่าพนักงานเลย แถมยังมาพูดจาเสียดสี ทำให้พนักงานรู้สึกเจ็บๆ แสบๆ หัวหน้างานแบบนี้ไม่มีทางที่จะเอาพนักงานอยู่เลยครับ พนักงานคนหนึ่งเล่าให้ฟังว่า รู้สึกดีมากกับหัวหน้าของตนที่ยอมรับในฝีมือของตน และยังชื่นชมกับเพื่อนร่วมงานคนอื่นให้ยอมรับอีกด้วย เลยยิ่งทำให้เกิดความรู้สึกดีกับหัวหน้ามากขึ้นไปอีก

 

• ส่งเสริมให้ทีมงานได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ การทำงานนั้น เราต้องทำให้ดีขึ้นอยู่เสมอ และการที่จะทำให้งานดีขึ้นได้นั้น ก็ต้องอาศัยความคิดสร้างสรรค์ หัวหน้างานที่ดีจะต้องส่งเสริมให้พนักงานได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์อย่างเต็มที่ ไม่ควรเป็นคนไปปิดกั้นความคิดของพนักงานเสียเอง เพราะหัวหน้าบางคนชอบพูดว่า “ที่คิดมาทั้งหมด พี่เคยคิดมาหมดแล้ว มันไม่ได้ผลหรอก” หรือ “ที่คิดมาก็ดีนะ แต่………” ใครเคยเจอแบบนี้บ้างครับ แล้วอยากคิดต่อมั้ยครับ

 

• ไม่ซ้ำเติมความผิดพลาดของพนักงาน หัวหน้าที่ดีจะต้องเข้าใจในความผิดพลาดของพนักงานที่ทำ และต้องเข้ามาช่วยหาสาเหตุ และช่วยแก้ไข รวมทั้งช่วยทำให้พนักงานได้เรียนรู้ เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดนั้นซ้ำอีก ไม่ใช่มัวแต่รอช่อง รอจังหวะ พอพนักงานพลาดมา ก็ซ้ำทันที บางคนซ้ำแบบเอาพนักงานจมดินเลยก็มี ความผิดพลาดเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ ถ้าเราต้องการงานที่ดี งานใหม่ๆ แปลว่าก็ต้องลองทำอะไรใหม่ๆ และการลองทำก็ย่อมจะมีความผิดพลาดเกิดขึ้นได้ หัวหน้าก็ต้องเข้าใจประเด็นนี้ และคอยให้กำลังใจ และสอนงาน เพื่อปรับปรุงไม่ให้เกิดความผิดพลาดขึ้นอีก

 

• เป็นผู้นำที่แท้จริง การบริหารจัดการ และการเป็นผู้นำนั้นแตกต่างกันครับ บริหารก็คือทำงานให้สำเร็จได้ตามเป้าหมาย แต่การเป็นผู้นำก็คือ การสร้างความน่าเชื่อถือ และสร้างแรงบันดาลใจให้กับพนักงานของเรา นี่คือหน้าที่ของคนที่เป็นผู้นำที่ดี ในทางตรงกันข้ามหัวหน้างานบางคนเข้ามาดำรงตำแหน่งปุ๊ป ก็ไปทำให้พนักงานหมดแรงในการทำงานเลยก็มี และเมื่อไหร่ที่พนักงานไม่เชื่อถือ เราก็จะบริหารลำบากมากขึ้น

 

• พัฒนาตนเองอยู่เสมอ หัวหน้างานที่ดีนั้น จะต้องไม่หยุดพัฒนาตนเอง จะมีแผนในการพัฒนาตนเองในเรื่องใดเรื่องหนึ่งเสมอ เพื่อให้ตนเองมีความรู้ความสามารถที่สูงขึ้น และเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับพนักงานในทีมงานอีกด้วย บางเรื่องที่หัวหน้างานไม่รู้ ก็ไม่น่าอาย เราก็สามารถที่จะสอบถามจากพนักงานที่รู้มากกว่าเราได้ ซึ่งกลับกลายเป็นการให้เกียรติพนักงานมากกว่า ผิดกับหัวหน้างานบางประเภทที่มีทิฐิเต็มตัว ไม่เคยคิดที่จะเรียนรู้อะไรใหม่ๆ ยิ่งให้ไปสอบถามพนักงานที่เป็นลูกน้องของตนนั้น อย่าได้คิดเลย

 

• เป็นเพื่อนกับพนักงานได้ หัวหน้างานที่ดีไม่จำเป็นต้องเป็นหัวหน้าอย่างเดียว เราสามารถที่จะเป็นเพื่อนกับพนักงานได้ การเป็นเพื่อนก็คือ การเข้ามาไต่ถามถึงทุกข์สุข ทั้งเรื่องงาน เรื่องส่วนตัว การเข้ามาเล่นกับพนักงานบ้าง สนุกกับพนักงานบ้าง ไม่ใช่ถือตัวว่าตัวเองเป็นหัวหน้า ข้าใหญ่กว่า ข้าไม่ใช่เพื่อนเล่นนะ แบบนี้มันคงไม่ดีกับพนักงานรุ่นใหม่ๆ แน่ๆ ครับ ยิ่งสมัยนี้ผมเห็นหัวหน้างานในองค์กรใหม่ๆ แต่ละที่ วางตัวเป็นเพื่อนกับพนักงานเลยก็มี แต่พนักงานเองก็ไม่ได้ปีนเกลียวนะครับ เพราะรู้ว่าอะไรคืออะไร แต่การทำงานจะรู้สึกถึงความผูกพันกันในทีมงานมากขึ้น ไม่มีกำแพงมากั้นครับ

การเป็นหัวหน้างานยอดเยี่ยมนั้น นอกจากเรื่องงานที่จะต้องบริหารจัดการให้ได้ตามเป้าหมายแล้ว สิ่งสำคัญมากไปกว่าเรื่องการบริหารงาน ก็คือ การบริหารคน จาก workshop ของพนักงานที่ให้คำตอบเรื่องหัวหน้างานที่ดีจะต้องมีลักษณะอย่างไรนั้น พนักงาน 100% ตอบเหมือนกันหมดว่า หัวหน้างานที่ยอดเยี่ยมจะต้องเก่งเรื่องของการบริหารคน จะต้องเข้าใจพนักงาน ต้องใส่ใจ ต้องให้ความสำคัญกับเรื่องของการบริหารคน เพราะคนจะสร้างผลงานที่ดีให้เอง ถ้าเราบริหารคนได้ดี

องค์กรของท่าน หัวหน้างานส่วนใหญ่เป็นแบบยอดเยี่ยม หรือยอดแย่ครับ