ท่านที่ดูแลงานบริหารงานบุคคล โดยเฉพาะเรื่องของการบริหารค่าจ้างเงินเดือนนั้น เคยทราบเหตุผลเบื้องหลังของการจ่ายโบนัสหรือไม่ครับ ว่าทำไมจึงต้องมีการจ่ายโบนัสให้กับพนักงานด้วย จ่ายเป็นเงินเดือนเพียงอย่างเดียวไม่ได้หรืออย่างไร
โบนัสคืออะไร คำนิยามของโบนัส ก็คือ เงินค่าตอบแทนที่บริษัทจ่ายให้กับพนักงาน อันเนื่องมาจากบริษัทมีผลประกอบการที่ดี ได้ตามเป้าหมาย หรือพูดง่ายๆ ว่ามีผลกำไร และมีเงินพอที่จะสามารถจ่ายให้กับพนักงานได้ โดยเงินโบนัสนี้โดยหลักการแล้ว เราจะจ่ายให้พนักงานเพื่อตอบแทนผลงานของพนักงานที่ผ่านมา และเพื่อกระตุ้นให้พนักงานมีแรงจูงใจในการสร้างผลงานที่ดีในปีถัดไปด้วย
ดังนั้นโบนัสจึงเป็นเงินที่มาจากผลกำไรของบริษัท ซึ่งถือว่าเป็นผลงานปีต่อปี การที่บริษัทจ่ายโบนัสให้กับพนักงานโดยใช้ผลงานของพนักงานเป็นเกณฑ์ในการจ่าย จึงเป็นการกระตุ้นให้พนักงานอยากสร้างผลงานที่ดีให้กับบริษัท เพราะถ้าเขาสามารถทำผลงานได้ดีแล้ว เขาก็จะได้ผลตอบแทนตามมาจากผลงานที่ดีของเขา
โดยทั่วไปบริษัทจะไม่จ่ายเงินเดือนพนักงานในอัตราที่สูงมากนัก นโยบายของบริษัทส่วนใหญ่ก็คือ จ่ายให้แข่งขันได้กับตลาดที่เราแข่งขันด้วย และจะจัดให้มีค่าจ้างจูงใจ ซึ่งก็คือโบนัสตามผลงาน เป็นค่าจ้างเสริมเพิ่มเข้าไปในค่าตอบแทนของพนักงาน ซึ่งเงินโบนัสที่ได้มา ก็มาจากเงินกำไรของบริษัท ถ้าบริษัทมีกำไรมาก ก็ตอบแทนให้กับพนักงานในสัดส่วนที่มากขึ้น ก็จะเป็นการกระตุ้นการสร้างผลงานของพนักงานได้ในระดับหนึ่ง และเป็นการตอบแทนผลงานอย่างตรงไปตรงมา กล่าวคือ ถ้าบริษัทมีผลกำไรมาก ก็จ่ายคืนให้กับพนักงานมากหน่อย ซึ่งวิธีนี้จะทำให้ไม่มี Fixed cost ในรูปของเงินเดือนที่สูง และบริษัทก็สามารถรักษาความสามารถในการแข่งขันได้
การจ่ายโบนัสที่จะเกิดผลมากที่สุดก็คือ จ่ายตามผลงาน และยิ่งถ้าผลงานนั้นสามารถสร้างผลที่เป็นตัวเงินได้จะยิ่งดีมาก หลักของเงินโบนัสจะเป็นหลักที่ภาษาอังกฤษเขาใช้คำว่า Self Funding ก็คือผลงานนั้นสร้างเงินขึ้นมาจำนวนหนึ่ง และบริษัทก็จะนำเอาเงินจำนวนนี้มากแจกจ่ายให้กับพนักงานตามผลงานที่แต่ละคนได้ลงมือสร้างมันขึ้นมา
ตัวอย่างเช่น ทีมขายสามารถสร้างยอดขาย และบริหารต้นทุนขายจนกระทั่งได้กำไรมาก้อนหนึ่ง บริษัทก็จะนำเอาเงินกำไรที่ได้มานี้แบ่งคืนให้กับพนักงานที่ช่วยกันสร้างกำไรนี้ขึ้นมา หรือกรณีการลดต้นทุนก็ใช้ได้ เช่น หน่วยงานที่ไม่ใช่เป็นหน่วยงานหาเงิน แต่สามารถทำเงินได้เช่น หน่วยงานบุคคล บัญชี การเงิน ฯลฯ สร้างโครงการลดต้นทุนในหน่วยงานของตนเองขึ้นมา โดยต้นทุนที่ลดลงไปได้นั้นคิดเป็นเงินได้จำนวน 200,000 บาท บริษัทก็จะนำเงินที่ลดลงไปได้นี้มาจ่ายคืนให้กับพนักงานเพื่อตอบแทนผลงานที่เขาทำได้
จะเห็นว่าเงินโบนัสนั้นนั้นจะต้องมาจากเงินที่สามารถสร้างผลงานได้ และนำเงินก้อนนั้นมาจ่ายคืนให้กับพนักงานที่มีส่วนร่วมในการสร้างผลงานนั้นนั่นเอง ถ้าเราทำได้แบบนี้ โบนัสจะเป็นเครื่องมือในการกระตุ้นและจูงใจให้พนักงานสร้างผลงานที่ดีเลิศให้กับองค์กรได้
ในวันต่อไปผมจะเล่าให้อ่านถึงรูปแบบการจ่ายโบนัสในบ้านเราว่ามีวิธีในการจ่ายแบบใดบ้าง เผื่อว่าจะนำไปใช้ประยุกต์กับการจ่ายโบนัสของบริษัทท่านเองได้ครับ
โบนัสแบบ Self Funding เรื่องลดค่าใช้จ่าย จะใช้ได้ครั้งเดียวหรือปล่าว
เพราะถ้าพนักงานลดในปีนี้ได้แล้ว น่าจะสุดๆแล้ว ปีต่อๆไปก็อาจไม่สามารถลดไปกว่านี้ แล้วมูลค่าที่ลดได้พนักงานควรได้ทั้งหมด หรือบางส่วน
เป็นบริษัท ขนาดเล็ก SME ค่ะ
โบนัสแบบ Self Funding นั้น ถ้าเป็นการใช้ในแนวของกำไร หรือยอดขายที่เพิ่มขึ้น ก็จะสามารถใช้ได้ในระยะยาวครับ แต่ถ้าเป็นเรื่องของการประหยัดต้นทุนแล้ว ก็อาจจะใช้ได้ในเวลาที่จำกัดครับ เพราะต้นทุนบางอย่างก็อาจจะลงไปไม่ได้มากกว่านี้ แต่อย่างไรก็ดี อาจจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงกระบวนการ หรือวิธีการทำงาน เพื่อให้ดีขึ้นได้อีกครับ
ส่วนมูลค่าที่ควรจะตัดให้พนักงานนั้น จริงๆ ไม่ควรจะตัดให้ทั้งหมดนะครับ บริษัทเองก็ต้องมีส่วนได้ประโยชน์ด้วยนะครับ เพียงแต่สัดส่วนในการแบ่งนั้นไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัวครับผม
ขอบคุณครับ
อาจารย์เรียนถามครับว่าโบนัสที่จะจ่ายซึ่งพิจารณาจากกำไร ควรจะมีสัดส่วนเท่าไหร่หรือควรไม่เกินกี่เปอร์ขิงกำไร
สัดส่วนโบนัสจะไม่ตายตัวนะครับ อยู่ที่ความสามารถในการจ่ายของบริษัทด้วยครับ และ
อีกปัจจัยก็คืออัตราโบนัสที่ธุรกิจเดียวกับเราเขาให้กันเท่าไหร่ จะเอามาพิจารณาการจ่ายโบนัสของเราครับ
ในทางทฤษฎีมีข้อมูลไหมครับว่าโบนัสจะมีสัดส่วนไม่เกินเท่าไหร่
เช่นทางทฤษฎีงบประมาณค่าจ้างสวัสดิการบุคลากรของหน่วยงานต้องไม่เกินร้อยละ 40 ของงบใช้จ่าย
ในทางทฤษฎีจริงๆ แล้วไม่มีการกำหนดสัดส่วนระหว่างโบนัสกับงบประมาณค่าจ้างนะครับว่าจะต้องเป็นเท่าไหร่ สิ่งที่ผมใช้เป็นปัจจัยในการพิจารณาก็คือ 1.ความสามารถในการจ่ายขององค์กร 2.ธุรกิจที่ใกล้เคียงกับเราเขาจ่ายอยู่เท่าไหร่ 3.จ่ายแล้วสามารถจูงใจพนักงานให้สร้างผลงานได้ในปีถัดไปจริงๆ
ขอบคุณครับ
อยู่บริษัท xxx มา 12 ปี
มีประสบการณ์ในสายงาน 20 ปี
……….
ข้อ 1. ทำน้อย รับผิดชอบต่ำ ได้โบนัส 2 เดือน
ข้อ 2. ทำมาก รับผิดชอบสูง ได้โบนัส 2 เดือน
……….
ท่านๆคิดว่า ควรเลือกข้อไหน…ค่ะ